xs
xsm
sm
md
lg

ผู้เลี้ยงปลากระชังนราโอดรัฐปล่อยน้ำจืดลงทะเลปลาตายนับแสนตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นราธิวาส - กลุ่มผู้เลี้ยงปลาในกระชังโอดปลาตายนับแสนตัว หลังรัฐเปิดประตูเร่งระบายน้ำจืดเหนือเขื่อนลงทะเล วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือด่วน ขณะที่ 26 โรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เตรียมเปิดพร้อมกันสัปดาห์หน้า

วานนี้(1 ธ.ค.)ที่บริเวณชายหาดนราทัศน์ เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส กลุ่มเลี้ยงปลากระชังในคลองโคกเคียน ได้ร้องทุกข์ไปยังสื่อมวลชนในพื้นที่เพื่อให้ทำการบันทึกภาพข่าวภายหลังจากทางราชการเปิดประตูระบายน้ำบางนราตอนบน เพื่อระบายน้ำจืดลงทะเล ซึ่งน้ำจืดดังกล่าวเป็นน้ำป่าและน้ำโคลน ขณะที่น้ำคลองโคกเคียน เป็นพื้นที่น้ำเค็มที่ชาวบ้านกว่า 1,000 ครัวเรือนใช้เป็นพื้นที่เลี้ยงปลาในกระชัง เช่น ปลากะพง และปลาเก๋า แต่ภายหลังจากการเปิดประตูระบายน้ำดังกล่าว ทำให้ปลาในกระชัง โดยเฉพาะปลาเก๋า ลอยตัวเหนือน้ำและตายนับหลายแสนตัว

นายซาการียา เจะยิ ผู้เลี้ยงปลาในกระชังคลองโคกเคียน กล่าวว่า ตนเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนระบายน้ำป่าที่ไหลหลาก เพื่อป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ตอนบนของเขื่อน ในขณะที่ชาวบ้านผู้ประกอบอาชีพเลี้ยงปลาในกระชังในแม่น้ำบางนรา และในคลองโคกเคียนต้องได้รับความเดือดร้อน เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์ได้ลงทุนซื้อลูกปลาและเลี้ยงปลาลงกระชัง ซึ่งปลากำลังโตเต็มที่แล้วเพียงอีก 2 เดือนก็จะสามารถยกปลาในกระชังทั้งหมดเพื่อนำไปขายแก่พ่อค้าแม่ค้า โดยราคาขายส่งปลาเก๋าอยู่ที่ประมาณ 370 บาทต่อกิโลกรัม

"แต่ขณะนี้แทบหมดสิ้นเนื้อประดาตัว เนื่องจากปลาที่เลี้ยงโดยเฉพาะปลาเก๋า ลอยตายและตายอืดอยู่ใต้น้ำหลายหมื่นตัวทุกวันตั้งแต่มีการปล่อยน้ำป่า ซึ่งผมเลี้ยงปลา 12 กระชัง กระชังละประมาณ 1,000 ตัว ขณะนี้เหลือไม่กี่ตัวแล้ว ขาดทุนจริงๆ เงินทุนที่กู้มา ยังไม่รู้จะชดใช้หนี้สินได้อย่างไร ทั้งนี้ ไม่เพียงเฉพาะผมเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ กลุ่มเลี้ยงปลาในกระชังอีกหลายรายก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน จึงขอวิงวอนไปยังหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง โปรดเข้าไปดูแลและให้การช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน อย่างจริงจัง และจริงใจด้วย"

สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาส ล่าสุดบริเวณแม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งไหลผ่าน 3 อำเภอ คือ อ.ตากใบ อ.แว้ง และ อ.สุไหงโก-ลก พบว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ที่เอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรของราษฎรเป็นเวลานานกว่า 1 สัปดาห์ มีปริมาณน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง จากผลพวงของการเปิดประตูระบายน้ำลงสู่ทะเล ทำให้ปริมาณน้ำท่วมมีความสูงโดยเฉลี่ยล้นจากตลิ่งอยู่ที่ระดับ 30-40 ซม.และชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อนหนักที่สุดคือ ชุมชนหัวสะพาน ซึ่งตั้งอยู่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก มีผู้อพยพ 227 คน 45 ครัวเรือน ซึ่งยังคงอาศัยปักหลักอยู่ที่ศูนย์อพยพของโรงเรียนเทศบาล 4 เนื่องจากยังไม่มั่นใจในสถานการณ์น้ำ หลังกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนว่าลมมรสุมจะพัดผ่านอีกระลอก

ในส่วนของสถานศึกษาต่างๆ ที่ประกาศปิดการเรียนการสอนทั้งสิ้น 26 โรงล่าสุดหลายโรงเรียนได้ทยอยเปิดทำการเรียนการสอน โดยบางแห่งคณะครู นักเรียน รวมทั้งนักการภารโรง ได้ร่วมกันเก็บกวาดและทำความสะอาดห้องเรียนแล้ว เพื่อเตรียมตัวเปิดการเรียนการสอนในสัปดาห์หน้า ครบทั้ง 26 โรง
กำลังโหลดความคิดเห็น