xs
xsm
sm
md
lg

“MCOT”โชว์Q3รายได้โต36%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – “ อสมท” เผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 54 มีรายได้รวม 1,772 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% ดัน 9 เดือนแรก 4,569 ล้านบาท ทะลุโต 22%

นายสุระ เกนทะนะศิล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และรักษาการณ์ในตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของ บมจ. อสมท และบริษัทย่อย ประจำไตรมาส 3 ปี 2554 (กรกฎาคม – กันยายน) เป็นที่น่าพอใจ เพราะรายได้รวมเพิ่มขึ้น 36% และเพิ่มขึ้น 22% สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554
ธุรกิจโทรทัศน์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องผลจากโทรทัศน์ดาวเทียมและโทรทัศน์บอกรับสมาชิก และการขยายกิจการพ่วงรายการ
ด้านธุรกิจวิทยุ FM 95 และ FM 97.5 ยังครองแชมป์ความนิยมอันดับต้นๆ และในช่วงครึ่งปีหลังยังมีการเติบโตมากกว่าช่วงครึ่งปีแรกอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ผู้ลงทุนจะมีการชะลอการใช้งบโฆษณาของภาคเอกชนในช่วงเปลี่ยนรัฐบาล เพื่อปรับแผนการตลาดให้สอดคล้องกับทิศทางการบริหารของรัฐบาลใหม่ แต่ อสมท ก็ยังมีรายได้จากการจัดกิจกรรมและธุรกิจสื่อใหม่เพิ่มขึ้น เช่น
การบริหารสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมให้กรุงเทพมหานคร (Bangkok City Channel) และการทำสัญญารายปีเพื่อแพร่ภาพออกอากาศรายการโทรทัศน์ผ่านช่องสัญญาณดาวเทียม ระบบ C-band การออกอากาศช่อง MCOT 1 และ ASEAN TV ฯลฯ แต่ในขณะเดียวกัน อสมท ก็ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาผลงาน และคืนกำไรแก่สังคมโดยนำสื่อที่มีของ อสมท เช่น รายการโทรทัศน์ในเครือ MCOT GROUP(เอ็มคอท กรุ๊ป) พร้อมทั้งคลื่นวิทยุต่าง ๆ
ในการเป็นศูนย์การรับเรื่องและประสานความเดือดร้อนของผู้ประสบอุทกภัยไปแล้วก่อนหน้านี้ อาทิ 96.5 , 100.5
ทั้งนี้รายละเอียดของผลประกอบการพบว่า ในไตรมาสสาม ของปี 2554 มีรายได้ประมาณ 1,772 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากโทรทัศน์ 855 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้วทำได้ 1,302 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 13% สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปีเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จาก 2,414 ล้านบาท เป็น 2,731 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาสสามเป็นช่วง low season ของอุตสาหกรรมโฆษณาปกติ ซึ่งต่างจากปี 2553
ที่อุตสาหกรรมโฆษณาในช่วงครึ่งปีหลังเติบโตมากกว่าช่วงครึ่งปีแรก อย่างไรก็ตาม สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ ยังสามารถรักษาสัดส่วนผู้ชม และสัดส่วนการตลาดให้อยู่ในลำดับที่ 3 โดยรายได้โฆษณายังคงเติบโต ถึงแม้จะมีการชะลอการใช้งบโฆษณาของภาคเอกชนในช่วงเปลี่ยนรัฐบาล เพื่อปรับแผนการตลาดให้สอดคล้องกับทิศทางการบริหารของรัฐบาลใหม่
และมีโทรทัศน์ดาวเทียมและโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิกเข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้ใช้สื่อโฆษณา เนื่องจากมีการขายกิจกรรมพ่วงรายการที่ได้รับความนิยม อาทิ 9 Ent surprise trip ข่าวข้นคนข่าว และรายได้เพิ่มจากหน่วยงานรัฐก่อนปิดงบประมาณประจำปี นอกจากนี้ยังมีรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดกิจกรรมและธุรกิจสื่อใหม่ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เช่น
การบริหารสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมให้กรุงเทพมหานคร (Bangkok City Channel) และการทำสัญญารายปีเพื่อแพร่ภาพออกอากาศรายการโทรทัศน์ผ่านช่องสัญญาณดาวเทียม ระบบ C-band การออกอากาศช่อง MCOT 1 และ ASEAN TV
ด้านวิทยุฯ รายได้วิทยุฯ ในไตรมาสสาม ของปี 2554 มีประมาณ 225 ล้านบาท ลดลง 5% จกาเดิม 237 ล้านบาท และลดลง 2% ในช่วง 9 เดือนแรกของปีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 จาก 655 ล้านบาทเหลือ 645 ล้านบาท โดยภาพรวมของอุตสาหกรรมวิทยุฯ ในไตรมาสสาม ปี 2554 ลดลง 3% ในขณะที่เม็ดเงินโฆษณาในธุรกิจวิทยุทั้ง 9 เดือน ในปี 2554 เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย คิดเป็น 2% เมื่อเทียบกับปี 2553
โดยสถานีวิทยุส่วนกลางและส่วนภูมิภาคยังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดและฐานลูกค้า ถึงแม้จะมีสื่อใหม่ ๆ เข้ามาเป็นคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม สถานีวิทยุฯ เอฟ.เอ็ม. 95 ลูกทุ่งมหานคร และสถานีวิทยุฯ เอฟ.เอ็ม 97.5 (Seed FM) ยังคงรักษาความนิยมมาเป็นอันดับหนึ่ง ในขณะที่สถานีวิทยุฯ เอฟ.เอ็ม. 96.5 คลื่นความคิด ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในช่วงการเลือกตั้งและสถานการณ์ต่าง ๆ
ค่าใช้จ่าย เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ในไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ในช่วง 9 เดือนแรกเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 จากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโทรทัศน์และวิทยุ ที่เพิ่มขึ้นร้อย 22 เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา บมจ.อสมท มีการผลิตรายการสด รายการเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และการจัดกิจกรรมส่งเสริมรายการ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ลดลง
โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านบริหาร ลดลงร้อยละ 27 เนื่องจากในปี 2553 มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเกษียณอายุก่อนกำหนด (Early Retire) แต่ในปีนี้มีการปรับเงินเดือนเพิ่มร้อยละ 5 สำหรับผู้ที่ได้รับเงินเดือนต่ำกว่า 50,000 บาท ตามมติคณะรัฐมนตรี
กำไรสุทธิ ไตรมาสสามของปี 2554 มีจำนวน 646 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 102 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ จำนวน 638 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 0.94 บาทต่อหุ้น และกำไรสุทธิในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2554 มีจำนวน 1,518 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 43 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ จำนวน 1,501 ล้านบาท คิดเป็น 2.21 บาทต่อหุ้น
โดยรายได้รวม 9 เดือนแรกปีนี้มีประมาณ 4,569 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ที่ทำได้ 3,751 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22%
ทั้งนี้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2554 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 10,990.176 ล้านบาท หนี้สิน 2,602.662 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 8,387.513 ล้านบาท ถือได้ว่าเป็นบริษัทฯ ที่มีฐานะมั่นคง
*****************
ข้อมูลผลประกอบการ
คำอธิบายและวิเคราะห์งบการเงินสำหรับงวดสามเดือนและเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2554 และ 2553

ผลการดำเนินงานของ บมจ. อสมท และบริษัทย่อย
หน่วย ล้านบาท
(สอบทานแล้ว)
ก.ค. – ก.ย. 2554ก.ค. – ก.ย. 2553เปลี่ยนแปลงร้อยละ
รายได้รวม1,7721,30236
โทรทัศน์8558441
วิทยุ225237-5
ร่วมดำเนินกิจการและอื่น ๆ28822130
ผลประโยชน์นอกเหนือสัญญา405-
ค่าใช้จ่ายรวม8438252
กำไรสุทธิสำหรับงวด646319102
กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย8714
กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่638313104
กำไรสุทธิต่อหุ้น (บาท)094046104

ผลการดำเนินงานของ บมจ. อสมท และบริษัทย่อย
หน่วย ล้านบาท
(สอบทานแล้ว)
ม.ค. – ก.ย. 2554ม.ค. – ก.ย. 2553เปลี่ยนแปลงร้อยละ
รายได้รวม4,5693,75122
โทรทัศน์2,7312,41413
วิทยุ645655-2
ร่วมดำเนินกิจการและอื่น ๆ78868215
ผลประโยชน์นอกเหนือสัญญา405-
ค่าใช้จ่ายรวม2,3952,2467
กำไรสุทธิสำหรับงวด1,5181,06243
กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย17166
กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่1,5011,04643
กำไรสุทธิต่อหุ้น (บาท)2.2115543


ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาสสาม ของปี 2554 บริษัทฯ มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 36 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมาจากการบันทึกรายการผลประโยชน์นอกเหนือสัญญาจำนวน 405 ล้านบาท สำหรับธุรกิจโทรทัศน์และวิทยุฯ ยังเติบโตในทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรม ดังนี้

ด้านโทรทัศน์ ในไตรมาสสาม ของปี 2554 รายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปีเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากไตรมาสสามเป็นช่วง low season ของอุตสาหกรรมโฆษณาปกติ ซึ่งต่างจากปี 2553 ที่อุตสาหกรรมโฆษณาในช่วงครึ่งปีหลังเติบโตมากกว่าช่วงครึ่งปีแรก อย่างไรก็ตาม สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ ยังสามารถรักษาสัดส่วนผู้ชม และสัดส่วนการตลาดให้อยู่ในลำดับที่ 3 โดยรายได้โฆษณายังคงเติบโต ถึงแม้จะมีการชะลอการใช้งบโฆษณาของภาคเอกชนในช่วงเปลี่ยนรัฐบาล เพื่อปรับแผนการตลาดให้สอดคล้องกับทิศทางการบริหารของรัฐบาลใหม่ และมีโทรทัศน์ดาวเทียมและโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิกเข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้ใช้สื่อโฆษณา เนื่องจากมีการขายกิจกรรมพ่วงรายการที่ได้รับความนิยม อาทิ 9 Ent surprise trip ข่าวข้นคนข่าว และรายได้เพิ่มจากหน่วยงานรัฐก่อนปิดงบประมาณประจำปี นอกจากนี้ยังมีรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดกิจกรรมและธุรกิจสื่อใหม่ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เช่น การบริหารสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมให้กรุงเทพมหานคร (Bangkok City Channel) และการทำสัญญารายปีเพื่อแพร่ภาพออกอากาศรายการโทรทัศน์ผ่านช่องสัญญาณดาวเทียม ระบบ C-band การออกอากาศช่อง MCOT 1 และ ASEAN TV

ด้านวิทยุฯ รายได้วิทยุฯ ในไตรมาสสาม ของปี 2554 ลดลงร้อยละ 5 และลดลงร้อยละ 2 ในช่วง 9 เดือนแรกของปีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 โดยภาพรวมของอุตสาหกรรมวิทยุฯ ในไตรมาสสาม ปี 2554 ลดลงร้อยละ 3 ในขณะที่เม็ดเงินโฆษณาในธุรกิจวิทยุทั้ง 9 เดือน ในปี 2554 เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย คิดเป็นร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับปี 2553 โดยสถานีวิทยุส่วนกลางและส่วนภูมิภาคยังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดและฐานลูกค้า ถึงแม้จะมีสื่อใหม่ ๆ เข้ามาเป็นคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม สถานีวิทยุฯ เอฟ.เอ็ม. 95 ลูกทุ่งมหานคร และสถานีวิทยุฯ เอฟ.เอ็ม 975 (Seed FM) ยังคงรักษาความนิยมมาเป็นอันดับหนึ่ง ในขณะที่สถานีวิทยุฯ เอฟ.เอ็ม. 965 คลื่นความคิด ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในช่วงการเลือกตั้งและสถานการณ์ต่าง ๆ

ค่าใช้จ่าย เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ในไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ในช่วง 9 เดือนแรกเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 จากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโทรทัศน์และวิทยุ ที่เพิ่มขึ้นร้อย 22 เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา บมจ.อสมท มีการผลิตรายการสด รายการเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และการจัดกิจกรรมส่งเสริมรายการ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ลดลง โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านบริหาร ลดลงร้อยละ 27 เนื่องจากในปี 2553 มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเกษียณอายุก่อนกำหนด (Early Retire) แต่ในปีนี้มีการปรับเงินเดือนเพิ่มร้อยละ 5 สำหรับผู้ที่ได้รับเงินเดือนต่ำกว่า 50,000 บาท ตามมติคณะรัฐมนตรี

กำไรสุทธิ ไตรมาสสามของปี 2554 มีจำนวน 646 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 102 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ จำนวน 638 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 0.94 บาทต่อหุ้น และกำไรสุทธิในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2554 มีจำนวน 1,518 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 43 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ จำนวน 1,501 ล้านบาท คิดเป็น 2.21 บาทต่อหุ้น

ณ วันที่ 30 กันยายน 2554 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 10,990.176 ล้านบาท หนี้สิน 2,602.662 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 8,387.513 ล้านบาท ถือได้ว่าเป็นบริษัทฯ ที่มีฐานะมั่นคง
กำลังโหลดความคิดเห็น