งบโฆษณาในสื่อนิตยสารยังไปได้สวย หากเข้าถูกช่องทาง “แกรมมี่” รุกคืบส่งนิตยสารในเครือ สู่หน้าจอโมบาย และไอแพด พบยอดดาวน์โหลดพุ่งกระฉูด ช่วยขยายฐานผู้อ่านเพิ่ม มั่นใจสิ้นปีรายได้ทะลุ 240 ล้านบาท โต 10% ส่วนปีหน้าไม่มีน้ำท่วม เชื่อทำยอดโตได้ไม่ต่ำกว่า 10-15% แน่
นางสาวลายคราม เลิศวิทยาประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม อินเตอร์ พับลิชชิ่ง จำกัด ดูแลนิตยสารในเครือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ อยู่ 5 เล่ม คือ แม็กซิม, อิน แมกกาซีน, มาดาม ฟิกาโร, เฮอร์ เวิล์ด และ แอตติจูด เปิดเผยว่า ถึงแม้ภาพรวมทิศทางของการใช้งบโฆษณาในสื่อนิตยสารจะมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากมีสื่ออื่นๆที่มีราคาโฆษณาใกล้เคียงกันและมีประสิทธิภาพมากกว่านั้น แต่ในส่วนของบริษัท กลับยังพบตัวเลขรายได้โฆษณายังไปได้ดีอยู่
เนื่องจากทางบริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์ และสร้างสรรวิธีการใช้งบโฆษณาของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการผสมผสานการใช้งบโฆษณาร่วมกับการจัดกิจกรรม อีเว้นท์ต่างๆ และการโฆษณาร่วมบนช่องทีวีดาวเทียม กับช่อง MAXXI TV รวมถึงการโฆษณาบนแอพลิเคชั่นของหัวนิตยสารในเครือ ที่อยู่บนไอแพด และโมบาย
โดยในส่วนโฆษณาในช่อง MAXXI TV นั้น เพิ่งจะเริ่มนำมาใช้ในช่วงไตรมาสสี่นี้เอง เนื่องจากทางบริษัทเพิ่งได้มีการทดลองเปิดตัวช่อง MAXXI TV ตั้งแต่ ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่าลูกค้าให้ความสนใจเป็นมาก แต่จะหันมาใช้งบโฆษณาในช่องทางนี้อย่างจริงจังหลังเดือนม.ค.ปีหน้าเป็นต้นไป เนื่องจากช่วงเวลานี้ยังมีผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม ทำให้ลูกค้าชะลอการใช้งบโฆษณาไปก่อน
ส่วนช่องทางไอแพด และโมบายนั้น บริษัทได้เริ่มมาตั้งแต่ต้นปี2554ในแง่รายได้จากโฆษณานั้นอาจจะยังน้อยอยู่ ซึ่งบริษัทพร้อมทำโมเดลหารายได้จากโฆษณาในช่องทางนี้ไว้แล้ว เนื่องจากมองเห็นโอกาสเติบโตที่ดีในอนาคต ซึ่งปัจจุบันพบว่ารายได้ที่มาจากช่องทางดังกล่าว จะมาจากยอดการดาวน์โหลดเป็นหลัก ต่อวันทำได้กว่า 300 เหรียญ จากนิตยสารทั้ง 5 เล่ม
ทั้งนี้มองว่าสิ้นปีนี้รายได้จากนิตยสาร 4 คือ แม็กซิม, มาดาม ฟิกาโร, เฮอร์ เวิล์ด และ แอตติจูด น่าจะทำได้ 200 ล้านบาท เมื่อรวม อิน แมกกาซีน ที่เพิ่งเข้ามาปรับโครงสร้างกันใหม่ตั้งแต่พ.ค.ที่ผ่านมา คาดว่าบริษัทน่าจะมีรายได้รวมเติบโต 10% หรือกว่า 240 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ประมาณ 5% มาจากช่องทางไอแพดและโมบาย ซึ่งเดิมปีนี้มองว่ารายได้รวมน่าจะโต 15-20% แต่เนื่องจากมีเหตุการณ์น้ำท่วมในช่วง 3 เดือนนี้ ทำให้รายได้ไม่เป็นไปตามเป้า
อย่างไรก็ตามสำหรับปีหน้า เชื่อว่าจะเป็นปีที่ดี หากไม่มีเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นอีก ซึ่งทางบริษัทเชื่อว่าปีหน้ารายได้จากนิตยสาร น่าจะเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 10-15% โดยในแง่ของการเปิดตัวนิตยสารหัวนอกเล่มใหม่นั้น ต้องดีจริงๆ บริษัทถึงจะมีการลงทุน โดยในขณะนี้ยังไม่มีแผนที่จะเปิดนิตยสารเพิ่มแต่อย่างไร
นางสาวลายคราม เลิศวิทยาประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม อินเตอร์ พับลิชชิ่ง จำกัด ดูแลนิตยสารในเครือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ อยู่ 5 เล่ม คือ แม็กซิม, อิน แมกกาซีน, มาดาม ฟิกาโร, เฮอร์ เวิล์ด และ แอตติจูด เปิดเผยว่า ถึงแม้ภาพรวมทิศทางของการใช้งบโฆษณาในสื่อนิตยสารจะมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากมีสื่ออื่นๆที่มีราคาโฆษณาใกล้เคียงกันและมีประสิทธิภาพมากกว่านั้น แต่ในส่วนของบริษัท กลับยังพบตัวเลขรายได้โฆษณายังไปได้ดีอยู่
เนื่องจากทางบริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์ และสร้างสรรวิธีการใช้งบโฆษณาของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการผสมผสานการใช้งบโฆษณาร่วมกับการจัดกิจกรรม อีเว้นท์ต่างๆ และการโฆษณาร่วมบนช่องทีวีดาวเทียม กับช่อง MAXXI TV รวมถึงการโฆษณาบนแอพลิเคชั่นของหัวนิตยสารในเครือ ที่อยู่บนไอแพด และโมบาย
โดยในส่วนโฆษณาในช่อง MAXXI TV นั้น เพิ่งจะเริ่มนำมาใช้ในช่วงไตรมาสสี่นี้เอง เนื่องจากทางบริษัทเพิ่งได้มีการทดลองเปิดตัวช่อง MAXXI TV ตั้งแต่ ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่าลูกค้าให้ความสนใจเป็นมาก แต่จะหันมาใช้งบโฆษณาในช่องทางนี้อย่างจริงจังหลังเดือนม.ค.ปีหน้าเป็นต้นไป เนื่องจากช่วงเวลานี้ยังมีผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม ทำให้ลูกค้าชะลอการใช้งบโฆษณาไปก่อน
ส่วนช่องทางไอแพด และโมบายนั้น บริษัทได้เริ่มมาตั้งแต่ต้นปี2554ในแง่รายได้จากโฆษณานั้นอาจจะยังน้อยอยู่ ซึ่งบริษัทพร้อมทำโมเดลหารายได้จากโฆษณาในช่องทางนี้ไว้แล้ว เนื่องจากมองเห็นโอกาสเติบโตที่ดีในอนาคต ซึ่งปัจจุบันพบว่ารายได้ที่มาจากช่องทางดังกล่าว จะมาจากยอดการดาวน์โหลดเป็นหลัก ต่อวันทำได้กว่า 300 เหรียญ จากนิตยสารทั้ง 5 เล่ม
ทั้งนี้มองว่าสิ้นปีนี้รายได้จากนิตยสาร 4 คือ แม็กซิม, มาดาม ฟิกาโร, เฮอร์ เวิล์ด และ แอตติจูด น่าจะทำได้ 200 ล้านบาท เมื่อรวม อิน แมกกาซีน ที่เพิ่งเข้ามาปรับโครงสร้างกันใหม่ตั้งแต่พ.ค.ที่ผ่านมา คาดว่าบริษัทน่าจะมีรายได้รวมเติบโต 10% หรือกว่า 240 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ประมาณ 5% มาจากช่องทางไอแพดและโมบาย ซึ่งเดิมปีนี้มองว่ารายได้รวมน่าจะโต 15-20% แต่เนื่องจากมีเหตุการณ์น้ำท่วมในช่วง 3 เดือนนี้ ทำให้รายได้ไม่เป็นไปตามเป้า
อย่างไรก็ตามสำหรับปีหน้า เชื่อว่าจะเป็นปีที่ดี หากไม่มีเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นอีก ซึ่งทางบริษัทเชื่อว่าปีหน้ารายได้จากนิตยสาร น่าจะเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 10-15% โดยในแง่ของการเปิดตัวนิตยสารหัวนอกเล่มใหม่นั้น ต้องดีจริงๆ บริษัทถึงจะมีการลงทุน โดยในขณะนี้ยังไม่มีแผนที่จะเปิดนิตยสารเพิ่มแต่อย่างไร