ASTVผู้จัดการรายวัน - ปชป.เปิดศึกซักฟอก จัด10 ขุนพลเชือด "ประชา" 3 ข้อหาหนัก ทุจริต ผิดกฎหมาย ไร้ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำ เปิดช่อง"ลิ่วล้อ" งุบงิบของบริจาค งาบข้าวกล่อง ชักหัวคิวถุงยังชีพ "ปู" เรียกประชุมรมต. ตั้งทีมสกัดไม่ให้ภัยลามถึงตัว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ของฝ่ายค้านที่จะมีขึ้นในวันที่ 27 พ.ย.นี้ ว่า มีการวางตัว ส.ส.ที่จะอภิปราย 10 กว่าคน และจัดวางประเด็นไว้แล้ว ทั้งในส่วนการบริหารจัดการน้ำ ปัญหาความล้มเหลว การทุจริต ทำผิดกฏหมาย มีความไม่โปร่งใสในเรื่องสิ่งของบริจาค และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงยุติธรรม
ทั้งนี้บางเรื่องอาจจำเป็นต้องพูดซ้ำ จากที่เคยได้อภิปรายไปในช่วงการพิจารณาญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปเรื่องปัญหาน้ำท่วม ของรัฐสภา เพื่อให้ประชาชนเข้าใจสภาพเหตุการณ์ รับทราบข้อเท็จจริงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องธรรมชาติอย่างเดียว แต่เป็นผลพวงจากการบริหารจัดการ ที่ล้มเหลว โดยมีปัจจัยทางการเมืองเข้ามาแทรกแซง จนทำให้เกิดปัญหามากกว่าที่ควรจะเป็น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่าการอภิปรายครั้งนี้ ต้องการให้รัฐบาลได้รับทราบข้อบกพร่อง แล้วนำไปแก้ไขไม่ให้ปัญหาซ้ำรอยอีก และนายกฯ ต้องพิจารณาว่า จากการดำเนินการมาทั้งหมด ตัวรัฐมนตรียังมีความเหมาะสมที่จะทำหน้าที่ต่อไป หรือไม่
ส่วนที่พรรคเพื่อไทย กล่าวหาว่า พรรคประชาธิปัตย์ อภิปราย พล.ต.อ.ประชา เพื่อกระทบชิ่งไปถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีนั้น พรรคเพื่อไทย ก็คิดแต่เรื่องแบบนี้ อยากให้นำสาระมาดูมากกว่า
" พรรคเพื่อไทยกล้ายืนยันหรือไม่ว่าที่บริหารจัดการน้ำท่วมทำมาดีแล้ว ยืนยันหรือไม่ว่า ข้าวของที่บริจาคมาไม่มีนักการเมืองเข้าไปยุ่งเกี่ยว ยืนยันหรือไม่ว่าหลายสิ่งที่เกิดความไม่โปร่งใส มีประเด็นทำให้เกิดความแตกแยก พรรคเพื่อไทยไม่สามารถทำอะไรได้ดีกว่านี้แล้ว ถ้ายืนยัน ผมก็ไม่ว่า แต่ข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น และคนส่วนใหญ่ ก็ไม่ได้คิดเช่นนั้น" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
** จัดหนัก"ประชา" 3 ข้อหาใหญ่
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.ประชา ซึ่งจะเป็นผู้อภิปรายเปิดหัวเป็นคนแรก กล่าวว่า เนื้อหาข้อมูลการอภิปราย มี 3 เรื่อง คือ 1. การทุจริต 2. ผิดกฎหมาย และ 3. การบริหารงานที่ไร้ประสิทธิภาพ
ฉะนั้นในฐานะที่ พ.ต.อ.ประชา ดำรงตำแหน่ง ผอ.ศปภ.และรมว.ยุติธรรม ต้องรับผิดชอบ ซึ่งเนื้อหาทั้งหมดจะถูกแบ่งออกจากกัน คือในฐานะที่เป็น ผอ.ศปภ.ซึ่งเป็นผู้จัดการเรื่องน้ำท่วม โดยจะเริ่มตั้งแต่ พ.ต.อ.ประชา รับตำแหน่ง ผอ.ศปภ. เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นการบริหารงานที่ผิดพลาดในเรื่องบริหารจัดการเรื่องน้ำท่วม การจัดการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน จนกระทั้งเกิดความเสียหาย โดยเนื้อหาจะชี้ให้เห็นว่าบริหารงานไร้ประสิทธิภาพ และมีหลักฐานอะไร หรือว่าปัจจัยอะไรเป็นตัวชี้วัด
"เราจะต้องทำให้ประชาชนเห็นว่า น้ำท่วมครั้งนี้ แม้ว่าจะเกิดจากฝนตก และพายุที่เป็นภัยธรรมชาติก็จริง เมื่อปริมาณน้ำลดลงแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการทั้งสิ้น ซึ่งในการบริหารจัดการนั้น มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นจริง แล้วข้อผิดพลาดนั้นอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของพ.ต.อ.ประชา และ ศปภ. ควรจะรับผิดชอบในเรื่องนี้"
ส่วนประเด็น พ.ร.ฏ.อภัยโทษ นายสาทิตย์ กล่าวว่า จะมีผู้อภิปรายและมีพยานหลักฐานต่างๆ ที่ชี้ให้เห็นว่าอะไรที่ทำผิดกฏหมายตรงไหนซึ่งจะมีเรื่องอื่นประกอบด้วยไม่ใช่เรื่องพ.ร.ฏ.อภัยโทษอย่างเดียว ก็คงต้องรอฟังคำชี้แจงจากฝ่ายรัฐบาล เพราะการบริหารราชการแผ่นดิน จะดูกันที่พฤติกรรมการบริหาร และเจตนาเป็นหลัก ซึ่ง 2 ใน 3 ของการอภิปราย น่าจะอยู่ในเรื่องของการบริหารน้ำท่วม และเรื่องการทุจริต ผิดกฎหมาย และอีก 1 ใน 3 จะเป็นเรื่องในกระทรวงยุติธรรม
" การอภิปรายครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ประธานสภาจัดให้อภิปรายในวันอาทิตย์ แล้วลงมติในวันจันทร์ ซึ่งก็เป็นผลดีต่อฝ่ายค้าน เพราะประชาชนจะพักผ่อนอยู่บ้าน บางคนไปไหนไมได้ เพราะน้ำท่วม ก็จะมีโอกาสได้ฟังการอภิปรายเต็มที่ ทั้งวัน แม้ที่สุดแล้วจะพ่ายแพ้ต่อเสียงโหวตในสภา แต่เรายังหวังว่าจะสามารถเปิดหูเปิดตาประชาชนได้ และเชื่อว่า จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลชุดนี้ ไม่มากก็น้อย" นายสาทิตย์ กล่าว
**ส.ส.เพื่อไทยขอ 19 ล้านทำข้าวกล่อง
รายงานข่าวแจ้งว่า ข้อมูลเด็ดที่พรรคประชาธิปัตย์จะใช้ซักฟอกในครั้งนี้ เช่น กรณีที่กมธ.ติดตามงบประมาณพบว่า กรมบัญชีกลางได้รับข้อมูลว่า กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ของบกลางอีก1,600 ล้านบาท เพื่อมาดูแลประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม แต่ยังไม่อนุมัติ
ขณะที่มีตัวเลขจาก กมธ.ติดตามงบฯ เผยพบข้อมูล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ได้เบิกงบจาก พม. 19 ล้านบาท ทำข้าวกล่องแจกประชาชน 4 วัน จำนวน 225,000 กล่อง หรือกรณีเบิก 4.9 ล้านบาท แจกข้าวกล่อง 10วันจำนวน 1.6 แสนกล่อง เป็นต้น
**ขรก.ส่งข้อมูลฝ่ายค้านเชือดถุงยังชีพ
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้น นายฐานิสร์ เทียนทอง รมช.มหาดไทย จากพรรคเพี่อไทย ในฐานะกำกับดูแลกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้เรียก นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดี ปภ. มาพบเป็นการด่วน เพื่อขอคำชี้แจงกระบวนการขั้นตอนการจัดซื้อถุงยังชีพของ ปภ. ที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่ามีความผิดปกติ ซึ่งนายวิบูลย์ ก็ได้ชี้แจงด้วยวาจา ถึงลำดับขั้นตอนการซื้อทั้งหมด
ทั้งนี้ มีการระบุว่า งบประมาณที่ใช้จัดซื้อ ส่วนใหญ่เป็นงบของกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย ซึ่งเป็นเงินที่ประชาชนบริจาคให้ ศปภ. ไม่ได้เป็นการจัดซื้อโดยงบของปภ. และยืนยันว่า ทั้งหมดเป็นไปตามกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ไม่มีการทุจริต
ส่วนที่เป็นปัญหาเรื่องการจัดซื้อถุงยังชีพ 800 บาท ที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายนั้น เป็นการจัดซื้อสิ่งของในถุงยังชีพ มีมูลค่าไม่ถึง 800 บาท และกระบวนการจัดซื้อเสนอราคา และจัดทำภายในวันเดียว ซึ่งนายฐานิสร์ กล่าวว่า ประเด็นนี้ อธิบดีกรมป้องกันฯ ชี้แจงว่า เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน แต่โดยหลักถ้าเป็นการจัดซื้อถุงยังชีพปกติของ ปภ. จะซื้อในราคา 500 บาท เพียงราคาเดียว เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา
" กรณีถุงยังชีพราคา 800 บาท เป็นเรื่องเร่งด่วน และใช้เงินบริจาค อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ นายวิบูลย์ นำเอกสารชี้แจง ของการจัดซื้อถุงยังชีพมาให้เป็นการเร่งด่วน โดยเฉพาะในช่วงตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจ วันอาทิตย์ที่ 27 พ.ย.นี้ "
ทั้งนี้ มีรายงานจาก ศปภ. แจ้งว่า ขณะนี้รัฐมนตรีหลายคนใน ศปภ. มีความหนักใจ เนื่องจากการตรวจสอบจากข้าราชการในหลายหน่วยงาน เช่น ปภ. พบว่า มีเอกสารหลุดไปถึงพรรคประชาธิปัตย์จำนวนมาก ซึ่งฝ่ายค้านจะอภิปรายให้เห็นถึงการจัดซื้อถุงยังชีพ ที่มีความผิดปกติ โดยฝ่ายการเมืองได้ตรวจสอบข้อมูล ที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายถึงคนที่อยู่เบื้องหลังการจัดซื้อถุงยังชีพคือ “ไอ้เบ้” ที่ นายวิลาศ จันทรพิทักษ์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์จะนำมาอภิปราย
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า “ไอ้เบ้” เป็นข้าราชการระดับป้องกันภัยจังหวัดแห่งหนึ่ง ในภาคตะวันออก ที่มีความใกล้ชิดกับนักการเมืองหลายคน และปัจจุบันมาช่วยราชการ โดยเข้ามาดูแลเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างในลักษณะผู้ประสานงานระหว่างข้าราชการ กับนักการเมือง
รายงานระบุด้วยว่า "ไอ้เบ้" ได้เข้าไปเปลี่ยนทีมในการจัดซื้อจัดจ้างเดิม ของปภ. จึงทำให้ข้าราชการบางคนไม่พอใจ จึงนำข้อมูลเอกสารไปให้ ส.ส.ปชป. เพี่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ จนเรื่องดังกล่าวถึงแกนนำรัฐบาลโดยเฉพาะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้พูดในการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า ข้าราชการหอบเอกสารไปให้ฝ่ายค้านทุกหน้า
**"ปู" เรียกรมต.เพื่อไทยประชุมรับมือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้(25พ.ย.) ที่บ้านพิษณุโลก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทย อาทิ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที นายฐานิสร์ เทียนทอง รมช.มหาดไทย นายภูมิ สารผล รมช.พาณิชย์ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล รมว.ศึกษาธิการ นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.คลัง นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมช.คลัง และนายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ทั้งนี้ การเรียกประชุมดังกล่าวได้มีการหารือเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือฝ่ายค้านที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.ประชา ในวันอาทิตย์ที่ 27 พ.ย.นี้ ซึ่งการอภิปราย อาจมีการพาดพิงไปถึงตัวนายกรัฐมนตรี ในเรื่องศักยภาพของความป็นผู้นำ และในการบริหารประเทศ และที่สำคัญ ฝ่ายค้ายอาจโยงไปถึงเรื่องการออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ที่ถูกวิพากวิจารณ์หนักว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อาจได้ประโยชน์ด้วย ดังนั้น จะต้องมีการวางแผนรับมือ เพื่อไม่ให้ฝ่ายค้านอภิปรายพาดพิงไปถึงนายกรัฐมนตรี และพ.ต.ท.ทักษิณ โดยให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงในการอภิปรายครั้งนี้
แหล่งข่าวในที่ประชุมเปิดเผยว่า นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ได้กำชับในที่ประชุมว่า หากฝ่ายค้านมีการพูดพาดพิงนายกฯ ก็ขอให้รัฐมนตรีช่วยกันตอบ ต้องช่วยกันสกัดกั้นไม่ให้ถึงนายกฯ ขอให้หยุดอยู่ที่ ศปภ. และจะมีทีมของวิปรัฐบาลคอยสกัดไม่ให้ถึงนายกฯ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีข้อสรุปว่า อภิปรายครั้งนี้ รัฐมนตรีจะไม่ยกมือโหวต เพื่อเป็นการป้องกันการขัดต่อรัฐธรรมนูญ ขณะที่นายฐานิสร์ เทียนทอง รมช.มหาดไทย ก็ยืนยันในที่ประชุมว่า ไม่หนักใจ พร้อมชี้แจงหากถูกพาดพิง ในฐานะที่ดูแลกรมป้องกันและบรรเทาสาธาณะภัย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ของฝ่ายค้านที่จะมีขึ้นในวันที่ 27 พ.ย.นี้ ว่า มีการวางตัว ส.ส.ที่จะอภิปราย 10 กว่าคน และจัดวางประเด็นไว้แล้ว ทั้งในส่วนการบริหารจัดการน้ำ ปัญหาความล้มเหลว การทุจริต ทำผิดกฏหมาย มีความไม่โปร่งใสในเรื่องสิ่งของบริจาค และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงยุติธรรม
ทั้งนี้บางเรื่องอาจจำเป็นต้องพูดซ้ำ จากที่เคยได้อภิปรายไปในช่วงการพิจารณาญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปเรื่องปัญหาน้ำท่วม ของรัฐสภา เพื่อให้ประชาชนเข้าใจสภาพเหตุการณ์ รับทราบข้อเท็จจริงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องธรรมชาติอย่างเดียว แต่เป็นผลพวงจากการบริหารจัดการ ที่ล้มเหลว โดยมีปัจจัยทางการเมืองเข้ามาแทรกแซง จนทำให้เกิดปัญหามากกว่าที่ควรจะเป็น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่าการอภิปรายครั้งนี้ ต้องการให้รัฐบาลได้รับทราบข้อบกพร่อง แล้วนำไปแก้ไขไม่ให้ปัญหาซ้ำรอยอีก และนายกฯ ต้องพิจารณาว่า จากการดำเนินการมาทั้งหมด ตัวรัฐมนตรียังมีความเหมาะสมที่จะทำหน้าที่ต่อไป หรือไม่
ส่วนที่พรรคเพื่อไทย กล่าวหาว่า พรรคประชาธิปัตย์ อภิปราย พล.ต.อ.ประชา เพื่อกระทบชิ่งไปถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีนั้น พรรคเพื่อไทย ก็คิดแต่เรื่องแบบนี้ อยากให้นำสาระมาดูมากกว่า
" พรรคเพื่อไทยกล้ายืนยันหรือไม่ว่าที่บริหารจัดการน้ำท่วมทำมาดีแล้ว ยืนยันหรือไม่ว่า ข้าวของที่บริจาคมาไม่มีนักการเมืองเข้าไปยุ่งเกี่ยว ยืนยันหรือไม่ว่าหลายสิ่งที่เกิดความไม่โปร่งใส มีประเด็นทำให้เกิดความแตกแยก พรรคเพื่อไทยไม่สามารถทำอะไรได้ดีกว่านี้แล้ว ถ้ายืนยัน ผมก็ไม่ว่า แต่ข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น และคนส่วนใหญ่ ก็ไม่ได้คิดเช่นนั้น" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
** จัดหนัก"ประชา" 3 ข้อหาใหญ่
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.ประชา ซึ่งจะเป็นผู้อภิปรายเปิดหัวเป็นคนแรก กล่าวว่า เนื้อหาข้อมูลการอภิปราย มี 3 เรื่อง คือ 1. การทุจริต 2. ผิดกฎหมาย และ 3. การบริหารงานที่ไร้ประสิทธิภาพ
ฉะนั้นในฐานะที่ พ.ต.อ.ประชา ดำรงตำแหน่ง ผอ.ศปภ.และรมว.ยุติธรรม ต้องรับผิดชอบ ซึ่งเนื้อหาทั้งหมดจะถูกแบ่งออกจากกัน คือในฐานะที่เป็น ผอ.ศปภ.ซึ่งเป็นผู้จัดการเรื่องน้ำท่วม โดยจะเริ่มตั้งแต่ พ.ต.อ.ประชา รับตำแหน่ง ผอ.ศปภ. เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นการบริหารงานที่ผิดพลาดในเรื่องบริหารจัดการเรื่องน้ำท่วม การจัดการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน จนกระทั้งเกิดความเสียหาย โดยเนื้อหาจะชี้ให้เห็นว่าบริหารงานไร้ประสิทธิภาพ และมีหลักฐานอะไร หรือว่าปัจจัยอะไรเป็นตัวชี้วัด
"เราจะต้องทำให้ประชาชนเห็นว่า น้ำท่วมครั้งนี้ แม้ว่าจะเกิดจากฝนตก และพายุที่เป็นภัยธรรมชาติก็จริง เมื่อปริมาณน้ำลดลงแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการทั้งสิ้น ซึ่งในการบริหารจัดการนั้น มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นจริง แล้วข้อผิดพลาดนั้นอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของพ.ต.อ.ประชา และ ศปภ. ควรจะรับผิดชอบในเรื่องนี้"
ส่วนประเด็น พ.ร.ฏ.อภัยโทษ นายสาทิตย์ กล่าวว่า จะมีผู้อภิปรายและมีพยานหลักฐานต่างๆ ที่ชี้ให้เห็นว่าอะไรที่ทำผิดกฏหมายตรงไหนซึ่งจะมีเรื่องอื่นประกอบด้วยไม่ใช่เรื่องพ.ร.ฏ.อภัยโทษอย่างเดียว ก็คงต้องรอฟังคำชี้แจงจากฝ่ายรัฐบาล เพราะการบริหารราชการแผ่นดิน จะดูกันที่พฤติกรรมการบริหาร และเจตนาเป็นหลัก ซึ่ง 2 ใน 3 ของการอภิปราย น่าจะอยู่ในเรื่องของการบริหารน้ำท่วม และเรื่องการทุจริต ผิดกฎหมาย และอีก 1 ใน 3 จะเป็นเรื่องในกระทรวงยุติธรรม
" การอภิปรายครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ประธานสภาจัดให้อภิปรายในวันอาทิตย์ แล้วลงมติในวันจันทร์ ซึ่งก็เป็นผลดีต่อฝ่ายค้าน เพราะประชาชนจะพักผ่อนอยู่บ้าน บางคนไปไหนไมได้ เพราะน้ำท่วม ก็จะมีโอกาสได้ฟังการอภิปรายเต็มที่ ทั้งวัน แม้ที่สุดแล้วจะพ่ายแพ้ต่อเสียงโหวตในสภา แต่เรายังหวังว่าจะสามารถเปิดหูเปิดตาประชาชนได้ และเชื่อว่า จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลชุดนี้ ไม่มากก็น้อย" นายสาทิตย์ กล่าว
**ส.ส.เพื่อไทยขอ 19 ล้านทำข้าวกล่อง
รายงานข่าวแจ้งว่า ข้อมูลเด็ดที่พรรคประชาธิปัตย์จะใช้ซักฟอกในครั้งนี้ เช่น กรณีที่กมธ.ติดตามงบประมาณพบว่า กรมบัญชีกลางได้รับข้อมูลว่า กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ของบกลางอีก1,600 ล้านบาท เพื่อมาดูแลประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม แต่ยังไม่อนุมัติ
ขณะที่มีตัวเลขจาก กมธ.ติดตามงบฯ เผยพบข้อมูล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ได้เบิกงบจาก พม. 19 ล้านบาท ทำข้าวกล่องแจกประชาชน 4 วัน จำนวน 225,000 กล่อง หรือกรณีเบิก 4.9 ล้านบาท แจกข้าวกล่อง 10วันจำนวน 1.6 แสนกล่อง เป็นต้น
**ขรก.ส่งข้อมูลฝ่ายค้านเชือดถุงยังชีพ
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้น นายฐานิสร์ เทียนทอง รมช.มหาดไทย จากพรรคเพี่อไทย ในฐานะกำกับดูแลกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้เรียก นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดี ปภ. มาพบเป็นการด่วน เพื่อขอคำชี้แจงกระบวนการขั้นตอนการจัดซื้อถุงยังชีพของ ปภ. ที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่ามีความผิดปกติ ซึ่งนายวิบูลย์ ก็ได้ชี้แจงด้วยวาจา ถึงลำดับขั้นตอนการซื้อทั้งหมด
ทั้งนี้ มีการระบุว่า งบประมาณที่ใช้จัดซื้อ ส่วนใหญ่เป็นงบของกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย ซึ่งเป็นเงินที่ประชาชนบริจาคให้ ศปภ. ไม่ได้เป็นการจัดซื้อโดยงบของปภ. และยืนยันว่า ทั้งหมดเป็นไปตามกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ไม่มีการทุจริต
ส่วนที่เป็นปัญหาเรื่องการจัดซื้อถุงยังชีพ 800 บาท ที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายนั้น เป็นการจัดซื้อสิ่งของในถุงยังชีพ มีมูลค่าไม่ถึง 800 บาท และกระบวนการจัดซื้อเสนอราคา และจัดทำภายในวันเดียว ซึ่งนายฐานิสร์ กล่าวว่า ประเด็นนี้ อธิบดีกรมป้องกันฯ ชี้แจงว่า เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน แต่โดยหลักถ้าเป็นการจัดซื้อถุงยังชีพปกติของ ปภ. จะซื้อในราคา 500 บาท เพียงราคาเดียว เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา
" กรณีถุงยังชีพราคา 800 บาท เป็นเรื่องเร่งด่วน และใช้เงินบริจาค อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ นายวิบูลย์ นำเอกสารชี้แจง ของการจัดซื้อถุงยังชีพมาให้เป็นการเร่งด่วน โดยเฉพาะในช่วงตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจ วันอาทิตย์ที่ 27 พ.ย.นี้ "
ทั้งนี้ มีรายงานจาก ศปภ. แจ้งว่า ขณะนี้รัฐมนตรีหลายคนใน ศปภ. มีความหนักใจ เนื่องจากการตรวจสอบจากข้าราชการในหลายหน่วยงาน เช่น ปภ. พบว่า มีเอกสารหลุดไปถึงพรรคประชาธิปัตย์จำนวนมาก ซึ่งฝ่ายค้านจะอภิปรายให้เห็นถึงการจัดซื้อถุงยังชีพ ที่มีความผิดปกติ โดยฝ่ายการเมืองได้ตรวจสอบข้อมูล ที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายถึงคนที่อยู่เบื้องหลังการจัดซื้อถุงยังชีพคือ “ไอ้เบ้” ที่ นายวิลาศ จันทรพิทักษ์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์จะนำมาอภิปราย
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า “ไอ้เบ้” เป็นข้าราชการระดับป้องกันภัยจังหวัดแห่งหนึ่ง ในภาคตะวันออก ที่มีความใกล้ชิดกับนักการเมืองหลายคน และปัจจุบันมาช่วยราชการ โดยเข้ามาดูแลเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างในลักษณะผู้ประสานงานระหว่างข้าราชการ กับนักการเมือง
รายงานระบุด้วยว่า "ไอ้เบ้" ได้เข้าไปเปลี่ยนทีมในการจัดซื้อจัดจ้างเดิม ของปภ. จึงทำให้ข้าราชการบางคนไม่พอใจ จึงนำข้อมูลเอกสารไปให้ ส.ส.ปชป. เพี่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ จนเรื่องดังกล่าวถึงแกนนำรัฐบาลโดยเฉพาะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้พูดในการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า ข้าราชการหอบเอกสารไปให้ฝ่ายค้านทุกหน้า
**"ปู" เรียกรมต.เพื่อไทยประชุมรับมือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้(25พ.ย.) ที่บ้านพิษณุโลก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทย อาทิ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที นายฐานิสร์ เทียนทอง รมช.มหาดไทย นายภูมิ สารผล รมช.พาณิชย์ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล รมว.ศึกษาธิการ นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.คลัง นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมช.คลัง และนายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ทั้งนี้ การเรียกประชุมดังกล่าวได้มีการหารือเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือฝ่ายค้านที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.ประชา ในวันอาทิตย์ที่ 27 พ.ย.นี้ ซึ่งการอภิปราย อาจมีการพาดพิงไปถึงตัวนายกรัฐมนตรี ในเรื่องศักยภาพของความป็นผู้นำ และในการบริหารประเทศ และที่สำคัญ ฝ่ายค้ายอาจโยงไปถึงเรื่องการออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ที่ถูกวิพากวิจารณ์หนักว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อาจได้ประโยชน์ด้วย ดังนั้น จะต้องมีการวางแผนรับมือ เพื่อไม่ให้ฝ่ายค้านอภิปรายพาดพิงไปถึงนายกรัฐมนตรี และพ.ต.ท.ทักษิณ โดยให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงในการอภิปรายครั้งนี้
แหล่งข่าวในที่ประชุมเปิดเผยว่า นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ได้กำชับในที่ประชุมว่า หากฝ่ายค้านมีการพูดพาดพิงนายกฯ ก็ขอให้รัฐมนตรีช่วยกันตอบ ต้องช่วยกันสกัดกั้นไม่ให้ถึงนายกฯ ขอให้หยุดอยู่ที่ ศปภ. และจะมีทีมของวิปรัฐบาลคอยสกัดไม่ให้ถึงนายกฯ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีข้อสรุปว่า อภิปรายครั้งนี้ รัฐมนตรีจะไม่ยกมือโหวต เพื่อเป็นการป้องกันการขัดต่อรัฐธรรมนูญ ขณะที่นายฐานิสร์ เทียนทอง รมช.มหาดไทย ก็ยืนยันในที่ประชุมว่า ไม่หนักใจ พร้อมชี้แจงหากถูกพาดพิง ในฐานะที่ดูแลกรมป้องกันและบรรเทาสาธาณะภัย
