ตราด - ฝนตกหนักที่ตราดส่งผลกระทบผู้เลี้ยงปลาในกระชัง ปลาไม่กินอาหารเหตุน้ำมีสารเคมี ขณะเกษตรกรปลูกพริกหอมเมืองตราดต้นเหลือง หลังน้ำท่วมพื้นที่ปลูก ทำให้รากเน่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการที่เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ จ.ตราด เป็นเวลาติดต่อกันหลายวัน ได้ส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการเลี้ยงปลากระชัง และเกษตรกรผู้ปลูกพริกหอมเมืองตราดแล้วในขณะนี้ ที่บ้านท่าพริก หมู่ 4 ต.เนินทราย อ.เมือง จ.ตราด ที่เป็นสวนพริกของ นางสายทอง สงวนหงส์ พบว่า ต้นพริกหลายแปลงมีน้ำท่วมพื้น แม้ไม่มาก แต่ส่งผลกระทบต่อรากของต้นพริกที่ไม่ชอบน้ำท่วมขัง ทำให้ต้นพริก ลำต้นเหลือง ใบเหลือง ต้องถอนต้นออกจากแปลงไปจำนวนมาก
นางสายทอง เล่าให้ฟังว่า ทราย เล่าว่า มีฝนตกลงมาเป็นระยะเวลากว่า 2 สัปดาห์แล้ว และไม่มีทีท่าว่าจะเบาบางลง ในส่วนของพริกนั้นเป็นพืชที่ไม่ชอบความชุ่มชื้นมาก แต่ฝนที่ตกลงมาจนทำให้ดินไม่สามารถดูดซับลงได้หมด จึงทำให้เกิดน้ำท่วมขังตามร่องและโคนต้นพริก จนพริกมีลักษณะต้นเหลือง และยืนต้นตายภายในระยะเวลา 2 วัน ซึ่งพริกที่เห็นนั้นปลูกในพื้นที่ 2 ไร่ และยังไม่สามารถเก็บได้เนื่องจากพริกยังไม่แก่ ซึ่งได้รับความเสียหายไปประมาณ เกือบ 1 ไร่ จากกรลงทุนเป็นเงินจำนวน 20,000 บาท จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวเข้าช่วยเหลือเกี่ยวกับปัญหาเรื่องนี้
นอกจากนี้ แปลงพริกที่ ต.ท่าพริก มากกว่า 20 แปลง ก็ประสบปัญหาเดียวกัน ส่งผลกระทบต่อการผลิตพริกหอมเมืองตราดมาก นอกจากนี้ยังมีพืชไร่อื่นที่ได้รับผลกระทบเช่นกันทั้ง ถั่วฝักยาว แตงกวา และแตงอ่อน ขณะที่ผู้ประกอบการเลี้ยงปลากระชัง (ปลาเก๋า) ที่บ้านปากคลองน้ำเชี่ยว ต.หนองโสน อ.เมือง จ.ตราด จำนวนกว่า 30 กระชัง ต่างได้รับผลกระทบจากน้ำฝนที่ตกลงมาและน้ำที่ไหลลงคลองได้นำสารเคมีปนมากับน้ำ ทำให้ปลาเก๋าไม่กินอาหาร จนอาจจะทำให้ปลาเก๋าเสียชีวิตได้ในระยะเวลาไม่นาน
โดย นางลำไย เหมสุวรรณ เล่าว่า เลี้ยงปลาในกระชังมานานกว่า 10 ปีก็พอที่จะเข้าใจว่าช่วงไหนทีน้ำจะมีปัญหา ซึ่งในส่วนของปลาเก๋าที่เลี้ยงในกระชังนั้น ส่วนมากจะมีปัญหาในช่วงที่มีฝนตก เพราะทางชลประทานจะมีการปล่อยน้ำจืดลงมา ซึ่งนั้นเป็นเพียงผลกระทบที่เล็กน้อย แต่หากฝนตกในช่วงแรกนั้นปลาที่เลี้ยงในกระชังจะไม่สามารถออกมากินอาหารได้เลยเพราะบริเวณบนผิวน้ำจะมีสารเคมีที่ชาวสวนฉีดยา และเมื่อฝนตกจะทำให้ไหลมาบนผิวน้ำ ปลาจึงไม่สามารถออกมากินได้ แต่หากขึ้นมานั้นก็จะมีอาการช็อก ทำให้ปลาตาย