xs
xsm
sm
md
lg

ซัดพ.ร.ฎ.อภัยโทษทำลายนิติรัฐ พธม.นัดชุมนุม วันที่21พ.ย.หน้ากฤษฎีกา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - พธม.นัดชุมนุมค้าน พ.ร.ฎ.อภัยโทษวันจันทร์ที่ 21 พ.ย.นี้ หน้าสำนักงานกฤษฎีกา ถ.พระอาทิตย์ "ปานเทพ" ยันคัดค้านพวกทำลายระบบนิติรัฐ กมธ.พิทักษ์สถาบันเชิญนายกฯ ให้ข้อมูล 25 พ.ย. “มาร์ค-ปชป.” จี้รีบแจงสังคม เชื่อทักษิณพร้อมรุกรบแตกหัก ส่วน “แม้ว” ปัดสื่อนอกบอกไม่รู้เรื่อง “ปู” อึกอักบอกยังไม่สรุป “ไอ้เต้น” ทำนายมีเหตุรุนแรงทำคนเจ็บตายอีก

วานนี้ (18 พ.ย.54) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว โดยระบุว่า “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะมีการยื่นหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และ “จัดชุมนุม” เพื่อ “คัดค้านร่างกฎหมายเพื่อทักษิณ หยุดทำลายหลักนิติรัฐ” วันจันทร์ที่ 21 พ.ย.54 หน้าสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ถนนพระอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น.-18.00 น. และวันเสาร์ที่ 19 พ.ย.54 เวลา 11.00 น.จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการพร้อมชี้แจงรายละเอียดที่บ้านพระอาทิตย์"

“ขอทำความเข้าใจว่ากรณีการจัดการชุมนุมครั้งนี้ไม่ได้เป็นการกดดันต่อพระราชอำนาจ หากแต่คัดค้านในขั้นตอนที่คณะรัฐมนตรีดำเนินการถวายคำแนะนำในสิ่งที่จะทำลายหลักนิติรัฐ ซึ่งเตรียมร่างถึงขั้นให้คนทำผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่พ้นผิดได้โดยแม้ไม่เคยรับโทษและไม่สำนึกในความผิดแม้แต่น้อย ถือเป็นการกระทำที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท และเป็นการกดดันต่อพระราชอำนาจที่ไม่บังควรยิ่ง” นายปานเทพระบุในเฟซบุ๊ค

**ถวายฎีกาค้าน พ.ร.ฎ. อภัยโทษ

ที่หน้าพระบรมมหาราชวัง นายวัฒโนทัย ไทยถาวร ตัวแทนภาคประชาชนสายการแพทย์และสาธารณสุขแห่งประเทศไทย กลุ่มองค์กรต่างๆ รวมตัวกันทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาเพื่อขอให้ไม่ทรงลงพระปรมาภิไธย พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ซึ่งผ่านที่ประชุมครม. ( 15 พ.ย.) และถูกวิจารณ์ว่าจะเป็นการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

เวลา 10.30 น. น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน พร้อมเครือข่ายอาสาสมัคร จำนวน 30 คน ได้เดินทางไปวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของสำนักราชเลขาธิการสำนักพระราชวัง เพื่อยื่นหนังสือผ่านนายฐากร ธรรมประทีป ผู้อำนวยการกองนิติการ ซึ่งได้รับการประสานงานจากทำเนียบองคมนตรีให้เป็นตัวแทนรับ

สำหรับใจความของหนังสือดังกล่าว ระบุว่า การที่รัฐบาลมีมติแก้ไขพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ พ.ศ.2553 โดยดำเนินการประชุมพิจารณาเรื่องดังกล่าวเป็นการลับ แล้วทำการแก้ไขคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ พวกตนจึงขอคัดค้าน และขอความกรุณาเพื่อส่งกลับไปให้รัฐบาลทบทวน เนื่องจากเห็นว่า พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ ปี 2553 นั้นดีอยู่แล้ว อีกทั้งร่าง ที่เสนอปัจจุบันนั้น มีวาระซ่อนเร้นเพื่อเอืิ้อประโยชน์ให้คนใดคนหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ อีกทั้ง ผู้ที่จะได้รับการอภัยจะต้องเป็นผู้ได้รับโทษ แล้วสำนึกต่อความผิดที่ได้กระทำ จึงสมควรให้อภัยดังหลักเกณฑ์เดิมที่เคยใช้มาก่อน หากไม่เป็นเช่นนั้นแล้วจะเป็นการทำลายระบบนิติรัฐของบ้านเมือง ประกอบกับเป็นการฉวยโอกาสเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่พวกพ้องในขณะที่ประชาชนประสบภัย

ทั้งนี้ ได้ทำหนังสือถึงประธานองคมนตรี และองคมนตรีคนละ 1 ฉบับ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ ขอให้ระงับยับยั้งในเรื่องนี้

**กมธ.พิทักษ์สถาบันฯสว.เชิญปูแจง

ที่รัฐสภา พญ.พรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาติดตามการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการเกี่ยวกับการพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา ร่วมกับ กมธ.อาทิ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา และ น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี เป็นต้น ร่วมการแถลงข่าวผลการประชุม กมธ.ที่ได้มีการหารือถึงท่าทีต่อกระแสข่าวการเตรียมตราพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.... ซึ่งอาจเอื้อประโยชน์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้ต้องหาหลบหรีคดีอาญา

พญ.พรพันธุ์ กล่าวว่า จากข่าวที่ปรากฎได้ระบุถึงการกำหนดหลักเกณฑ์ผ็ที่เข้าข้ายได้รับการพระราชทานอภัยโทษ โดยมีการตัดบัญชีลักษณะความผิดเกี่ยวกับคดียาเสพติด และการทุจริต รวมไปถึงการตัดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับระยะเวลาที่ถูกคุมขังออกไปนั้น ที่ประชุม กมธ.มีความเห็นตรงกันว่าเป็นเรื่องที่ไม่ชอบธรรม อีกทั้งการอาศัยวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในวันนี้ 5 ธ.ค.นี้ ยังถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะหากมีการดำเนินการจริงถือว่าเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท เนื่องจากมีการอ้างว่าจะมีผู้ต้องขังอีก 2.6 หมื่นรายได้รับประโยชน์ไปด้วย ซึ่งหากมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นทำให้คนกลุ่มนี้ไม่ได้รับการอภัยโทษ จึงนับว่าเป็นความไม่ชอบธรรมและยังละเมิดอำนาจตุลาการ เพราะเมื่อมีการตัดสินคดีเป็นที่สุดแล้วกลับมาสามารถออกกฎหมายเพื่อไม่ต้องรับโทษต่อไปได้

พญ.พรพันธุ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังขัดกับนโยบายทางการเมืองที่สำคัญของทุกรัฐบาลเกี่ยวกับการป้องกันปราบปรามการทุจริต รวมทั้งรัฐบาลชุดนี้ที่มีนโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งในโอกาศมหามงคลครั้งนี้ไม่ควรมีสิ่งใดมาให้ระคายเบื้องพระยุคลบาท จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนเรื่องนี้และหวังว่าสิ่งทีกำลังสงสัยกันอยู่นี้จะไม่เป็นความจริง รัฐบาลไม่ควรใช้ความลำบากของประชาชนจากปัญหาน้ำท่วมเพื่อมาหลอกลวง

พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สว.สรรหาในฐานะ กมธ. กล่าวว่า รัฐบาลกำลังสร้างวิกฤตซ้อนวิกฤต ซึ่งประชาชนกำลังทุกข์ยากแต่ก็มีการฉกฉวยดำเนินการเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องของตัวเอง ถือว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้องชอบธรรมที่คนรวยแล้วโกงไม่ติดคุก แต่คุกกลายเป็นว่ามีขังสำหรับคนจนและคนโง่เท่านั้น ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการเพราะจะสร้างความขัดแย้งเพิ่มขึ้นให้ประชาชนสองฝ่าย ขอให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่พลิกแพลงสถานการณ์หรือพูดโป้ปดมดเท็จ

ด้าน นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ในฐานะ กมธ. กล่าวเสริมว่า ที่ประชุมได้มีมติเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวต่อ กมธ.ในวันที่ 25 พ.ย.เวลา 9.30 น. ซึ่งหากไม่มาชี้แจง ขั้นตอนต่อไปจะใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คําสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ.2554 ขณะเดียวกันในวันที่ 21 พ.ย.นี้ ยังได้เตรียมรวบรวมรายชื่อ ส.ว.ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของรัฐบาล เพื่อนำไปยื่นหนังสือถึงราชเลขาธิการสำนักพระราชวัง และองคมนตรี เพื่อให้ดำเนินการทุกอย่างเพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทต่อไป

**สยามสามัคคีจัดกิจกรรมสวนลุม

เวลา 17.00น.ที่อาคารลีลาส สวนลุมพินี กลุ่มสยามสามัคคี จัดประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เรื่อง "พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ซ้ำเติมวิกฤติระเทศไทย" ที่อาคารสโมสรพลเมืองอาวุโสแห่งเมืองกรุงเทพ (ลุมพินี ฮอลล์)มี นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีต ส.ว. นายสมชาย แสวงการ, ส.ว.สรรหา และ น.ส.สุมล สุตวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี ฯลฯร่วมกิจรกรรมร่วมกับแนวร่วมจำนวนมาก ก่อนที่เวทีเสวนาจะเริ่ม ทางทีมงานได้จัดแสดงดนตรีโดยนายวสันต์ สิทธิเขต และ นายประทีป ขจัดภัย ให้กับประชาชนที่มาร่วมรับฟัง

นายประสาร กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรตรียมเคลื่อนไหวคัดค้านร่างพระราชกฤษฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.... ว่า ตนยังไม่ทราบว่าทางกลุ่มพันธมิตรฯจะเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง แต่สำหรับกลุ่มสยามสามัคคีนั้น ต้องเดินตามแนวทางที่ได้วางไว้ โดย

**จี้ปูแจงสังคมอย่าเล่นลิ้นแบบเหลิม

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาะปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่คนเสื้อแดงเริ่มมีความเคลื่อนไหวต่อต้านกลุ่มประชาชนที่คัดค้านการออกพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ว่า ปัญหาทั้งหมดรัฐบาลต้องไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้ง การตราพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษทำกันมาในทุกวโรกาสสำคัญ แต่หลักเกณฑ์ไม่มีการพลิกแพลงในลักษณะนี้ รัฐบาอยู่ในฐานะที่จะทำให้ปัญหาจบได้ นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลพูดแค่คำเดียวว่า เรื่องนี้จะปฏิบัติเหมือนทุกปีทุกอย่างก็จบ คำถามคือทำไมไม่ทำ มีใครนั่งรอประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ตนขอถามว่ามีกี่คนในประเทศไทยที่หลบหนีคดีทุจริตคอรัปชั่นจะได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขตรงนี้ เพราะฉะนั้นวันนี้รัฐบาลต้องเอาความถูกต้อง ต้องยึดระบบกฎหมาย บ้านเมือง สังคม และผลประโยชน์ของส่วนรวมมาก่อน ตนอยากให้นายกรัฐมนตรีแสดงจุดยืนให้ชัดตรงนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเกิดปัญหาวิกฤตการเมืองซ้อนวิกฤตน้ำขึ้นมาอะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราจะเสียโอกาสอย่างรุนแรงเพราะถูกจับตามองจากนานาชาติอยู่แล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาเราเจอวิกฤตหลายครั้ง ต่างชาติก็อยากมีความมั่นใจ การบริหารจัดการวิกฤตน้ำก็ยังมีปัญหาอยู่ รัฐบาลต้องแสดงให้เห็นว่าได้เรียนรู้จากจุดอ่อนในการบริหารจัดการเพื่อเรียกความเชื่อมั่น ถ้ามีวิกฤตการเมืองย้อนกลับมาอีกก็จะยิ่งซ้ำเติมปัญหาของบ้านเมือง ทำให้ปัญหาน้ำท่วมแก้ไขยากมากขึ้นการฟื้นฟูความเชื่อมั่นจะยิ่งยากมากขึ้นตามไปด้วย ทั้งหมดอยู่ที่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลแค่ตัดสินใจง่าย ๆ ทำในสิ่งที่เคยปฏิบัติมาเป็นประเพณีไม่ทำให้ระบบกฎหมายเสียทุกอย่างก็เดินได้

"ผมคิดว่าถ้ารัฐบาลยังเดินหน้าอย่างนี้ คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาเพื่อฟื้นฟูประเทศจะทำหน้าที่อย่างยากลำบาก ไม่มีเหตุผลที่รัฐบาลต้องมาซ้ำเติมปัญหาในขณะนี้ เอาผลประโยชน์ของประชาชนกับส่วนรวมมาก่อนดีกว่า ผมคิดว่าท่านนายกฯกลับมาจากอาเซียนต้องตอบคำถามนี้ให้สังคม พูดอย่างตรงไปตรงมาอย่าเลี่ยงเหมือนร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯที่เลี่ยงตอบคำถามในสภา เอาข้อเท็จจริงมาว่ากันว่า ในอดีตไม่เคยมีการวางหลักเกฑ์พระราชทานอภัยโทษให้คนหนีคดี ทำไมขณะนี้ถึงจะเสนอให้ทำอย่างนั้น เราถือว่าการทุจริตคอรัปชั่นเป็นความผิดที่ร้ายแรง เป็นความผิดที่เกิดจากการทำผิดกฎหมายป้องกันปราบปรามการทุจริต จึงมีการแนบท้ายบัญชีเพื่อให้การพระราชทานอภัยโทษเป็นการลดหย่อนตามพฤติกรรมของนักโทษ ทำไมจะต้องมาเปลี่ยนแปลงในปีนี้ เปลี่ยนแปลงไปเพื่ออะไร เป็นการส่งสัญญาณที่ผิดทั้งในเรื่องของการคอรัปชั่น และการปฏิบติตามกฎหมาย ผมถามว่ามีใครได้ประโยชน์นอกจากคนเพียงคนเดียวที่เรามองเห็นกันอยู่ ผมฝากถึงประชาชนทุกกลุ่มที่กำลังเคลื่อนไหวให้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญและอยู่ในขอบข่ายของกฎหมาย" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

**ปชป.ชี้ทักษิณพร้อมรุกรบแตกหัก

นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า กรณีนี้ได้สะท้อนความเห็นแก่ตัวอย่างเลวร้ายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มุ่งประโยชน์ส่วนตัวอย่างเต็มที่จากอำนาจรัฐที่ได้มา โดยก้าวข้ามประโยชน์ของชาติที่ตกอยู่ในภาวะวิกฤติจากมหาอุทกภัย หลังจากภาวะน้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย ประเทศจะเผชิญกับปัญหาทุพภิกขภัย ปัญหาข้าวยากหมากแพง และภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำจนถึงจุดวิกฤติ ซึ่งเกินกำลังที่รัฐบาลฝ่ายเดียวจะแก้ไขฟื้นฟูประเทศได้ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างเป็นเอกภาพ แต่การผลักดันพ.ร.ฏ.อภัยโทษเพื่อช่วยเหลือตัวเองให้พ้นผิดเป็นการจุดชนวนให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองรอบใหม่ซึ่งเป็นการซ้ำเติมวิกฤติของชาติให้หนักหนาสาหัสมากยิ่งขึ้น

นายอรรถพรยังกล่าวถึงกรณีคนเสื้อแดงเริ่มเคลื่อนไหวต่อต้านผู้ที่คัดค้านการออกพ.ร.ฏ.อภัยโทษว่า เป็นยุทธศาสตร์การต่อสู้ของพ.ต.ท.ทักษิณที่วางไว้อย่างเป็นระบบด้วยการประสานแนวทางระหว่างรัฐบาล-รัฐสภาและมวลชนคนเสื้อแดง หลังจากปล่อยให้แกนนำเช่นนายจตุพร พรหมพันธ์ออกมาสร้างข่าวปลุกระดมคนเสื้อแดงอย่างต่อเนื่องโดยยกประเด็นน้ำท่วมหรือประเด็นการรัฐประหารในเดือนธันวาคม ซึ่งตนเองเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณพร้อมที่จะใช้กำลังคนเสื้อแดงเข้ารุกรบกับฝ่ายต่อต้านอย่างแตกหักซึ่งนั่นหมายถึงวิกฤติครั้งใหญ่ของบ้านเมือง

“สิ่งที่ผมอยากตั้งคำถามหรือพ.ต.ท.ทักษิณคือคำถามที่ว่า ในขณะที่ท่านใช้ชีวิตคนเสื้อแดงเป็นเครื่องมือสู้เพื่อตัวเองมาตลอด แต่ทำไมจึงไม่ดำเนินการใดๆเพื่อช่วยเหลือคนเสื้อแดงที่ต้องคดีและถูกจับกุมคุมขังอยู่เป็นจำนวนมากในขณะนี้ แต่กลับเลือกใช้วิธีการเอาตัวรอดให้ตนเองพ้นผิดเพียงคนเดียว ยึดประโยชน์ตัวเองมากกว่าประโยชน์ของชาติและคนที่พลีชีวิตต่อสู้ร่วมกันมา ผมจึงขอประณามว่า เป็นความเห็นแก่ตัวอย่างเลวร้ายจริงๆ” นายอรรถพรกล่าว

** “แม้ว” แจงสื่อนอกไม่รู้เรื่อง

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ส ที่บ้านพักในดูไบ เกี่ยวกับประเด็นรัฐบาลไทยเตรียมออกพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ขอพระราชทานอภัยโทษจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า เพื่อช่วยเหลือตนเอง โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ไม่ทราบ ไม่คิดอย่างนั้น ไม่มีใครรู้ เพราะมันเป็นความลับในการประชุมคณะรัฐมมนตรี (ครม.) ของรัฐบาล และทั้งหมดขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสถาบันสูงสุด

ขณะที่รอยเตอร์สรายงานว่า เรื่องอภัยโทษมีการเสนอกันในที่ประชุม ครม.เมื่อวันอังคารที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตามรายงานจากสื่อไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรี ไม่ได้อยู่ในที่ประชุมด้วย และเจ้าหน้าที่ทุกคนถูกขอให้ออกจากห้อง เมื่อปัญหาได้รับการพิจารณาตามการรายงานจากสื่อที่อ้างอิงจากแหล่งข่าวทำเนียบรัฐบาล โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ตอบเรื่องดังกล่าวเพียงว่า รัฐบาลจะทำหน้าที่อยู่ภายใต้กฎหมาย

**นายกฯ อ้างยังไม่สรุปรายชื่อ

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวให้สัมภาษณ์สำนักข่าวต่างประเทศนอกรอบการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซียถึงประเด็นการนิรโทษกรรม ให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมมนตรี ซึ่งยังคงถูกคัดค้านจากหลายฝ่ายแต่ ว่า ตอนนี้ยังไม่มีการตัดสินใจรายชื่อผู้ที่จะได้รับการอภัยโทษ และถือเป็นเรื่องปกติของการพระราชทานอภัยโทษ ก่อนวันคล้ายวันพระราชสมภพของกษัติรย์ในทุกๆ ปี ซึ่งกระบวนการจะเป็นไปภายใต้กรอบกฎหมาย จากคณะกรรมที่จะทำการคัดเลือกรายชื่อ ซึ่งตอนนี้ยังมีอีกหลายขั้นตอนที่ยังไม่แล้วเสร็จ

ด้านนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ฝ่าย แต่ยืนยันไม่ได้อาศัยช่วงจังหวัดน้ำท่วมในการออกกฎหมาย หากมีการชุมนุมก็ถือเป็นสิทธิ์ตามระบอบประชาธิปไตย ส่วนตัวคงไม่สามารถให้ความเห็นคนเดียวได้ อย่างไรก็ตามครม.มีอำนาจในการออกกฎหมาย ผู้ที่ได้รับประโยชน์ก็ต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนด ดังนั้นจึงไม่ใช่การทำเพื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่เป็นคนของส่วนรวม

**“เต้น” ทำนายมีรุนแรงทำคนเจ็บ-ตาย

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะ 1 ในกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวชี้แจงการเข้าร่วมทำงานใน กมธ.ชุดนี้ ซึ่งมี พล.อ.สนธิ บุญรัตนกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ เป็นประธานว่า ในความเป็นจริงตนไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ พล.อ.สนธิ ในฐานะอดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคง (คมช.) เคยปฏิบัติมาในปี 49 แต่เหตุที่สนับสนุนให้มี กมธ.ชุดนี้ เนื่องมาจากคำว่าปรองดอง เพราะเห็นว่าสำหรับประเทศไทยเวลานี้ หากไม่มีการจัดการให้บ้านเมืองเดินหน้าไปด้วยระบอบประชาธิปไตย ที่อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ความรุนแรงก็จะเกิดขึ้นอีก

“การต่อสู้ทางการเมืองของประเทศนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่เคยยุติลงเลย ตั้งแต่ปี 2475 เป็นการต่อสู้กันระหว่างฝั่งเสรีนิยมและอนุรักษ์นิยม มีการวิวัฒนาการการต่อสู้มาหลายยุคหลายสมัย ที่ผ่านมามีกรรมการที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และมีความพยายามที่จะให้เกิดความยุติธรรมและชดเชย เยียวยาความสูญเสียมาแล้วหลายครั้ง แต่เหตุการณ์ก็หมุนกลับมาที่เดิม” นายณัฐวุฒิ ระบุ

นายณัฐวุฒิ ยังได้กล่าวแสดงความเป็ฯห่วงด้วยว่า ส่วนตัวค่อนข้างเป็นห่วงกับคำพูดที่ดูดี แต่ไม่มีทางเป็นไปได้ที่ว่า คนไทยจะต้องหันหน้าเข้าหากัน ให้ประเทศเป็นอย่างเก่า ตนยืนยันว่าประเทศไทยไม่มีทางเป็นอย่างเก่าได้ ถ้าต้องการการปรองดองที่แท้จริง ประชาชนต้องได้มีเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นเหตุการณ์จะเกิดขึ้นอีกไม่นานนี้ และเป็นความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง ซึ่งตอนนี้ตนรู้มาว่าจะมีความเคลื่อนไหวบางอย่างเกิดขึ้นกับรัฐบาลนี้ และกังวลว่าจะมีการบาดเจ็บล้มตายขึ้นอีก

**เสี่ยอ่างหางโผล่หนุนพ.ร.ฏ.อภัยโทษ

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรครักประเทศไทย กล่าวว่า ประเด็นนี้หลายคนเห็นว่าเรื่องนี้เป็นการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยตนตั้งข้อสังเกตว่ามีนักการเมืองบางคนออกมาให้สัมภาษณ์คัดค้าน ทั้งๆที่ได้ดีมาได้ และเติบโตมาได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญๆก็เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาอยากถามว่าพอไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณแล้วได้ ส.ส.มากี่คน ดังนั้นการออกมาพูดคัดค้านก็เพราะต้องการตามกระแส อย่างไรก็ตามความเห็นส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องการเมืองแน่นอน เพราะการขอพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้นั้น มุ่งไปที่การช่วยเหลือคนเพียงคนเดียว แต่ก็ทำให้คนอื่นได้รับอานิสงค์ไปด้วย

“ผมไม่อยากพูดมากไป เพราะวันหนึ่งหากผมติดคุก คนในคุกอาจจะฝนแปรงสีฟันให้แหลมและรอเสียบพุงผมอยู่ เพราะมีอยู่หลายหมื่นคนที่จะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ ซึ่งต้องบอกว่าคนที่คิดเรื่องนี้มาค่อนข้างฉลาดล้ำลึก โดยอาศัยคน 2-3 หมื่นคนที่ได้ประโยชน์พร้อมตัวเอง และเราก็รู้กันอยู่ว่าเขาชอบยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว” นายชูวิทย์ ระบุ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯออกมาระบุพาดพิงถึงรัฐมนตรีในครม.ชุดนี้บางคนที่มาเผยแพร่ข่าว การออกมติครม.กรณี พรฎ.ขออภัยโทษว่าเป็นหนอนบ่อนไส้นั้นมีใครบ้าง นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ามีใคร แต่ฟังผู้ใหญ่ในรัฐบาล บางคนเขาเอ่ยให้ฟังว่า มี 4 รัฐมนตรี คนที่1 เป็นรัฐมนตรีที่กำลังจะแต่งงาน คนที่ 2 เป็นรัฐมนตรีที่ชื่อสั้นๆไม่กี่พยางค์ แต่ความหมายยาว ตัวป้อมๆ คนที่ 3 เป็นรัฐมนตรีพรรคร่วมคุมกระทรวง อ. และคนที่4 เป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเอง คุมกระทรวงใหญ่ แต่เพราะอยากเอาใจสื่อ บริหารงานก็งั้นๆ ไปได้เพราะมีผู้ใหญ่หนุนประเภทน้ำเลี้ยงดี จึงเอาเรื่องนี้มาปูดจนกลายเป็นเรื่อง ส่วนจะเป็นใครนั้นตนก็ฟังเขามาอีกที จึงไม่รู้ว่าชื่อจริงชื่ออะไร.
กำลังโหลดความคิดเห็น