รมช.พาณิชย์ เผยภาคเอกชนร้องรัฐเยียวยาผลกระทบ เพิ่มวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ การลดหย่อนภาษีนำเข้าเครื่องจักร พร้อมผ่อนคลายเงื่อนไขกู้เงิน เตรียมเร่งสร้างความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้นำเข้าในต่างประเทศแสวงหาแหล่งวัตถุดิบและเครื่องจักรในการผลิต และแสวงหาช่องทางในการรักษาตลาดหลัก และเจาะตลาดใหม่
นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับผู้ส่งออก ผู้ประกอบการค้าในประเทศ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางในการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมว่า ภาคเอกชนได้ชี้แจงถึงสิ่งที่ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ โดยเฉพาะด้านเงินทุนในการทำธุรกิจ ที่ต้องการให้มีการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้มากขึ้น เพื่อใช้ฟื้นฟูกิจการ และต้องผ่อนคลายเงื่อนไขเพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น รวมถึงความช่วยเหลือในการลดหย่อนภาษีด้านต่างๆ เช่น การนำเข้าเครื่องจักรเพื่อใช้ในการผลิต เป็นต้น ซึ่งกระทรวงพาณิชย์รับจะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ดำเนินการต่อไป
สำหรับความช่วยเหลือที่กระทรวงพาณิชย์สามารถดำเนินการทันทีภายหลังน้ำลด ได้แก่ การเร่งสร้างความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้นำเข้าในต่างประเทศ , แสวงหาแหล่งวัตถุดิบ/เครื่องจักรในการผลิต แสวงหาช่องทางในการรักษาตลาดหลัก และเจาะตลาดใหม่ โดยกำหนดเป้าหมายตลาด ได้แก่ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป สหรัฐฯ อาเซียน จีน อินเดีย แอฟริกา ตะวันออกกลาง เป็นต้น กระชับความสัมพันธ์เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประเทศคู่ค้าว่า ผู้ส่งออกไทยยังคงรักษามาตรฐาน และความสามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูง และส่งมอบได้ทันตามกำหนดเวลา รวมถึงสนับสนุนผู้ส่งออกในการกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ และสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ในกรอบต่างๆ
ส่วนการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประกอบการค้าในประเทศนั้น ขณะนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ร่วมกับสมาคมการค้าต่างๆ สำรวจผลกระทบที่มีต่อสมาชิก เพื่อพิจารณาหามาตรการที่เหมาะสมต่อไป แต่ระหว่างนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ออกมาตรการเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแล้ว ได้แก่ การสร้างอาชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัย เช่น ธุรกิจแฟรนไชส์ , มาตรการลดต้นทุนค้าปลีกเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยใน 27 จังหวัด , ช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการ, จัดงานมหกรรมการฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย วันที่ 1-2 ธันวาคม 2554 นี้
