ASTVผู้จัดการรายวัน - “พาณิชย์” ส่งเทียบเชิญ 169 สมาคม ร่วมถกแผนฟื้นฟูธุรกิจหลังน้ำท่วมอังคารนี้ ดึงแบงก์แจงหลักเกณฑ์การให้สินเชื่อ พร้อมกางแผนกอบกู้ส่งออก และแผนช่วยธุรกิจ SMEs ในประเทศ
นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 22 พ.ย.2554 กระทรวงพาณิชย์ได้เชิญผู้ประกอบธุรกิจ ผู้ส่งออก และตัวแทนสมาคมการค้าต่างๆ รวม 169 สมาคม มาเข้าร่วมประชุมหารือผลกระทบที่ได้รับจากอุทกภัยและแนวทางความช่วยเหลือที่ต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนซึ่งแนวทางการหารือจะเป็นการชี้แจงถึงมาตรการความช่วยเหลือของภาครัฐที่จะนำมาช่วยเหลือมีอะไรบ้าง แผนงานที่กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการมีอะไร เพื่อร่วมกันจัดทำเป็นแผนกอบกู้ทั้งภาคการผลิต ภาคการส่งออก และภาคธุรกิจในประเทศ
ทั้งนี้ ในด้านความช่วยเหลือด้านการเงิน จะเป็นการชี้แจงรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ได้อนุมัติให้มีวงเงินสินเชื่อในการฟื้นฟูกิจการให้กับภาคธุรกิจ โดยจะเชิญธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SMEs Bank) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) และสมาคมธนาคารไทย มาให้ข้อมูลรายละเอียดการปล่อยสินเชื่อของแต่ละธนาคาร
“คนที่มาร่วมประชุมครั้งนี้ จะทราบว่าแต่ละแบงก์มีวงเงินสินเชื่อเท่าไร เงื่อนไขแบบไหน แล้วถ้าต้องการสินเชื่อไปฟื้นฟูกิจการ จะยื่นขอได้อย่างไร มีหลักเกณฑ์เงื่อนไขอะไรบ้าง ซึ่งจะทำให้เข้าถึงมาตรการความช่วยเหลือของภาครัฐได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และสามารถนำไปฟื้นฟูกิจการภายหลังน้ำลดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น”นายศิริวัฒน์กล่าว
นอกจากนี้ จะมีผู้แทนจากกระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มาร่วมให้ข้อมูลมาตรการส่งเสริมการลงทุน สิทธิประโยชน์ในการลงทุน และมาตรการความช่วยเหลือด้านศุลกากร ให้กับผู้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย
ในด้านการส่งออก จะใช้โอกาสนี้ชี้แจงถึงแผนงานและกิจกรรมสนับสนุนการส่งออกที่กรมส่งเสริมการส่งออกจะดำเนินการนับจากนี้ไปว่าจะมุ่งไปในทิศทางใด ซึ่งสิ่งที่จะดำเนินการในทันที ก็คือ การฟื้นฟูและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้าต่างๆ ของไทย ด้วยการจัดคณะผู้แทนการค้าไทยเดินทางไปโรดโชว์ในประเทศต่างๆ
การชี้แจงกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกที่จะดำเนินการมีอะไรบ้าง และผู้ส่งออกที่ประสงค์จะเข้าร่วมจะได้รับการสนับสนุนอะไรบ้าง เป็นต้น
พร้อมกันนี้ จะได้ชี้แจงถึงสิ่งที่ได้ดำเนินการมาแล้ว เช่น การมอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ไปชี้แจงและทำความเข้าใจกับประเทศคู่ค้าถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าภาคการส่งออกจะฟื้นตัวกลับมาได้โดยเร็ว เพราะรัฐบาลจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ดังนั้น จึงไม่ควรกังวลที่จะทำการค้ากับไทย
ส่วนการช่วยเหลือธุรกิจภายในประเทศ ซึ่งเป็นธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จัดงาน “มหกรรมเยียวยาผู้ประกอบธุรกิจที่ประสบอุทกภัย” กำหนดไว้วันที่ 1-2 ธ.ค.2554 ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมเปิดโอกาสให้ธุรกิจ SMEs ในประเทศ ได้มีช่องทางในการจำหน่ายสินค้าและบริการ โดยเฉพาะธุรกิจที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้การสนับสนุน เช่น ธุรกิจแฟรนไชส์บริการอู่ซ่อมรถ และซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ได้มีช่องทางเพิ่มรายได้ ขณะเดียวกัน ยังเป็นการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย ได้มีช่องทางในการฟื้นฟู ซ่อมแซมรถและที่อยู่อาศัยในราคาประหยัด หรือหากประสงค์จะทำธุรกิจ ก็มีธุรกิจแฟรนไชส์ให้เลือก และจะได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษ.
นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 22 พ.ย.2554 กระทรวงพาณิชย์ได้เชิญผู้ประกอบธุรกิจ ผู้ส่งออก และตัวแทนสมาคมการค้าต่างๆ รวม 169 สมาคม มาเข้าร่วมประชุมหารือผลกระทบที่ได้รับจากอุทกภัยและแนวทางความช่วยเหลือที่ต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนซึ่งแนวทางการหารือจะเป็นการชี้แจงถึงมาตรการความช่วยเหลือของภาครัฐที่จะนำมาช่วยเหลือมีอะไรบ้าง แผนงานที่กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการมีอะไร เพื่อร่วมกันจัดทำเป็นแผนกอบกู้ทั้งภาคการผลิต ภาคการส่งออก และภาคธุรกิจในประเทศ
ทั้งนี้ ในด้านความช่วยเหลือด้านการเงิน จะเป็นการชี้แจงรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ได้อนุมัติให้มีวงเงินสินเชื่อในการฟื้นฟูกิจการให้กับภาคธุรกิจ โดยจะเชิญธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SMEs Bank) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) และสมาคมธนาคารไทย มาให้ข้อมูลรายละเอียดการปล่อยสินเชื่อของแต่ละธนาคาร
“คนที่มาร่วมประชุมครั้งนี้ จะทราบว่าแต่ละแบงก์มีวงเงินสินเชื่อเท่าไร เงื่อนไขแบบไหน แล้วถ้าต้องการสินเชื่อไปฟื้นฟูกิจการ จะยื่นขอได้อย่างไร มีหลักเกณฑ์เงื่อนไขอะไรบ้าง ซึ่งจะทำให้เข้าถึงมาตรการความช่วยเหลือของภาครัฐได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และสามารถนำไปฟื้นฟูกิจการภายหลังน้ำลดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น”นายศิริวัฒน์กล่าว
นอกจากนี้ จะมีผู้แทนจากกระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มาร่วมให้ข้อมูลมาตรการส่งเสริมการลงทุน สิทธิประโยชน์ในการลงทุน และมาตรการความช่วยเหลือด้านศุลกากร ให้กับผู้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย
ในด้านการส่งออก จะใช้โอกาสนี้ชี้แจงถึงแผนงานและกิจกรรมสนับสนุนการส่งออกที่กรมส่งเสริมการส่งออกจะดำเนินการนับจากนี้ไปว่าจะมุ่งไปในทิศทางใด ซึ่งสิ่งที่จะดำเนินการในทันที ก็คือ การฟื้นฟูและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้าต่างๆ ของไทย ด้วยการจัดคณะผู้แทนการค้าไทยเดินทางไปโรดโชว์ในประเทศต่างๆ
การชี้แจงกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกที่จะดำเนินการมีอะไรบ้าง และผู้ส่งออกที่ประสงค์จะเข้าร่วมจะได้รับการสนับสนุนอะไรบ้าง เป็นต้น
พร้อมกันนี้ จะได้ชี้แจงถึงสิ่งที่ได้ดำเนินการมาแล้ว เช่น การมอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ไปชี้แจงและทำความเข้าใจกับประเทศคู่ค้าถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าภาคการส่งออกจะฟื้นตัวกลับมาได้โดยเร็ว เพราะรัฐบาลจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ดังนั้น จึงไม่ควรกังวลที่จะทำการค้ากับไทย
ส่วนการช่วยเหลือธุรกิจภายในประเทศ ซึ่งเป็นธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จัดงาน “มหกรรมเยียวยาผู้ประกอบธุรกิจที่ประสบอุทกภัย” กำหนดไว้วันที่ 1-2 ธ.ค.2554 ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมเปิดโอกาสให้ธุรกิจ SMEs ในประเทศ ได้มีช่องทางในการจำหน่ายสินค้าและบริการ โดยเฉพาะธุรกิจที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้การสนับสนุน เช่น ธุรกิจแฟรนไชส์บริการอู่ซ่อมรถ และซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ได้มีช่องทางเพิ่มรายได้ ขณะเดียวกัน ยังเป็นการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย ได้มีช่องทางในการฟื้นฟู ซ่อมแซมรถและที่อยู่อาศัยในราคาประหยัด หรือหากประสงค์จะทำธุรกิจ ก็มีธุรกิจแฟรนไชส์ให้เลือก และจะได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษ.
