00 ในที่สุดสภาผู้แทนก็ใช้พวกมากลากไปตามคาด โดยลากพล.ต.อ.ประชา พรหมนอกชนะโหวตญัตติไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านไปด้วยเสียงท่วมท้นตามคาด ด้วยคะแนน 273 ต่อ188 ฟอกให้ใสสะอาด ให้ทำหน้าที่ต่อไปตามสะดวก ไม่ต้องไปสนใจว่าจะขัดกับความรู้สึกของชาวบ้านทั่วไปแค่ไหน คนพวกนี้ไม่เคยสนใจ ไม่แยแสใดๆ ทั้งสิ้น
00 การซักฟอก พล.ต.อ.ประชา ตลอดเวลาหนึ่งวันเต็มมองในแง่ดีได้เผยให้เห็น “ธาตุแท้”เปลือยตัวตนของคนๆนี้ ออกมาได้อย่างหมดเปลือกอีกคนหนึ่ง บางครั้ง “รู้จักหน้า ไม่รู้จักใจ” แต่จากการถูกจับขึ้นเขียง ถูกฝ่ายค้านซักฟอก เปิดโปงตลอดทั้งวัน ก็ทำให้เห็นการดิ้นรนเอาตัวรอดของเขา โดยทำทุกอย่างชนิดที่เรียกว่าไม่เคยพบเห็นมาก่อน จากชายคนนี้ที่ก่อนหน้ามีลักษณ์ หงิมๆนุ่มๆ กลายเป็นคนเจ้าเล่ห์ อย่างไม่น่าเชื่อ
00 อย่างไรก็ดี เมื่อต้องทนดูการอภิปรายต่อเนื่องกันสองสามชั่วโมงในช่วงที่พอมีสาระ ก็ต้องยอมรับว่าพล.ต.อ.ประชา “หมดสภาพ” แล้วจริงๆ ทั้งในเรื่องการบริหารจัดการ การใช้คน ความรอบคอบทางกฎหมาย ถือว่า “ไม่เอาไหน” สอบตกอย่างสิ้นเชิง บางครั้งการพิสูจน์คนๆหนึ่งว่าเป็น “ของแท้” หรือมีความหวังได้แค่ไหน ต้องผ่านสถานการณ์คับขันที่ไม่ปกติเสียก่อน แต่สำหรับเขา ถือว่าสอบตก ไม่ได้เรื่อง อย่าว่าจะคิดฝันเป็นนายกฯส้มหล่นเลย แค่ รมต.กระจอกสักตำแหน่งยังไม่คู่ควรเลย ขณะเดียวกันยังสะท้อนกลับไปในอดีต ว่าเติบโตมาได้ขนาดนี้ได้อย่างไร
00 สำหรับเส้นทางในรัฐบาลของ ประชา พรหมนอก จะอยู่อย่างไรต่อไป ขึ้นกับการชี้นิ้วสั่งการของ “เจ้าของ” คือ ทักษิณ ชินวัตร เป็นหลัก ขณะเดียวกันขึ้นอยู่กับว่าจะยังทำประโยชน์ให้กับเจ้าของได้แค่ไหน แต่สำหรับเขาในสายตาชาวบ้านทั่วไปแล้วเชื่อว่า “หมดสภาพ” โดยสิ้นเชิง
00 นาทีนี้ ถ้าไปถาม ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ต้องยืนยันว่าไม่ปรับครม.แน่นอน ต้องดันทุรังลากถูลู่ถูกังกันไปแบบนี้ เพราะความหมายไม่มีอะไรมากไปกว่า ถ้าจะปรับก็ต้องปรับกันทั้งคณะ ไล่ลงมาตั้งแต่ นายกฯยิ่งลักษณ์ ลงมา เพราะ “ห่วยแตก” ยิ่งกว่า ดังนั้นถ้าจะโละคนที่ต้องไปคนแรกก็คือคนที่เป็นนายกฯ นั่นแหละไม่ต้องหันไปถามคนอื่น
00 พิจารณาจากการอภิปรายของ ส.ส.ในสภาคราวนี้ ถือว่า “ไร้มาตรฐาน” โดยเฉพาะฝ่ายรัฐบาลที่ยังคงเส้นคงวาอยู่กับการ “ถ่อยเถื่อน” การประท้วงที่ไร้สาระ คิดว่าชาวบ้านเขาเห็นดีเห็นงามไปกับพฤติกรรมอันน่าสะอิดสะเอียนแบบนั้นไปด้วย แต่เมื่อดูหน้าตาแต่ละคน ล้วนแล้วแต่ “หน้าเดิม” เจ้าประจำ อย่าง สุนัย จุลพงศธร งี้ จตุพร พรหมพันธุ์ เหวง โตจิราการ ที่ทำหน้าที่ “รับงาน” แก้ต่างให้ ทักษิณ ชินวัตร และกิจกรรมของคนเสื้อแดง เท่านั้น ทุด !!
00 หลังปิดสมัยประชุมสภาในวันนี้ (29 พ.ย.) กันไปแล้ว นับจากนี้ไปก็มีเวลาอีกหลายเดือนก่อนที่จะกลับมาเปิดประชุมกันอีกครั้ง ต่อไปสำหรับ “หัวโจก” เสื้อแดง ทั้งหลายแหล่คงต้องถูกดำเนินคดีในคดีเผาบ้านเผาเมือง หลังจากชะงักไปชั่วคราว ใครที่อ้างว่าต้องประชุมสภาก็คงไม่อาจเอาเปรียบคนอื่นได้อีกแล้วนะ ทั่น จตุพร-เหวง-ณัฐวุฒิ หวังว่าดีเอสไอ คงจะเอาจริงเอาจังนะ !!
00 การซักฟอก พล.ต.อ.ประชา ตลอดเวลาหนึ่งวันเต็มมองในแง่ดีได้เผยให้เห็น “ธาตุแท้”เปลือยตัวตนของคนๆนี้ ออกมาได้อย่างหมดเปลือกอีกคนหนึ่ง บางครั้ง “รู้จักหน้า ไม่รู้จักใจ” แต่จากการถูกจับขึ้นเขียง ถูกฝ่ายค้านซักฟอก เปิดโปงตลอดทั้งวัน ก็ทำให้เห็นการดิ้นรนเอาตัวรอดของเขา โดยทำทุกอย่างชนิดที่เรียกว่าไม่เคยพบเห็นมาก่อน จากชายคนนี้ที่ก่อนหน้ามีลักษณ์ หงิมๆนุ่มๆ กลายเป็นคนเจ้าเล่ห์ อย่างไม่น่าเชื่อ
00 อย่างไรก็ดี เมื่อต้องทนดูการอภิปรายต่อเนื่องกันสองสามชั่วโมงในช่วงที่พอมีสาระ ก็ต้องยอมรับว่าพล.ต.อ.ประชา “หมดสภาพ” แล้วจริงๆ ทั้งในเรื่องการบริหารจัดการ การใช้คน ความรอบคอบทางกฎหมาย ถือว่า “ไม่เอาไหน” สอบตกอย่างสิ้นเชิง บางครั้งการพิสูจน์คนๆหนึ่งว่าเป็น “ของแท้” หรือมีความหวังได้แค่ไหน ต้องผ่านสถานการณ์คับขันที่ไม่ปกติเสียก่อน แต่สำหรับเขา ถือว่าสอบตก ไม่ได้เรื่อง อย่าว่าจะคิดฝันเป็นนายกฯส้มหล่นเลย แค่ รมต.กระจอกสักตำแหน่งยังไม่คู่ควรเลย ขณะเดียวกันยังสะท้อนกลับไปในอดีต ว่าเติบโตมาได้ขนาดนี้ได้อย่างไร
00 สำหรับเส้นทางในรัฐบาลของ ประชา พรหมนอก จะอยู่อย่างไรต่อไป ขึ้นกับการชี้นิ้วสั่งการของ “เจ้าของ” คือ ทักษิณ ชินวัตร เป็นหลัก ขณะเดียวกันขึ้นอยู่กับว่าจะยังทำประโยชน์ให้กับเจ้าของได้แค่ไหน แต่สำหรับเขาในสายตาชาวบ้านทั่วไปแล้วเชื่อว่า “หมดสภาพ” โดยสิ้นเชิง
00 นาทีนี้ ถ้าไปถาม ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ต้องยืนยันว่าไม่ปรับครม.แน่นอน ต้องดันทุรังลากถูลู่ถูกังกันไปแบบนี้ เพราะความหมายไม่มีอะไรมากไปกว่า ถ้าจะปรับก็ต้องปรับกันทั้งคณะ ไล่ลงมาตั้งแต่ นายกฯยิ่งลักษณ์ ลงมา เพราะ “ห่วยแตก” ยิ่งกว่า ดังนั้นถ้าจะโละคนที่ต้องไปคนแรกก็คือคนที่เป็นนายกฯ นั่นแหละไม่ต้องหันไปถามคนอื่น
00 พิจารณาจากการอภิปรายของ ส.ส.ในสภาคราวนี้ ถือว่า “ไร้มาตรฐาน” โดยเฉพาะฝ่ายรัฐบาลที่ยังคงเส้นคงวาอยู่กับการ “ถ่อยเถื่อน” การประท้วงที่ไร้สาระ คิดว่าชาวบ้านเขาเห็นดีเห็นงามไปกับพฤติกรรมอันน่าสะอิดสะเอียนแบบนั้นไปด้วย แต่เมื่อดูหน้าตาแต่ละคน ล้วนแล้วแต่ “หน้าเดิม” เจ้าประจำ อย่าง สุนัย จุลพงศธร งี้ จตุพร พรหมพันธุ์ เหวง โตจิราการ ที่ทำหน้าที่ “รับงาน” แก้ต่างให้ ทักษิณ ชินวัตร และกิจกรรมของคนเสื้อแดง เท่านั้น ทุด !!
00 หลังปิดสมัยประชุมสภาในวันนี้ (29 พ.ย.) กันไปแล้ว นับจากนี้ไปก็มีเวลาอีกหลายเดือนก่อนที่จะกลับมาเปิดประชุมกันอีกครั้ง ต่อไปสำหรับ “หัวโจก” เสื้อแดง ทั้งหลายแหล่คงต้องถูกดำเนินคดีในคดีเผาบ้านเผาเมือง หลังจากชะงักไปชั่วคราว ใครที่อ้างว่าต้องประชุมสภาก็คงไม่อาจเอาเปรียบคนอื่นได้อีกแล้วนะ ทั่น จตุพร-เหวง-ณัฐวุฒิ หวังว่าดีเอสไอ คงจะเอาจริงเอาจังนะ !!