xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ทบ.สั่งจัดกำลังพล ช่วยใต้-มรสุมจ่อถล่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “ประยุทธ์”ชี้น้ำท่วมใต้ท่วมเร็วลดเร็ว สั่ง ทบ.จัดกำลังพลลงช่วยน้ำท่วมใต้ เผยงบ 1.2 พันล้านนำฟื้นฟู “ยุทโธปกรณ์-หน่วยทหาร”เสียหาย ด้านสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้น้ำลดลงแล้ว แต่ก็ได้มีการเร่งสูบน้ำในที่ลุ่มออกเพื่อรับบมือมรสุมที่จะมีฝนตกหนักอีกครั้งในช่วงต้น ธ.ค.นี้

วานนี้ (28 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า ที่บ้านปากคลองเก่า ม.ที่ 2 ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน พ.อ.อนุวัฒน์ ธรรมจักร ผบก.กองพันทหารช่าง 402 ค่ายอภัยบริรักษ์ ได้นำถุงยังชีพพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จำนวน 200 ชุด มอบให้ชาวบ้านผู้ประสบภัยในพื้นที่บ้านปากคลองเก่า ม.ที่ 2 ต.มะกอกเหนือ และหมู่ที่ 9 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง

หลังจากชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวประสบภัยน้ำท่วมมานานกว่า 7 วัน และสถานการณ์น้ำยังท่วมสูง ถนนในหมู่บ้านยังไม่สามารถใช้สัญจรผ่านไปมาได้

เมื่อเวลา 12.00 น.วานนี้(28 พ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ว่า เราได้เตรียมการช่วยเหลือมาตลอด โดยได้แจ้งไปยังแม่ทัพภาคที่ 4 ให้พร้อมตั้งแต่น้ำยังไม่ท่วม โดยให้นำบทเรียนที่เกิดขึ้นในภาคกลางเป็นตัวอย่าง ทั้งนี้ ภาคใต้เกิดน้ำท่วมทุกปี ซึ่งปัจจุบันภาคใต้มีน้ำท่วม 4 จังหวัด 10 อำเภอ เดือดร้อน 3 หมื่นครอบครัว และมีคนเดือดร้อนแสนกว่าคน โดยเราได้ส่งกำลังเข้าไปดูแลตามลำดับ

"ก่อนหน้านั้นกำลังกองทัพภาคที่ 4 ได้ขึ้นมาช่วยภาคกลาง เมื่อเกิดน้ำท่วมในภาคใต้จึงโยกกำลังส่วนนี้กลับลงไป แต่น้ำท่วมในภาคใต้จะมีข้อเสียและข้อดีคือ จะท่วมอย่างรวดเร็วและจะลดลงอย่างรวดเร็วเพราะอยู่ใกล้ทะเลและมีคูคลองมากพอสมควร จึงทำให้การระบายน้ำเป็นไปได้ดี ทั้งนี้ ผมได้สั่งการประสานยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขุดลอกคูลองเพื่อระบายน้ำได้เร็วขึ้น คิดว่า ปัญหาคงไม่นาน ซึ่งผมติดตามสถานการณ์มาตลอด โดยสอบถามไปยังกองทัพภาคที่ 4 ว่ารับมือไหวหรือไม่ หรือต้องให้การให้กองทัพบกลงไปสนับสนุนเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งเขาบอกว่า ยังไม่ต้องการ ทั้งนี้ ผมได้เตรียมกำลังส่วนหนึ่งเพื่อลงไปช่วยดูแลและให้ทหารช่างเตรียมเครื่องมือทางการช่าง สิ่งอำนวยความสะดวกลงไป หากเกิดกรณีดินถล่ม"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนยุทโธปกรณ์ที่ใช้ช่วยน้ำท่วมในภาคกลางและเกิดชำรุดจะไม่เกิดปัญหาในการช่วยผู้ประสบภัยในภาคใต้ เพราะการทำงานจะทำ 100% ไม่ได้ มันจะมีส่วนหนึ่งที่ทำงานและส่วนหนึ่งนำไปบำรุงซ่อมฟื้นฟู ซึ่งเรามีการวางแผนที่ดีในการจัดการยุทโธปกรณ์และกำลังพล คิดว่าไม่น่าเป็นปัญหา ไม่ใช่ว่ากองทัพบกช่วยเหลือกรุงเทพฯเสร็จแล้วไม่สามารถไปช่วยเหลือใครได้อีก ทั้งคนและเครื่องมือเราพร้อมเสมอ

ส่วนงบประมาณ 1.2 พันล้านบาทของกองทัพบกที่เสนอไปยังรัฐบาลเพื่อนำไปฟื้นฟู และซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์นั้น คิดว่าคงได้รับอนุมัติตามที่ได้ร้องขอ โดยเราเสนอขึ้นไปในกรอบของกองทัพไทย และกระทรวงกลาโหม ส่วนใหญ่สิ่งที่ชำรุดคือรถประมาณ 3 พันคันที่ต้องเปลี่ยนยาง น้ำมันเครื่องหรือส่วนอื่นๆที่ชำรุด

"นอกจากนี้ ยังมีงบซ่อมฟื้นฟูหลายหน่วยทหารที่ถูกน้ำท่วม คือ กองโรงงาน กองสรรพวุธที่มีเครื่องจักรต่างๆถูกน้ำท่วม อีกส่วนหนึ่งคือเครื่องมือที่นำไปสร้างคันกั้นน้ำ สร้างคันดินต่างๆ ที่ชำรุดอยู่ ส่วนบ้านพักของทหารที่ถูกน้ำท่วม เขาต้องได้รับสิทธิ์ตามที่รัฐบาลระบุ ส่วนกองทัพบกไม่มีงบประมาณชดเชยให้ แต่เราจะซ่อมแซมบ้านเรือนให้ ซึ่งมีผู้เดือดร้อน 5-6 พันครอบครัว รวมมีกว่าหมื่นคนที่เดือดร้อน"

ด้านสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ไม่ว่าจะเป็นในพื้นที่ จ.สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พัทลุง ตรัง สุราษฏร์ธานี และ จ.นครศรีธรรมราช วานนี้หลายพื้นที่ปริมาณน้ำได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งแม่น้ำสายหลัก 3 สายใน จ.นราธิวาส คือ แม่น้ำบางนรา แม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำสุไหงโก-ลก ก็เริ่มลดระดับลงเช่นกันส่งผลให้ภาวะน้ำท่วมขังที่ขยายเป็นวงกว้างในพื้นที่ต่างๆ ลดลงตามลำดับด้วย

อย่างไรก็ดี ตามจังหวัดดังกล่าวข้างต้นที่ถูกน้ำท่วมก็ไม่ได้ประมาท โดยได้มีการเร่งสูบน้ำในพื้นที่ลุ่มและในแอ่งน้ำออกอย่างอย่างคึก เพื่อเตรียมรับมือพายุลูกใหม่ที่อาจจะเข้ามาในช่วงของวันที่ 1 ธ.ค.นี้

โดยเฉพาะที่ จ.สงขลา สำนักงานชลประทานที่ 16 จ.สงขลา ได้นำเครื่องสูงน้ำขนาดใหญ่ 2 เครื่องติดตั้งบนนถนนเลียบคลองระบายน้ำ ร.1 (รอ1) พื้นที่ ม.2 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ เพื่อเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่นาและพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน ซึ่งขณะนี้กลายเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่และยังมีน้ำท่วมขังสูงกว่า 1 เมตร เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำจาก 3 ตำบลในพื้นที่ 2 อำเภอคือ ต.ท่าช้าง ต.บ้านหาร อ.บางกล่ำ และ ต.คลองอู่ตะเภา อ.หาดใหญ่ ที่ไหลมารวมกันโดยเร่งสูบน้ำลงสู่คลองระบายน้ำ ร.1 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลาโดยเร็วที่สุด เพื่อเตรียมรับมวลน้ำระลอกใหม่จากอิทธิพลของมรสุมที่จะมีฝนตกหนักอีกครั้งในช่วงต้นเดือน ธ.ค.นี้ป้องกันน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรที่อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น