ASTVผู้จัดการรายวัน – แกรมมี่ทุ่ม 3,000 ล้านบาทใน 2-3 ปี ลุยทีวีดาวเทียมเต็มสูบ มุ่งขายกล่อง1SKY ตั้งเป้าสิ้นปี55 ขายได้ 1.5 ล้านกล่อง โกยรายได้กว่า 2,500 ล้านบาท ส่งแกรมมี่ต่อปีโตไม่ต่ำกว่า 12% มั่นใจธุรกิจใหม่นี้สร้างรายได้เป็นอันดับสองได้ภายใน 3ปี
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้ทางบริษัทเตรียมงบลงทุนสูงสุดในรอบ 28 ปี มูลค่าถึง 3,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการรุกธุรกิจใหม่ในธุรกิจทีวีดาวเทียม จากคอนเท้นท์โพรวายเดอร์สู่แพลทฟอร์ม โอเปอเรเตอร์ ให้บริการครบวงจรรองรับทั้งฟรีทีวีและเพย์ทีวี ด้วยกล่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียม วัน สกาย (1SKY)
เบื้องต้นของงบการลงทุนครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 2,100 ล้านบาท สำหรับ 1.การจัดซื้อคอนเท้นท์ต่างๆ ทั้งเอ็นเตอร์เตอร์เทนเม้นท์กว่า 650 ล้านบาท และกีฬา 1,500 ล้านบาท 2. ที่เหลืออีก 900 ล้านบาท จะเป็นเรื่องของการจัดซื้ออุปกรณ์ และกล่อง1SKY
“แพลทฟอร์มเซทบล็อกในตลาดมีอยู่ราว 5-6 รายที่ทำ มองว่าเป็นเรื่องของการสร้างแพลทฟอร์มเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากที่สุด ไม่ใช่การแข่งขัน ส่วนการแข่งขันนั้นจะเป็นในส่วนของคอนเท้นท์มากกว่า ซึ่งทุกแพลทฟอร์มที่มีอยู่นั้น ถือเป็นเวทีที่จะเปิดให้แต่ละช่องเข้าสู่การแข่งขันได้อย่างเท่าเทียมกัน ในส่วนของ1SKY ก็เช่นเดียวกัน เป็นแพลทฟอร์มเซทบล็อกที่ต้องการเป็นช่องทางหนึ่งในการนำเอาคอนเท้นท์เข้าสู่ทุกบ้านได้อย่างทั่วถึง โดยทางบริษัทไม่ได้มีการเรียกเก็บค่างจัดเรียงช่องแต่อย่างไร”
ด้านนางสาววิลาสินี จิวานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วันสกาย มัลติมีเดีย จำกัด กล่าวว่า สำหรับแผนการทำตลาดของกล่อง 1SKY นั้น เบื้องต้นจะมีอยู่ 3 โมเดล คือ 1.Easy ราคา 500 บาท เริ่มจำหน่ายต้นปีหน้า 2.Smart ราคา 1,500 ล้านบาท เริ่มจำหน่าย ตั้งแต่ 1พ.ยนี้ สามารถรับชมได้กว่า 100 ช่อง และ3.Genius HD จำนวน 6ช่อง ราคา 2,500 บาท เริ่มจำหน่ายต้นปีหน้าเป็นต้นไป ทั้งนี้มองว่าภายในสิ้นปีนี้ จะสามารถจำหน่ายได้กว่า 2.5 แสนเครื่อง และภายในสิ้นปี 2555 จะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านเครื่อง และปีต่อไปที่ 4 ล้านกล่อง
โดยช่องทางขายกล่อง1SKY นั้นจะมีทั้งผ่านดีลเลอร์ทั่วประเทศ ร่วมถึงช่องทางขายใหม่ๆอย่าง ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป โมเดิร์นเทรด และการร่วมทำกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับพันธมิตรทั้งทางด้านทีวี อย่าง แอลจี รวมถึงแบรนด์จานดาวเทียมต่างๆ พร้อมทำโรดโชว์ไปทั่วประเทศ ภายใต้งบการตลาดกว่า 200 ล้านบาทในปีแรก
ทั้งนี้มองว่าภายในสิ้นปี2555 กลุ่มรายได้จากทีวีดาวเทียมจะมีสูงถึง 2,500 ล้านบาท มาจาก1.การขายกล่อง1SKY2. เก็บค่าบริการรายเดือน 3. โฆษณา 4. เก็บค่าบริการแบบ เพย์เพอร์วิว หรือคิดเป็นสัดส่วนรายได้ที่ 20% เมื่อเทียบกับรายได้รวมแกรมมี่ทั้งหมด พร้อมส่งให้ในปี 2555 รายได้รวมแกรมมี่จะมีอัตราการเติบโตที่ 12% ซึ่งรายได้จากกลุ่มทีวีดาวเทียมครั้งนี้ ถือเป็นกลุ่มธุรกิจอันดับสามที่สร้างรายได้ รองจากธุรกิจเพลงและรายการทีวี อย่างไรก็ตามมองว่าหลังจาก 3 ปีผ่านไป จะก้าวขึ้นเป็นอันดับสองได้
นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า หลังจากกสทช.เกิดขึ้นมาแล้ว ทางบริษัทเพียงจะเข้าไปขอใบอนุญาตในการทำแซทเทิลไลท์ทีวีอย่างถูกต้องเท่านั้น พร้อมมีการลงทุนหาคอนเท้นท์ใหม่ๆเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยภายในปีหน้าเตรียมที่จะเปิดตัวช่องใหม่อีกไม่ต่ำกว่า 5 ช่อง ขณะที่ปีนี้รายได้หลักยังมาจากธุรกิจเพลง ซึ่งถือสัดส่วนการสร้างรายได้เป็นอันดับหนึ่งที่ 60% โดยในแง่กำไรนั้นมีอัตราการเติบโตมากกว่า 50% มาจากช่องทางดิจิตอลเป็นหลัก
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้ทางบริษัทเตรียมงบลงทุนสูงสุดในรอบ 28 ปี มูลค่าถึง 3,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการรุกธุรกิจใหม่ในธุรกิจทีวีดาวเทียม จากคอนเท้นท์โพรวายเดอร์สู่แพลทฟอร์ม โอเปอเรเตอร์ ให้บริการครบวงจรรองรับทั้งฟรีทีวีและเพย์ทีวี ด้วยกล่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียม วัน สกาย (1SKY)
เบื้องต้นของงบการลงทุนครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 2,100 ล้านบาท สำหรับ 1.การจัดซื้อคอนเท้นท์ต่างๆ ทั้งเอ็นเตอร์เตอร์เทนเม้นท์กว่า 650 ล้านบาท และกีฬา 1,500 ล้านบาท 2. ที่เหลืออีก 900 ล้านบาท จะเป็นเรื่องของการจัดซื้ออุปกรณ์ และกล่อง1SKY
“แพลทฟอร์มเซทบล็อกในตลาดมีอยู่ราว 5-6 รายที่ทำ มองว่าเป็นเรื่องของการสร้างแพลทฟอร์มเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากที่สุด ไม่ใช่การแข่งขัน ส่วนการแข่งขันนั้นจะเป็นในส่วนของคอนเท้นท์มากกว่า ซึ่งทุกแพลทฟอร์มที่มีอยู่นั้น ถือเป็นเวทีที่จะเปิดให้แต่ละช่องเข้าสู่การแข่งขันได้อย่างเท่าเทียมกัน ในส่วนของ1SKY ก็เช่นเดียวกัน เป็นแพลทฟอร์มเซทบล็อกที่ต้องการเป็นช่องทางหนึ่งในการนำเอาคอนเท้นท์เข้าสู่ทุกบ้านได้อย่างทั่วถึง โดยทางบริษัทไม่ได้มีการเรียกเก็บค่างจัดเรียงช่องแต่อย่างไร”
ด้านนางสาววิลาสินี จิวานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วันสกาย มัลติมีเดีย จำกัด กล่าวว่า สำหรับแผนการทำตลาดของกล่อง 1SKY นั้น เบื้องต้นจะมีอยู่ 3 โมเดล คือ 1.Easy ราคา 500 บาท เริ่มจำหน่ายต้นปีหน้า 2.Smart ราคา 1,500 ล้านบาท เริ่มจำหน่าย ตั้งแต่ 1พ.ยนี้ สามารถรับชมได้กว่า 100 ช่อง และ3.Genius HD จำนวน 6ช่อง ราคา 2,500 บาท เริ่มจำหน่ายต้นปีหน้าเป็นต้นไป ทั้งนี้มองว่าภายในสิ้นปีนี้ จะสามารถจำหน่ายได้กว่า 2.5 แสนเครื่อง และภายในสิ้นปี 2555 จะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านเครื่อง และปีต่อไปที่ 4 ล้านกล่อง
โดยช่องทางขายกล่อง1SKY นั้นจะมีทั้งผ่านดีลเลอร์ทั่วประเทศ ร่วมถึงช่องทางขายใหม่ๆอย่าง ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป โมเดิร์นเทรด และการร่วมทำกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับพันธมิตรทั้งทางด้านทีวี อย่าง แอลจี รวมถึงแบรนด์จานดาวเทียมต่างๆ พร้อมทำโรดโชว์ไปทั่วประเทศ ภายใต้งบการตลาดกว่า 200 ล้านบาทในปีแรก
ทั้งนี้มองว่าภายในสิ้นปี2555 กลุ่มรายได้จากทีวีดาวเทียมจะมีสูงถึง 2,500 ล้านบาท มาจาก1.การขายกล่อง1SKY2. เก็บค่าบริการรายเดือน 3. โฆษณา 4. เก็บค่าบริการแบบ เพย์เพอร์วิว หรือคิดเป็นสัดส่วนรายได้ที่ 20% เมื่อเทียบกับรายได้รวมแกรมมี่ทั้งหมด พร้อมส่งให้ในปี 2555 รายได้รวมแกรมมี่จะมีอัตราการเติบโตที่ 12% ซึ่งรายได้จากกลุ่มทีวีดาวเทียมครั้งนี้ ถือเป็นกลุ่มธุรกิจอันดับสามที่สร้างรายได้ รองจากธุรกิจเพลงและรายการทีวี อย่างไรก็ตามมองว่าหลังจาก 3 ปีผ่านไป จะก้าวขึ้นเป็นอันดับสองได้
นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า หลังจากกสทช.เกิดขึ้นมาแล้ว ทางบริษัทเพียงจะเข้าไปขอใบอนุญาตในการทำแซทเทิลไลท์ทีวีอย่างถูกต้องเท่านั้น พร้อมมีการลงทุนหาคอนเท้นท์ใหม่ๆเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยภายในปีหน้าเตรียมที่จะเปิดตัวช่องใหม่อีกไม่ต่ำกว่า 5 ช่อง ขณะที่ปีนี้รายได้หลักยังมาจากธุรกิจเพลง ซึ่งถือสัดส่วนการสร้างรายได้เป็นอันดับหนึ่งที่ 60% โดยในแง่กำไรนั้นมีอัตราการเติบโตมากกว่า 50% มาจากช่องทางดิจิตอลเป็นหลัก
