“พันธมิตรฯ” แสดงพลังยิ่งใหญ่ คัดค้านอภัยโทษ “ทักษิณ”

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -จากกรณีที่คณะรัฐมนตรีโดยการนำของ “เฉลิม อยู่บำรุง” ได้กระทำการ “ลักไก่” ประชุมวาระลับ เพื่อพิจารณาแก้ไขร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) พระราชทานอภัยโทษเพื่อเอื้อประโยชน์แก่ “นช.ทักษิณ ชินวัตร” นักโทษหนีคดี ในขณะที่ประเทศชาติและประชาชนกำลังทุกข์ทนอยู่กับภัยพิบัติน้ำท่วมหนัก

นอกจากนี้ การกระทำดังกล่าวยังถือเป็นการกดดันสถาบันเบื้องสูงและบีบบังคับให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวลงพระปรมาภิไธย ซึ่งท้าทายพสกนิกรชาวไทยผู้จงรักภักดีทั้งประเทศ

ด้วยเหตุนี้ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ซึ่งเป็นผู้นำในการเคลื่อนไหวต่อต้านความสามานย์แห่ง “ระบอบทักษิณ” มาอย่างต่อเนื่อง จึงออกมาแสดงพลังอันยิ่งใหญ่ โดยนัดหมายชุมนุมที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในวัน21 พ.ย. เพื่อคัดค้านร่างกฎหมายเพื่อทักษิณ หยุดทำลายหลักนิติรัฐ และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่ง

แต่ปรากฏว่า “ระบอบทักษิณ” ไม่อาจต้านทาน “พลังคัดค้าน” จากประชาชนที่ส่งแรงกระเพื่อมไปสู่ทุกภาคส่วนของสังคม จนยอมถอยร่นอย่างไม่เป็นท่า โดยนายใหญ่ “นช.ทักษิณ” เห็นผลลัพธ์ว่าได้ไม่คุ้มเสีย จึงร่อนจดหมายที่เขียนด้วยลายมือตัวเอง เมื่อวันที่ 20 พ.ย. โดยไม่ลืมที่จะอ้างบุญอ้างคุณเอากับประชาชน ขอเล่นบทเป็นคนเสียสละ ไม่ขอรับประโยชน์จากพระราชกฤษฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ

หลังจากนั้น “พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก” รมว.ยุติธรรม ในฐานะเจ้าของเรื่องผู้รับผิดชอบ ก็กระโดดออกมางับลูก เปิดแถลงข่าวขานรับท่าทีของ “นช.ทักษิณ” ทันที โดยยืนยันว่าการขอพระราชทานอภัยโทษปีนี้จะไม่มีชื่อ “นช.ทักษิณ” รวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เมื่อระบอบทักษิณเปลี่ยนท่าที และถอยจากประเด็นนี้แล้ว “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ทุกคนที่มาตามนัดหมาย จึงเปลี่ยนแผนการชุมนุมคัดค้านร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ มาที่เวทีชั่วคราว “บ้านเจ้าพระยา” ถนนพระอาทิตย์ เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยเปลี่ยนเป็นกิจกรรมพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับแกนนำและผู้ปราศรัย โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น คึกคัก เพราะคับคั่งไปด้วยพี่น้องพันธมิตรฯ ที่เคยร่วมต่อสู้กับระบอบทักษิณมาอย่างยาวนาน ถึงแม้ครั้งนี้จะไม่มีการชุมนุม แต่พี่น้องพันธมิตรฯก็แสดงให้เห็นถึงพลังอันยิ่งใหญ่ที่จะร่วมกันปกป้องพระราชอำนาจและสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย โดยไม่ให้พวกคนบาปหยาบช้ามาบีบบังคับจาบจ้วงพระองค์ท่านเป็นอันขาด

“พันธมิตรฯ พูดมานานแล้วนะครับว่า มีอยู่ 2 ประการที่พันธมิตรฯ จะไม่ยอม และจะออกมาชุมนุมต่อต้าน เรื่องแรกคือ เรื่องของการไม่หยุดยั้งขบวนการจาบจ้วงสถาบันกษัตริย์... เรื่องที่ 2 คือ เมื่อใดก็ตามที่รัฐบาลดำเนินวิถีทางที่จะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมาประเทศไทยโดยไม่ผิดกฎหมายเลย เรื่องนี้เราจะไม่ยอมเด็ดขาด" นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าว

ขณะที่ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ให้ความเห็นว่า แม้จะยังไม่มีความชัดเจน แต่ก็ต้องถือว่าเป็นสัญญาณแรกที่รัฐบาลประกาศอย่างชัดเจนว่า จะไม่มีร่างกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ให้กับ นช.ทักษิณ

“หลังจากนี้เราก็ต้องเฝ้าระวังว่าสิ่งที่จะเกิดตามมาเป็นไปตามที่คุณประชาได้พูดไว้หรือไม่ ทั้งในขั้นตอนการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือการยื่นกฎหมายอื่นให้กฤษฎีกาฯ พิจารณาต่อไป เราจะติดตามอย่างใกล้ชิด” นายปานเทพ กล่าว

ขณะที่ “วอลล์สตรีทเจอร์นัล” หนังสือพิมพ์ธุรกิจทรงอิทธิพลสัญชาติสหรัฐฯ ได้เสนอรายงานข่าวระบุว่า การที่กลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาประกาศเจตนารมณ์ที่จะลงสู่ท้องถนนด้วยความรวดเร็วในสัปดาห์ที่แล้ว บ่งบอกให้เห็นว่า “ทักษิณ” จะไม่พบหนทางที่จะกลับบ้านอย่างง่ายๆ เลย ไม่ว่าจะเลือกเส้นทางไหนก็ตามที

ทั้งนี้ รายงานข่าวของวอลล์สตรีทเจอร์นัล ที่เขียนโดย เจมส์ ฮุกเวย์ (James Hookway) ชิ้นนี้ บอกว่า หลังจากล่าถอยยุติแผนการที่ดูเหมือนจะมีการนำเอาชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณใส่เข้าไปในบัญชีผู้ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเดือนหน้าแล้ว พวกผู้นำในรัฐบาลไทยก็กำลังมองหาหนทางใหม่ๆ เพื่อให้อดีตนายกฯผู้ก่อให้เกิดการโต้เถียงขัดแย้งกันอย่างหนักผู้นี้ สามารถเดินทางกลับบ้านชนิดที่เขาไม่ต้องรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาโทษในปี 2008 ทั้งนี้หนทางที่โดดเด่นกว่าเพื่อนได้แก่ การออกกฎหมายฉบับใหม่ที่จะยกโทษให้แก่ใครก็ตามที่ถูกตัดสินว่ากระทำความผิดอาญาอันเกี่ยวเนื่องจากการรัฐประหารปี 2006 ที่โค่นพ.ต.ท.ทักษิณลงจากอำนาจ ตลอดจนความปั่นป่วนวุ่นวายภายหลังจากนั้น

วอลล์สตรีทเจอร์นัลยังระบุด้วยว่า การอภิปรายภายในคณะรัฐมนตรีว่าควรจะรวมเอาชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าไปในบัญชีรายชื่อนักโทษที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษเนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 5 ธันวาคมปีนี้ด้วยหรือไม่ ต้องมีอันแตกสลายไป เมื่อพวกผู้นำฝ่ายค้านและหนังสือพิมพ์จับทิศทางลมของแผนการนี้ได้

จากนั้นพวกที่คัดค้านอดีตนายกฯผู้นี้ก็คุกคามที่จะลงสู่ท้องถนน และ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้เผยแพร่จดหมายเขียนด้วยลายมือตนเองระบุว่า เขาไม่ต้องการได้รับประโยชน์อย่างเป็นการเฉพาะ ทั้งนี้ มีรายงานว่าการขอพระราชทานอภัยโทษคราวนี้ มีการขยายผู้ได้รับประโยชน์ให้กว้างขึ้นและผิดจากสิ่งที่เคยปฏิบัติมาในอดีต นั่นคือให้ผู้หลบหนีคดี และผู้มีความผิดฐานทุจริตคอร์รัปชั่น ได้รับการอภัยโทษด้วย

อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวของวอลล์สตรีทเจอร์นัลตบท้ายว่า “อัตราความเร็วที่เหล่าศัตรูของ พ.ต.ท.ทักษิณในกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ชูธงเหลือง ออกมาประกาศเจตนารมณ์ของพวกเขาในการลงสู่ท้องถนนในสัปดาห์ที่แล้ว บ่งชี้ให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่พบหนทางสะดวกสบายในการกลับคืนสู่ประเทศ ไม่ว่าเขาจะเลือกเส้นทางอะไรก็ตามที”