ASTVผู้จัดการรายวัน - แบงก์กรุงเทพมั่นใจสินเชื่อแบงก์ปีนี้ยังโตได้เกินเป้าที่ตั้งไว้ 6-8% แม้ประเมินไตรมาส 4 จีดีพีจะติดลบ 4% ทั้งปีโตแค่ 1.3% ระบุยังมีแรงส่งที่ดีจาก 3 ไตรมาสแรก ขณะที่เอ็นพีแอลน่าจะเร่งตัวขึ้น 0.5%
นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)(BBL)กล่าวว่า า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย(จีดีพี)ในไตรมาส 4 ปี 54 จะติดลบ 4% จากปัญหาน้ำท่วมใหญ่ ทำให้หลายอุตสาหกรรมรับผลกระทบ อาทิ ภาคการผลิต การค้า การท่องเที่ยว และอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้จีดีพีทั้งปี 54 ขยายตัวเหลือเพียง 1.3% จากเดิมที่คาดว่าจะโต 4-5%
ขณะที่สินเชื่อในปี 54 ของธนาคารมีโอกาสเติบโตได้เกินเป้าหมายที่วางไว้ในระดับ 6-8% หลังจากในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างโดดเด่น แม้ว่าแนวโน้มสินเชื่อในไตรมาส 4 อาจเติบโตลดลงจากช่วงที่ผ่านมา จากผลกระทบจากเหตการณ์น้ำท่วม แต่มองว่ายังมีแรงส่งจาก 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ที่ยังมีวงเงินที่ขอสินเชื่อมาแต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อ
นายโฆสิตกล่าวอีกว่า ขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างการพิจารณาแผนธุรกิจในปีหน้า โดยในส่วนสินเชื่อปกติของธนาคารจะเติบโตกว่าจีดีพีประเทศ ประมาณ 2-3% ซึ่งในปีหน้า ธนาคารประเมินว่า จีดีพีจะโต 4-5% ซึ่งเศรษฐกิจจะเติบโตได้มากหรือน้อยในปีหน้าก็จะขึ้นอยู่กับวิวัฒนาการการค้าโลก และคาดว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ จะพิจรารณาให้จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อเป็นการพยุงเศรษฐกิจ
ด้านนายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า จากปัญหาน้ำท่วมใหญ่ในปีนี้จะส่งผลให้ยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ของธนาคารเร่งตัวขึ้น 0.5% ซึ่งคาดว่าจะเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ต้นปีหน้าไป ขณะที่ยอด NPL ณ สิ้นเดือนต.ค.54 อยู่ที่ 2.96% หรือคิดเป็น 45,800 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนธ.ค.53 ที่ยอด NPL อยู่ที่ 2.98% โดยขณะนี้ธนาคารมีสินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ เพิ่มขึ้น 10,000 ล้านบาท และคาดว่าเดือนพ.ย.-ธ.ค.54 นี้ จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้อีกจากลูกค้าในทุกกลุ่ม
อย่างไรก็ตาม ธนาคารไม่มีความจำเป็นต้องกันสำรองเพิ่มในไตรมาส 4 ปี 54 เนื่องจากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ธนาคารได้กันสำรองหนี้เท่ากับ 180% ของยอดคงค้างสินเชื่อทั้งหมดแล้ว โดยแต่ละปีธนาคารได้กันสำรองเฉลี่ยอยู่ที่ 6-7 พันล้านบาท และในปี 54 ได้มีการกันสำรองไปแล้ว 5.5 พันล้านบาท ขณะที่ปี 55 จะมีการกันสำรองในระดับปกติที่ 6-7 พันล้านบาท
"ธนาคารมีลูกค้ารายใหญ่จาก 7 นิคมอุตสาหกรรมที่ถูกน้ำท่วมรวมแล้ว 110 โรงงาน ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม 546 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 2 แสนล้านบาท แต่ธนาคารได้เข้าไปติดต่อลูกค้าแล้ว 233 ราย มูลหนี้ 1.1 แสนล้านบาทที่ขอความช่วยเหลือเข้ามา โดยคาดว่าจะสามารถฟื้นกิจการได้ในเร็วๆนี้"
นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)(BBL)กล่าวว่า า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย(จีดีพี)ในไตรมาส 4 ปี 54 จะติดลบ 4% จากปัญหาน้ำท่วมใหญ่ ทำให้หลายอุตสาหกรรมรับผลกระทบ อาทิ ภาคการผลิต การค้า การท่องเที่ยว และอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้จีดีพีทั้งปี 54 ขยายตัวเหลือเพียง 1.3% จากเดิมที่คาดว่าจะโต 4-5%
ขณะที่สินเชื่อในปี 54 ของธนาคารมีโอกาสเติบโตได้เกินเป้าหมายที่วางไว้ในระดับ 6-8% หลังจากในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างโดดเด่น แม้ว่าแนวโน้มสินเชื่อในไตรมาส 4 อาจเติบโตลดลงจากช่วงที่ผ่านมา จากผลกระทบจากเหตการณ์น้ำท่วม แต่มองว่ายังมีแรงส่งจาก 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ที่ยังมีวงเงินที่ขอสินเชื่อมาแต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อ
นายโฆสิตกล่าวอีกว่า ขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างการพิจารณาแผนธุรกิจในปีหน้า โดยในส่วนสินเชื่อปกติของธนาคารจะเติบโตกว่าจีดีพีประเทศ ประมาณ 2-3% ซึ่งในปีหน้า ธนาคารประเมินว่า จีดีพีจะโต 4-5% ซึ่งเศรษฐกิจจะเติบโตได้มากหรือน้อยในปีหน้าก็จะขึ้นอยู่กับวิวัฒนาการการค้าโลก และคาดว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ จะพิจรารณาให้จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อเป็นการพยุงเศรษฐกิจ
ด้านนายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า จากปัญหาน้ำท่วมใหญ่ในปีนี้จะส่งผลให้ยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ของธนาคารเร่งตัวขึ้น 0.5% ซึ่งคาดว่าจะเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ต้นปีหน้าไป ขณะที่ยอด NPL ณ สิ้นเดือนต.ค.54 อยู่ที่ 2.96% หรือคิดเป็น 45,800 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนธ.ค.53 ที่ยอด NPL อยู่ที่ 2.98% โดยขณะนี้ธนาคารมีสินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ เพิ่มขึ้น 10,000 ล้านบาท และคาดว่าเดือนพ.ย.-ธ.ค.54 นี้ จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้อีกจากลูกค้าในทุกกลุ่ม
อย่างไรก็ตาม ธนาคารไม่มีความจำเป็นต้องกันสำรองเพิ่มในไตรมาส 4 ปี 54 เนื่องจากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ธนาคารได้กันสำรองหนี้เท่ากับ 180% ของยอดคงค้างสินเชื่อทั้งหมดแล้ว โดยแต่ละปีธนาคารได้กันสำรองเฉลี่ยอยู่ที่ 6-7 พันล้านบาท และในปี 54 ได้มีการกันสำรองไปแล้ว 5.5 พันล้านบาท ขณะที่ปี 55 จะมีการกันสำรองในระดับปกติที่ 6-7 พันล้านบาท
"ธนาคารมีลูกค้ารายใหญ่จาก 7 นิคมอุตสาหกรรมที่ถูกน้ำท่วมรวมแล้ว 110 โรงงาน ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม 546 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 2 แสนล้านบาท แต่ธนาคารได้เข้าไปติดต่อลูกค้าแล้ว 233 ราย มูลหนี้ 1.1 แสนล้านบาทที่ขอความช่วยเหลือเข้ามา โดยคาดว่าจะสามารถฟื้นกิจการได้ในเร็วๆนี้"