ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่หมดศรัทธาต่อระบอบการเมืองอันล้มเหลวเละทะ และรับไม่ได้กับพฤติกรรมปู้ยี่ปู้ยำบ้านเมืองของบรรดานักการเมืองน้ำเน่าทั้งปวงของประเทศไทย มาหลายปีดีดักแล้ว
สถานการณ์ของความขัดแย้ง แบ่งฝ่าย แตกแยกกันอย่างรุนแรงของคนไทย และวิกฤตความทุกข์ร้อนแสนสาหัสของประชาชนทั้งยากดีมีจนอันเกิดจากภัยพิบัติต่างๆ ที่ไร้ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการของรัฐ ผมก็ได้แต่แลดูอย่างปลงสังเวช และสลดหดหู่กับสภาวะยอมจำนนของสังคมไทย ที่ปล่อยให้นักโทษหนีคดีเพียงคนเดียว สามารถยึดกุมกลไกของประเทศ สร้างความปั่นป่วน เล่นเกมการเมืองตามที่เขาต้องการอย่างย่ามใจและตามอำเภอใจมาโดยตลอด
ระบอบการเมืองที่เชิดชูบูชากันว่าเป็นประชาธิปไตย กลายเป็นช่องทางให้นักโทษหนีคดีคนหนึ่ง สามารถบงการตั้งนายกรัฐมนตรีในต่างกรรมต่างวาระได้ถึง 3 คนแล้ว และกลายเป็นความถูกต้องชอบธรรมในการครอบครองอำนาจรัฐ ปกครองประเทศได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ นายกรัฐมนตรีนอมินีคนแรกตั้งขึ้นแล้ว ไม่สามารถบงการบังคับได้ตามใจชอบ เท่าที่ควร ต่อมาจึงต้องเลือกญาติพี่น้องใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะจงรักภักดีกว่าคนนอกคนอื่น แล้วเราก็ได้ นายกรัฐมนตรีที่ไม่ต้องประสีประสาในการบริหารจัดการประเทศ ไม่ต้องมีประสบการณ์ไต่เต้าต่อสู้ทางการเมืองใดๆ มาก่อน แต่เป็นหุ่นเชิดที่นักโทษหนีคดีไว้วางใจ เพราะมีศักดิ์เป็นน้องเขยเท่านั้นเอง น่าสงสารประเทศไทยไหม?
และเมื่อการเมืองเปลี่ยนผ่าน จะเพราะแรงกดดันจากภาคประชาชนหรือตุลาการภิวัฒน์ อย่างที่กล่าวอ้างกันมาก็ตาม คนไทยเริ่มมีความหวัง ว่าได้นักการเมืองน้ำดี ดีกรีนักเรียนนอกจากออกซฟอร์ด มาเป็นนายกรัฐมนตรี ประกาศกฎเหล็ก 9 ข้อ เพื่อสร้างนิติรัฐและจะมุ่งขจัดการเมืองล้มเหลว ด้วยท่าทีมาดมั่นและแข็งขัน ดูน่าเชื่อถือ
แต่แล้วก็เหมือนกงเกวียนกำเกวียนเวียนซ้ำรอยเดิม เมื่อนายกรัฐมนตรีมาดผู้ดี รักที่จะว่ายวนในวังวนน้ำเน่า เล่นการเมืองแบบเดิมๆ และยอมตนอยู่ใต้อาณัติของผู้จัดการรัฐบาล และพรรคร่วมที่เจ้าของพรรคที่แท้จริง เคยเป็นอดีตสมุนมือขวาคุมกองกำลังของนักโทษหนีคดี โอกาสที่จะชำระสะสางสิ่งเลวร้ายและความไม่ถูกต้องเพื่อสร้างนิติรัฐจึงไม่เกิดขึ้น ไม่เคยมีความพยายามใดๆ ที่จะดำเนินการติดตามจับกุมนักโทษหนีคดีมารับโทษตามกบิลเมือง มิหนำซ้ำกลับปล่อยให้มีการย่ำยีหลักคุณธรรมในระบบราชการอย่างเลวร้ายกว่ายุคใดๆ และปล่อยให้มีการคอร์รัปชันในระดับที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ารัฐบาลในยุคที่นักโทษหนีคดีครองอำนาจอยู่เลย
ผลพวงจากความไร้ประสิทธิภาพและไร้คุณธรรมของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีมาดผู้ดี จึงส่งผลให้พรรคการเมืองของนักโทษหนีคดีกลับฟื้นคืนชีพมาใหม่ โดยการชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย และเป็นโอกาสให้นักโทษหนีคดีสามารถบงการจัดตั้งรัฐบาลและตั้งนายกรัฐมนตรีนอมินีคนใหม่ได้อีกครั้งหนึ่ง คราวนี้เพื่อให้มั่นใจยิ่งขึ้นจึงเลือกน้องสาวในสายโลหิต เชิดขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี อย่างไม่คำนึงถึงความรู้ความสามารถและความเหมาะสมใดๆ
แล้วบาปกรรมก็ตกเป็นของประเทศไทยและคนไทยทั้งชาติ ที่ต้องมีนายกรัฐมนตรีไร้เดียงสาทางการเมือง อ่านโพยผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
ทั้งต่อหน้าสื่อมวลชน ต่อสาธารณะ และการแถลงต่อรัฐสภา บริหารจัดการบ้านเมืองอย่างไร้ประสิทธิภาพไม่น่าเชื่อถือ ไร้ภาวะผู้นำโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะการบริหารจัดการภัยพิบัติ ที่ทำให้น้ำท่วมขยายวงกว้างมากมายมหาศาล เดือดร้อนเสียหายทั้งต่อประเทศชาติ และประชาชนคนไทยแสนสาหัสอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ผมพยายามย่นย่อลำดับเรื่องราวทางการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศนี้ เพื่อให้เห็นภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เพียงเพื่อจะตะโกนถามปวงชนชาวไทยผ่านข้อเขียนนี้ว่า ท่านทั้งหลายทั้งปวงรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลของบ้านนี้เมืองนี้กันบ้างไหม?
ทำไมนักโทษที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุก หลบหนีออกนอกประเทศ แล้วสามารถเดินทางเอ้อระเหยลอยชายไปไหนมาไหนในต่างประเทศได้อย่างสะดวกโยธิน เยี่ยงคนปกติทั่วไป?
ทำไมนักโทษหนีคดีสามารถทำหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีถวายผ้ากฐินพระราชทานที่วัดไทยในพุทธคยา ประเทศอินเดีย ท่ามกลางข้าราชการไทย ที่ไม่กล้าแสดงปฏิกิริยาใดๆ
ทำไมนักโทษหนีคดีสามารถปรากฏกายให้สัมภาษณ์ทางสื่อทีวี โดยสื่อมวลชนไทยและเทศ และออกสื่อต่างๆ เยี่ยงคนปกติทั่วไป?
ทำไมนักโทษหนีคดีสามารถโฟนอิน หรือวิดีโอลิงก์มาปราศรัยต่อมวลชนในประเทศ กล่าวให้ร้ายกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยอย่างไม่เคารพยำเกรง โดยรัฐไม่มีการดำเนินการใดๆ เหมือนเป็นเหตุการณ์ปกติธรรมดาทั่วไป?
ทำไมประเทศนี้ยอมให้นักโทษหนีคดีมีอำนาจบารมีตั้งนายกรัฐมนตรี ตั้งรัฐมนตรี และตั้งข้าราชการ โดยผ่านกลไกอำนาจรัฐเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดาทั่วไป?
ทำไม ทำไม และทำไม????????
ปวงชนชาวไทยที่มีมากกว่า 15 ล้านคน จึงยอมทนให้สภาพการณ์ไม่ชอบมาพากลอันพิลึกพิลั่น พิลึกกึกกือเหล่านั้น เกิดขึ้นในบ้านเมืองอย่างเป็นปกติธรรมดา
หรือว่าเราจะต้องจำยอมให้เขา “สับขาหลอก” ตามวาทะยั่วโทสะของผีโม่แป้งหัวหมู่ทะลวงฟันแบบเยสโนโอเค โดยไม่รู้สึกรู้สาอย่างที่ผ่านมา และอีกต่อๆ ไป
ทำไม ทำไมครับ ท่านปวงชนชาวไทย?
