ASTVผู้จัดการรายวัน- ททท.อ้อนของบกลางปี 2,000 ล้านบาท อ้างเพื่อพลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยเร็ว เพื่อบรรลุยุทธ์ศาสตร์เติบโตเท่าตัวใน 5 ปีข้างหน้า เจาะนักท่องเที่ยวตลาดแมส และไฮเอนด์คู่กันไป ระบุอย่างน้อย ปีหน้า ตัวเลขนักท่องเที่ยวต้องได้ตามเป้า 19.5 ล้านคน เงินสะพัด 7 แสนล้านบาท
นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ในปี 2555 จะใช้แผนกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบปูพรม เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวภายหลังน้ำลด และการวางรากฐานการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในอีก 5 ปีข้างหน้า ตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาลที่กำหนดให้ในปี 2558 จำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จะเติบโตเพิ่มอีกเท่าตัวจากปีปัจจุบัน หรือมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 30 ล้านคน สร้างรายได้แตะ 2 ล้านล้านบาท โดยในโครงการที่จะดำเนินการ ททท.ได้เสนอของบกลางปี จากปีงบประมาณ 2555 วงเงิน กว่า 2,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการ ในวงเงินนี้จะแบ่งใช้ส่งเสริมตลาดในประเทศ ราว 500 ล้านบาท
โดยการกระตุ้นจะแบ่งเป็น 2 ตลาด คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปซึ่งถือเป็นกลุ่มใหญ่ ที่ทิ้งไม่ได้เป็นฐานสร้างให้เกิดจำนวน และกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์และความสนใจเฉพาะ(นีชมาร์เก็ต ) เพื่อสร้างรายได้ให้แก่อุตสาหกรรม รูปแบบดำเนินการจะต้องใช้การโฆษณาประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ ทุกรูปแบบในกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมาย เพื่อให้เกิดการจดจำ และสร้างอารมณ์ให้เกิดการเลือกเดินทางมาประเทศไทย เช่น การโฆษณาผ่านทีวีท้องถิ่นในต่างประเทศ การจัดทำป้ายโฆษณาแบบเอาท์ดอร์ ให้เกิดการจดจำประเทศไทย ตลอดจนการจัดกิจกรรม งานอีเว้นท์ต่างๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจในการเดินทาง
“ทั้งหมดที่กล่าวมาถือเป็นยุทธศาสตร์ การวางรากฐานการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภายในระยะเวลา 5 ปีนับจากนี้ รวมถึงการเจาะตลาดเป้าหมาย อันจะนำไปสู่การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ซึ่งการเสนอของบประมาณเพิ่มเติมครั้งนี้ถือว่าจำเป็น เพราะผลกระทบจากน้ำท่วม ทำให้สถานการณ์ท่องเที่ยวอยู่ในภาวะที่ไม่ปกตินัก แม้การวางแผนงานของ ททท.และเอกชนจะทำไว้ดีแล้วก็ตาม แต่เราต้องการให้เกิดการพลิกฟื้นโดยเร็วที่สุด เมื่อน้ำลดลงแล้ว”
อย่างไรก็ตาม ผลของการดำเนินงานของ ททท. ความหวังอันดับแรก คือ ต้องการให้เป้าหมาย จำนวนและรายได้จากการท่องเที่ยวของตลาดต่างประเทศในปี 2555 เป็นไปตามที่วางไว้ คือ 19.5 ล้านคน รายได้ 7 แสนล้านบาท และคงไว้ซึ่งการเติบโตนับจากนี้ไป เฉลี่ยที่ปีละ25% จนถึงปี 2558ล่าสุดการร่วมออกงาน ลักชัวรี่ มาร์ท หรือ แอลทีเอ็ม ที่ประเทศฝรั่งเศส ในต้นเดือนนี้
ททท.ได้เตรียมสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ ไปร่วมนำเสนอ ส่วนงาน ATF หรือ อาเซียน ทราเวลมาร์ท ที่จะมีขึ้น ต้นเดือนมกราคม ททท. ก็จะนำเสนอสินค้าและบริการที่เหมาะกับตลาดระยะใกล้ เน้นการเพิ่มมูลค่าสินค้า แทนการลดราคา ชูกิจกรรมงานเทศกาล เป็นเครื่องมือการส่งเสริม เช่น ช่วงปีใหม่ จะเริ่มตั้งแต่ คริสมาส เคาท์ดาวน์ ตรุษจีน และ วาเลนไทน์ นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมงานประเพณีต่างๆ ตลอดปี.
นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ในปี 2555 จะใช้แผนกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบปูพรม เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวภายหลังน้ำลด และการวางรากฐานการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในอีก 5 ปีข้างหน้า ตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาลที่กำหนดให้ในปี 2558 จำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จะเติบโตเพิ่มอีกเท่าตัวจากปีปัจจุบัน หรือมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 30 ล้านคน สร้างรายได้แตะ 2 ล้านล้านบาท โดยในโครงการที่จะดำเนินการ ททท.ได้เสนอของบกลางปี จากปีงบประมาณ 2555 วงเงิน กว่า 2,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการ ในวงเงินนี้จะแบ่งใช้ส่งเสริมตลาดในประเทศ ราว 500 ล้านบาท
โดยการกระตุ้นจะแบ่งเป็น 2 ตลาด คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปซึ่งถือเป็นกลุ่มใหญ่ ที่ทิ้งไม่ได้เป็นฐานสร้างให้เกิดจำนวน และกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์และความสนใจเฉพาะ(นีชมาร์เก็ต ) เพื่อสร้างรายได้ให้แก่อุตสาหกรรม รูปแบบดำเนินการจะต้องใช้การโฆษณาประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ ทุกรูปแบบในกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมาย เพื่อให้เกิดการจดจำ และสร้างอารมณ์ให้เกิดการเลือกเดินทางมาประเทศไทย เช่น การโฆษณาผ่านทีวีท้องถิ่นในต่างประเทศ การจัดทำป้ายโฆษณาแบบเอาท์ดอร์ ให้เกิดการจดจำประเทศไทย ตลอดจนการจัดกิจกรรม งานอีเว้นท์ต่างๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจในการเดินทาง
“ทั้งหมดที่กล่าวมาถือเป็นยุทธศาสตร์ การวางรากฐานการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภายในระยะเวลา 5 ปีนับจากนี้ รวมถึงการเจาะตลาดเป้าหมาย อันจะนำไปสู่การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ซึ่งการเสนอของบประมาณเพิ่มเติมครั้งนี้ถือว่าจำเป็น เพราะผลกระทบจากน้ำท่วม ทำให้สถานการณ์ท่องเที่ยวอยู่ในภาวะที่ไม่ปกตินัก แม้การวางแผนงานของ ททท.และเอกชนจะทำไว้ดีแล้วก็ตาม แต่เราต้องการให้เกิดการพลิกฟื้นโดยเร็วที่สุด เมื่อน้ำลดลงแล้ว”
อย่างไรก็ตาม ผลของการดำเนินงานของ ททท. ความหวังอันดับแรก คือ ต้องการให้เป้าหมาย จำนวนและรายได้จากการท่องเที่ยวของตลาดต่างประเทศในปี 2555 เป็นไปตามที่วางไว้ คือ 19.5 ล้านคน รายได้ 7 แสนล้านบาท และคงไว้ซึ่งการเติบโตนับจากนี้ไป เฉลี่ยที่ปีละ25% จนถึงปี 2558ล่าสุดการร่วมออกงาน ลักชัวรี่ มาร์ท หรือ แอลทีเอ็ม ที่ประเทศฝรั่งเศส ในต้นเดือนนี้
ททท.ได้เตรียมสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ ไปร่วมนำเสนอ ส่วนงาน ATF หรือ อาเซียน ทราเวลมาร์ท ที่จะมีขึ้น ต้นเดือนมกราคม ททท. ก็จะนำเสนอสินค้าและบริการที่เหมาะกับตลาดระยะใกล้ เน้นการเพิ่มมูลค่าสินค้า แทนการลดราคา ชูกิจกรรมงานเทศกาล เป็นเครื่องมือการส่งเสริม เช่น ช่วงปีใหม่ จะเริ่มตั้งแต่ คริสมาส เคาท์ดาวน์ ตรุษจีน และ วาเลนไทน์ นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมงานประเพณีต่างๆ ตลอดปี.