ทหารหรือกองทัพ-เป็นข้าราชการที่นักการเมืองกลัวที่สุด โดยเฉพาะนักการเมืองชั่วที่นำคนเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง และก่อการร้ายเข่นฆ่าทหาร-ประชาชน!
ประวัติศาสตร์ไทยบันทึกไว้ว่า ยามใดที่รัฐบาลโกงกินบ้านเมือง โดยไม่แยแสต่อความรู้สึกประชาชน อีกทั้ง ส.ส.ในรัฐสภาไม่ทำหน้าที่ตรวจสอบหรือปลดรัฐบาลชั่ว เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติและประชาชน
เพราะ ส.ส.ส่วนใหญ่ล้วนซื้อเสียงเลือกตั้ง เข้ามายึดอำนาจในรัฐบาลและสภา จนกลายเป็น “กลุ่มโจรใส่สูท” ที่สุมหัวโกงชาติ เนื้อแท้รัฐบาลและสภาไทย จึงเป็นธนา-คณา-โจราธิปไตย มิใช่ประชาธิปไตยแท้จริงของปวงชนแม้แต่น้อย!
เมื่อรัฐบาลกับสภาไม่สนใจถูก-ผิด อีกทั้งฝ่ายค้านก็เสียงน้อยกว่า และไม่ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างตรงไปตรงมา สภาจึงไม่อาจยับยั้งการโกงของรัฐบาลชั่วได้
แถมระบบตรวจสอบนักการเมืองชั่ว เช่น ป.ป.ช. คตส. ปปง. ล้วนเป็นง่อย ทำให้สังคมไทยไร้หนทางลงโทษหรือขจัดรัฐบาลชั่ว เหลือเพียงกองทัพเท่านั้นที่มีศักยภาพ พอจะขจัดนักการเมืองที่ยึดอำนาจรัฐอย่างผิดกฎหมาย และใช้อำนาจรัฐอย่างอธรรมเพื่อตนเองและพวกพ้อง
จนเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ทหารจำต้องแบกปืนลากรถถัง ออกมาทำรัฐประหารยึดอำนาจรัฐจากรัฐบาลชั่ว ดังรัฐบาลขี้ฉ้อทักษิณโดนทหารทำรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ไงครับ!
นักการเมืองดีไม่กลัวทหาร-แต่นักการเมืองชั่วกลัวทหารราว “หนูกลัวแมว”
ทักษิณกลับมายึดอำนาจรัฐตั้งรัฐบาลหุ่นได้ในครั้งนี้ ก็พยายามจะเข้าควบคุมกองทัพ เพื่อโยกย้ายนายทหารที่ไม่ยอมสยบกับตนให้พ้นจากตำแหน่งสำคัญในกองทัพตลอดเวลา แต่ติดขัดที่ พ.ร.บ.กลาโหมไม่เปิดทางให้ รัฐมนตรีกลาโหมล้วงลูกแต่งตั้งทหารตามใจชอบเท่านั้นเอง
หากรัฐบาลหุ่นทักษิณยึดกองทัพได้ ประเทศไทยจะตกอยู่ในกำมือตระกูลชินวัตรทันที เพราะวันนี้..ข้าราชการแทบทุกกระทรวงทบวงกรม รวมทั้งองค์กรอิสระบางแห่ง ต่างสยบอยู่ใต้อิทธิพลทักษิณโดยส่วนใหญ่แล้ว
ในอดีต..หลังทำรัฐประหารสำเร็จ กองทัพไม่เคยทำการปฏิรูปการเมืองในทุกมิติ โดยเฉพาะรูปแบบการเมืองที่เข้ากับสภาพสังคมไทย เพื่อยุติการใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งของนักการเมืองชั่วเลย
แถมกองทัพที่ทำรัฐประหาร ยังยื่นอำนาจรัฐกลับคืนไปให้นักการเมืองชั่วด้วยมือของตนเอง ตามรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นโดยมนุษย์ไม่กี่คน ซึ่งจงใจขุดหลุมพรางกำหนดให้ที่มาของ ส.ส.ทั้งสภา ต้องมาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต 100% ครับ!
ประเทศไทยจึงเกิดวงจรอุบาทว์ ทหาร-รัฐประหารล้มนักการเมืองชั่ว แล้วทหารก็ทำรัฐธรรมนูญใหม่ จัดให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.เข้าสภา 100% บรรดานักการเมืองชั่ว-ก็พาเหรดลงสมัครรับเลือกตั้ง แล้วใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งกันอย่างโจ๋งครึ่มโดยกกต. 5 หัวขวดจะทำเป็นหูหนวก-ตาบอดแบบฉับพลัน!
ลงท้าย..นักการเมืองชั่วก็ใช้เงินยึดอำนาจรัฐ ไปไว้ในกำมือได้สำเร็จอีกครั้ง หลังจากนั้นกองทัพที่ทำรัฐประหาร (แบบไม่มีการปฏิรูป) ก็จะถูกนักการเมือง-นักวิชาการ-สื่อมวลชนชั่ว โหมประณามว่า..กองทัพทำลายชาติบ้านเมือง จนกองทัพที่ยุติการโกงกินของนักการเมืองชั่ว กลายเป็นผู้ร้ายของสังคมไปโดยปริยาย
แต่..เมื่อนักการเมืองชั่วโกงบ้านเมืองซ้ำอีก-ผู้คนรับไม่ได้อีก ทหารก็จะออกมาทำรัฐประหารอีก เป็นวงจรอุบาทว์ที่ทำให้ชาติไทยไม่อาจก้าวไปข้างหน้า!
วันนี้-สังคมไทยจึงไม่ยอมรับ เผด็จการทหาร-ที่ใช้ปืนยึดอำนาจรัฐจากนักการเมืองชั่ว โดยไม่มีการปฏิรูปการเมืองในทุกมิติ ขณะเดียวกัน-ประชาชนก็ไม่มีวันจะยอมรับเผด็จการรัฐสภาของนักการเมืองชั่ว ที่ใช้เงินยึดอำนาจรัฐ-เพื่อโกงกินบ้านเมือง โดยไม่ปฏิรูปการเมืองในทุกมิติเช่นกัน
การใช้เงินยึดอำนาจรัฐกับการใช้ปืนยึดอำนาจรัฐ เพียงเพื่อหาประโยชน์ใส่ตนและพวกพ้อง ไม่ได้ทำเพื่อชาติและส่วนรวม..ล้วนชั่วช้าสามานย์ทั้งคู่?
ทว่า..ถ้าถามว่า..เผด็จการทหารกับเผด็จการรัฐสภาทักษิณ ใครโกงชาติ-ใครทำร้ายชาติมากกว่ากัน? คำตอบตรงกันครับว่า..เผด็จการรัฐสภาทักษิณนั้น โครตโกง-โกงทั้งโครต และทำลายชาติมากกว่าเผด็จการทหารแน่นอน!
ในอดีตคณะรัฐประหารมักตกหลุมพราง สื่อมวลชน-นักวิชาการ-นักการเมืองชั่วกลุ่มหนึ่ง ที่ลวงหลอกว่า-เลือกตั้ง-คือ-ประชาธิปไตย-ประชาธิปไตย-คือ-การเลือกตั้ง จนเกิดรัฐธรรมนูญที่ไม่สอดคล้องกับสภาพสังคมไทย เพราะเปิดโอกาสให้นักการเมืองชั่วใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งได้ จนคนชั่วได้ขึ้นปกครองบ้านเมืองเรื่อยมา
การเอาชนะทักษิณกับพวกแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดนั้น-ไม่ยาก ถ้า..ทหารหรือกองทัพกล้าคิด-กล้าปฏิรูปการเมือง ในทุกมิติให้ถูกต้องสอดคล้องกับสภาพสังคมไทย เท่านั้นแหละ..นักการเมืองชั่วทั้งหลาย ก็หมดโอกาสใช้เงินยึดอำนาจรัฐอย่างฉ้อฉล หมดช่องทางที่จะใช้อำนาจรัฐอธรรมโกงกินชาติ
ถึงเวลาทหารส่วนใหญ่ที่ยังเป็นทหารใน “กองทัพของพระเจ้าอยู่หัว” ต้องคิดใหม่-ทำใหม่ให้ถูกต้อง เพื่อเกียรติภูมิของทหารหรือกองทัพ ที่สำคัญเพื่อปกป้องรักษาชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ให้มั่นคง
ทั้งหมดก็เพื่อทหารหรือกองทัพ จะได้เป็นที่รักของประชาชนคนไทยทั้งชาติ และเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันชาติไทย ให้เจริญก้าวหน้าสู่มิติการเมืองใหม่ที่ดีงามอย่างแท้จริงไงล่ะครับ!
ประวัติศาสตร์ไทยบันทึกไว้ว่า ยามใดที่รัฐบาลโกงกินบ้านเมือง โดยไม่แยแสต่อความรู้สึกประชาชน อีกทั้ง ส.ส.ในรัฐสภาไม่ทำหน้าที่ตรวจสอบหรือปลดรัฐบาลชั่ว เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติและประชาชน
เพราะ ส.ส.ส่วนใหญ่ล้วนซื้อเสียงเลือกตั้ง เข้ามายึดอำนาจในรัฐบาลและสภา จนกลายเป็น “กลุ่มโจรใส่สูท” ที่สุมหัวโกงชาติ เนื้อแท้รัฐบาลและสภาไทย จึงเป็นธนา-คณา-โจราธิปไตย มิใช่ประชาธิปไตยแท้จริงของปวงชนแม้แต่น้อย!
เมื่อรัฐบาลกับสภาไม่สนใจถูก-ผิด อีกทั้งฝ่ายค้านก็เสียงน้อยกว่า และไม่ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างตรงไปตรงมา สภาจึงไม่อาจยับยั้งการโกงของรัฐบาลชั่วได้
แถมระบบตรวจสอบนักการเมืองชั่ว เช่น ป.ป.ช. คตส. ปปง. ล้วนเป็นง่อย ทำให้สังคมไทยไร้หนทางลงโทษหรือขจัดรัฐบาลชั่ว เหลือเพียงกองทัพเท่านั้นที่มีศักยภาพ พอจะขจัดนักการเมืองที่ยึดอำนาจรัฐอย่างผิดกฎหมาย และใช้อำนาจรัฐอย่างอธรรมเพื่อตนเองและพวกพ้อง
จนเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ทหารจำต้องแบกปืนลากรถถัง ออกมาทำรัฐประหารยึดอำนาจรัฐจากรัฐบาลชั่ว ดังรัฐบาลขี้ฉ้อทักษิณโดนทหารทำรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ไงครับ!
นักการเมืองดีไม่กลัวทหาร-แต่นักการเมืองชั่วกลัวทหารราว “หนูกลัวแมว”
ทักษิณกลับมายึดอำนาจรัฐตั้งรัฐบาลหุ่นได้ในครั้งนี้ ก็พยายามจะเข้าควบคุมกองทัพ เพื่อโยกย้ายนายทหารที่ไม่ยอมสยบกับตนให้พ้นจากตำแหน่งสำคัญในกองทัพตลอดเวลา แต่ติดขัดที่ พ.ร.บ.กลาโหมไม่เปิดทางให้ รัฐมนตรีกลาโหมล้วงลูกแต่งตั้งทหารตามใจชอบเท่านั้นเอง
หากรัฐบาลหุ่นทักษิณยึดกองทัพได้ ประเทศไทยจะตกอยู่ในกำมือตระกูลชินวัตรทันที เพราะวันนี้..ข้าราชการแทบทุกกระทรวงทบวงกรม รวมทั้งองค์กรอิสระบางแห่ง ต่างสยบอยู่ใต้อิทธิพลทักษิณโดยส่วนใหญ่แล้ว
ในอดีต..หลังทำรัฐประหารสำเร็จ กองทัพไม่เคยทำการปฏิรูปการเมืองในทุกมิติ โดยเฉพาะรูปแบบการเมืองที่เข้ากับสภาพสังคมไทย เพื่อยุติการใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งของนักการเมืองชั่วเลย
แถมกองทัพที่ทำรัฐประหาร ยังยื่นอำนาจรัฐกลับคืนไปให้นักการเมืองชั่วด้วยมือของตนเอง ตามรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นโดยมนุษย์ไม่กี่คน ซึ่งจงใจขุดหลุมพรางกำหนดให้ที่มาของ ส.ส.ทั้งสภา ต้องมาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต 100% ครับ!
ประเทศไทยจึงเกิดวงจรอุบาทว์ ทหาร-รัฐประหารล้มนักการเมืองชั่ว แล้วทหารก็ทำรัฐธรรมนูญใหม่ จัดให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.เข้าสภา 100% บรรดานักการเมืองชั่ว-ก็พาเหรดลงสมัครรับเลือกตั้ง แล้วใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งกันอย่างโจ๋งครึ่มโดยกกต. 5 หัวขวดจะทำเป็นหูหนวก-ตาบอดแบบฉับพลัน!
ลงท้าย..นักการเมืองชั่วก็ใช้เงินยึดอำนาจรัฐ ไปไว้ในกำมือได้สำเร็จอีกครั้ง หลังจากนั้นกองทัพที่ทำรัฐประหาร (แบบไม่มีการปฏิรูป) ก็จะถูกนักการเมือง-นักวิชาการ-สื่อมวลชนชั่ว โหมประณามว่า..กองทัพทำลายชาติบ้านเมือง จนกองทัพที่ยุติการโกงกินของนักการเมืองชั่ว กลายเป็นผู้ร้ายของสังคมไปโดยปริยาย
แต่..เมื่อนักการเมืองชั่วโกงบ้านเมืองซ้ำอีก-ผู้คนรับไม่ได้อีก ทหารก็จะออกมาทำรัฐประหารอีก เป็นวงจรอุบาทว์ที่ทำให้ชาติไทยไม่อาจก้าวไปข้างหน้า!
วันนี้-สังคมไทยจึงไม่ยอมรับ เผด็จการทหาร-ที่ใช้ปืนยึดอำนาจรัฐจากนักการเมืองชั่ว โดยไม่มีการปฏิรูปการเมืองในทุกมิติ ขณะเดียวกัน-ประชาชนก็ไม่มีวันจะยอมรับเผด็จการรัฐสภาของนักการเมืองชั่ว ที่ใช้เงินยึดอำนาจรัฐ-เพื่อโกงกินบ้านเมือง โดยไม่ปฏิรูปการเมืองในทุกมิติเช่นกัน
การใช้เงินยึดอำนาจรัฐกับการใช้ปืนยึดอำนาจรัฐ เพียงเพื่อหาประโยชน์ใส่ตนและพวกพ้อง ไม่ได้ทำเพื่อชาติและส่วนรวม..ล้วนชั่วช้าสามานย์ทั้งคู่?
ทว่า..ถ้าถามว่า..เผด็จการทหารกับเผด็จการรัฐสภาทักษิณ ใครโกงชาติ-ใครทำร้ายชาติมากกว่ากัน? คำตอบตรงกันครับว่า..เผด็จการรัฐสภาทักษิณนั้น โครตโกง-โกงทั้งโครต และทำลายชาติมากกว่าเผด็จการทหารแน่นอน!
ในอดีตคณะรัฐประหารมักตกหลุมพราง สื่อมวลชน-นักวิชาการ-นักการเมืองชั่วกลุ่มหนึ่ง ที่ลวงหลอกว่า-เลือกตั้ง-คือ-ประชาธิปไตย-ประชาธิปไตย-คือ-การเลือกตั้ง จนเกิดรัฐธรรมนูญที่ไม่สอดคล้องกับสภาพสังคมไทย เพราะเปิดโอกาสให้นักการเมืองชั่วใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งได้ จนคนชั่วได้ขึ้นปกครองบ้านเมืองเรื่อยมา
การเอาชนะทักษิณกับพวกแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดนั้น-ไม่ยาก ถ้า..ทหารหรือกองทัพกล้าคิด-กล้าปฏิรูปการเมือง ในทุกมิติให้ถูกต้องสอดคล้องกับสภาพสังคมไทย เท่านั้นแหละ..นักการเมืองชั่วทั้งหลาย ก็หมดโอกาสใช้เงินยึดอำนาจรัฐอย่างฉ้อฉล หมดช่องทางที่จะใช้อำนาจรัฐอธรรมโกงกินชาติ
ถึงเวลาทหารส่วนใหญ่ที่ยังเป็นทหารใน “กองทัพของพระเจ้าอยู่หัว” ต้องคิดใหม่-ทำใหม่ให้ถูกต้อง เพื่อเกียรติภูมิของทหารหรือกองทัพ ที่สำคัญเพื่อปกป้องรักษาชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ให้มั่นคง
ทั้งหมดก็เพื่อทหารหรือกองทัพ จะได้เป็นที่รักของประชาชนคนไทยทั้งชาติ และเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันชาติไทย ให้เจริญก้าวหน้าสู่มิติการเมืองใหม่ที่ดีงามอย่างแท้จริงไงล่ะครับ!