xs
xsm
sm
md
lg

เรื่องเล่าจากคันไซ ตอนที่ 18

เผยแพร่:   โดย: ชวินทร์ ลีนะบรรจง1

ด้านดีของน้ำท่วมก็คือ การชำระคราบจอมปลอมของเขาและคนของเขา

ว่าประสงค์ในสิ่งใด ประชาชนไม่ว่าจะชอบสีอะไรควรพิจารณา

น้ำท่วมประเทศไทยในคราวนี้นอกเหนือจากผลด้าน “ลบ” ที่ปรากฏออกมาเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องแล้ว ยังมีด้าน “บวก” เกิดขึ้นเป็นคุณูปการสำหรับบ้านเมืองก็คือ การชำระล้างคราบจอมปลอมของเขาและคนของเขา

หากไม่มีน้ำท่วม การพิสูจน์เป้าประสงค์ของเขาและของรัฐบาลชุดนี้อาจต้องใช้เวลามากกว่านี้ แต่ “น้ำ” ได้ชำระคราบไคลของความหลงผิดของประชาชนที่มีต่อเขาคนของเขาไปได้อย่างมาก

หลายคนได้เข้าใจ หลายคนได้รู้ซึ้ง แม้จะต้องแลกมาด้วยต้นทุนความเสียหายของประเทศ แต่นับได้ว่ายังไม่แพงและไม่สายจนเกินกาลไปนัก เพราะแม้จะเป็นขุนโจรใจบาปหยาบช้ามากกว่าองคุลิมาล แต่หากกลับใจได้ก็สามารถเป็นอรหันต์

หากกล่าวเมื่อช่วงรับตำแหน่งใหม่ๆ ว่า รัฐบาลชุดนี้ เป็น “รัฐบาลของเขาและเพื่อประโยชน์ของเขา” ก็อาจจะมีผู้โต้แย้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องเสื้อแดงและที่ไม่ใช่สีใดว่าอคติใส่ความ แต่ ณ วันนี้ วันที่มีที่แห้งสำหรับเท้าตนเองน้อยลงเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์สนับสนุน ประชาชนน่าจะเป็นผู้ตื่นรู้มากขึ้น ไม่หลงใหลไปกับความจอมปลอมของนโยบายทั้งหลายของเขาและคนของเขา

มีผู้ถามคำถามในช่วงที่เขาเรืองอำนาจอยู่เสมอว่า เขาไม่มีอะไรดีเลยหรือ ทำไมใครๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักวิชาการจึงจับจ้องวิพากษ์นโยบายของเขาในขณะที่คนส่วนใหญ่ชื่นชอบมาลงคะแนนให้เขา คำตอบง่ายๆ จากนักวิชาการที่มักถูกค่อนขอดดูแคลนจากสังคมในปัจจุบันก็คือ นักวิชาการนอกจากจะให้ความรู้เพื่อ “ชี้ถูกผิด” แล้วยังให้ความจริงในสิ่งที่ยังไม่เกิด นี่คือหน้าที่ของนักวิชาการที่จะต้องชี้แนะ “ทางออก” ให้กับสังคม เฉกเช่น กาลิเลโอที่ยืนยันว่าโลกไม่ใช่ศูนย์กลางของสุริยจักรวาลหากแต่เป็นดวงอาทิตย์ที่โลกนั้นโคจรรอบอยู่

คำว่า การตลาด หรือ marketing ในเชิงเศรษฐศาสตร์แล้วไม่ได้มีความยากสลับซับซ้อนที่จะเข้าใจแต่อย่างใด ความหมายง่ายๆ ก็คือ การผูกขาด หรือ monopoly นั่นเอง เพราะจุดสุดยอดของการตลาดก็คือ การเป็นผู้ผูกขาดในสินค้าที่ตนเองมีเหมือนกับคู่แข่งแต่สามารถใช้กลยุทธ์ทางการตลาดด้วยการโฆษณาประชาสัมพันธ์สร้างภาพเพื่อทำให้แตกต่างไปจากคู่แข่งได้

พ่อค้าในตลาดจึงรู้ดีว่าหากสามารถสร้างเงื่อนไขผูกขาดให้เกิดกับสินค้าตนเองได้ก็จะมีอำนาจเหนือตลาดหรือ monopoly power ที่ทำให้สามารถตั้งราคาขายเองโดยไม่ต้องคำนึงถึงคู่แข่ง กำไรจากการขายสินค้าในตลาดผูกขาดจึงมีมากกว่าตลาดที่มีการแข่งขัน ตัวอย่างที่เห็นชัดก็คือ น้ำมันที่มาจากโรงกลั่นเดียวกันและต้องได้มาตรฐานตามที่กำหนดเหมือนกัน แต่ผู้ขายก็พยายามสร้างเงื่อนไขโดยทำการตลาดให้น้ำมันยี่ห้อของตนเองมีความแตกต่างไปจากคู่แข่ง

หากย้อนกลับไปดูอดีตของเขาก็จะเห็นชัดว่า ช่วงที่ยังไม่ประสบความสำเร็จล้มลุกคลุกคลานอยู่นั้นก็เนื่องจากต้องสู้กับคู่แข่งในตลาดที่มีการแข่งขัน จวบจนกระทั่งเข้ามาอิงกับผู้มีอำนาจทางการเมืองที่สามารถสร้างเงื่อนไขผูกขาดโดยอำนาจรัฐ เช่น การให้สัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือ สัมปทานดาวเทียม ธุรกิจของเขาจึงเริ่มประสบความสำเร็จ

การเข้าสู่การเมืองของเขาจึงน่าจะมีเป้าประสงค์เพื่อรักษาอำนาจผูกขาดของธุรกิจตนเองเป็นสำคัญ สิ่งที่เขากลัวก็คือ การแข่งขัน เพราะเล่นแบบแฟร์ๆโดยไม่เอาเปรียบใครไม่เป็นหรือพูดง่ายๆ ก็คือ ขาดความสามารถในการแข่งขัน

การ “ซุกหุ้น” ในกิจการที่ได้รับสัมปทานจากรัฐโดยสร้างบริษัทปลอมๆ เช่น แอมเพิลริช และวินมาร์คมาถือหุ้นแทนเพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายที่ห้ามเอาไว้ก็ดี การแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาสัมปทานของชินแซทฯ และเอไอเอสอย่างเอาเปรียบคู่แข่งก็ดี จึงล้วนเป็นความพยายามที่จะรักษาอำนาจผูกขาดให้อยู่กับตนเองโดยปกปิดสถานะความเป็นเจ้าของที่แท้จริง เอาเปรียบคู่แข่งขัน และเอาเปรียบประชาชนทั้งประเทศ

การอาสาเข้ามาเป็นตัวแทนใช้อำนาจรัฐแทนประชาชนทั่วไปด้วยการเป็นนักการเมืองจึงเป็นเพียงฉากบังหน้าเพราะมิได้มีเป้าประสงค์เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนแต่อย่างใด หากแต่เข้าสู่การเมืองเพราะต้องการอำนาจรัฐเพื่อรักษาอำนาจผูกขาดให้คงอยู่กับกิจการตนเอง

รัฐบาลสมัคร สมชาย และรัฐบาลชุดนี้จึงเป็นตัวแทนสืบทอด เป็น “รัฐบาลของเขาและเพื่อประโยชน์ของเขา” และไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะไร้ความสามารถในการแก้ไขปัญหาของประเทศเพราะมิได้สรรหาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ หากแต่ตั้งเพื่อทดแทนบุญคุณในตำแหน่งที่ไม่สำคัญ ในขณะที่ตำแหน่งที่สำคัญในการ “อุ้ม” เขากลับบ้านอยู่ในมือของผู้ใกล้ชิดและเป็นที่ไว้วางใจ

เป้าประสงค์รัฐบาลของเขาไม่ว่าชุดใดจึงแตกต่างไปจากของประชาชนอย่างชัดเจน หาไม่แล้วจะได้นายกฯ ที่เป็นน้องเขยหรือน้องสาวหรือแม้แต่ตัวเขาเองมาได้อย่างไร ทั้งๆ ที่แต่ละคนก็มิได้มีภูมิหลังที่แสดงความเก่งกล้าสามารถให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ก่อนเข้ารับตำแหน่งแต่อย่างใดไม่

สะท้อนถึงความเป็นตัวแทนของ ส.ส.ในพรรคของเขาไม่ว่าจะอยู่ในชื่อพรรคใดก็ไม่ได้เป็นตัวแทนของประชาชนที่เลือกแต่อย่างใด เพราะหากเป็นตัวแทนฯ จริงคงไม่สามารถหลับหูหลับตาเลือกผู้ที่จะมาเป็นหัวหน้าบริหารประเทศที่เป็นแต่เครือญาติแต่ไม่มีความรู้ความสามารถขาดประสบการณ์เช่นนี้ได้ มิเช่นนั้นจะไปรับผิดชอบต่อประชาชนผู้ที่เลือกตนเองได้อย่างไร

การไม่ยอมออกมาร่วมอภิปรายในที่สาธารณะกับนักการเมืองคู่แข่งในช่วงก่อนการเลือกตั้ง หรือการไม่ยอมตอบคำถามอย่างชัดถ้อยชัดคำเกี่ยวกับนโยบายที่มีต่อพี่ชายตนเอง ก็เป็นประจักษ์พยานหลักฐานที่พิสูจน์ให้เห็นในปัจจุบันว่ารัฐบาลชุดนี้มีวาระอะไรซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลัง

นโยบายลาก่อนน้ำท่วมที่เคยหาเสียงเอาไว้ด้วยการสร้างเขื่อนป้องกันน้ำทะเลท่วม ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการที่เริ่มจะเห็นผลชัดเจนมากขึ้นมาว่าเป็นเพียง “การตลาด” เพื่อสร้างภาพหลอกคนที่ไม่มีการศึกษา งมงายในความเชื่อมากกว่าความจริง หรือที่พวกเขาเรียกว่า “พวกรากหญ้า” เท่านั้น แค่คิดก็ผิดแล้วเพราะน้ำที่ท่วมอยู่ทุกวันนี้นั้นเป็นน้ำที่มาจากทางเหนือทุกปีไม่ใช่จากทางใต้ฝั่งทะเลอ่าวไทยที่จะสร้างเขื่อน จะสร้างป้อมค่ายคูเมืองเพื่อป้องกันน้ำก็หันผิดทางเสียแล้วโดยไม่ต้องคิดต่อไปอีกว่าเขื่อนจะสามารถใช้ป้องกันน้ำได้ดีกว่าคลองหรือพื้นที่รับน้ำหรือไม่

เขาและรัฐบาลชุดนี้กำลังโดน “น้ำท่วม” เล่นงานอย่างหมดรูป การเสนอโครงการ New Thailand หรือโครงการรัฐไทยใหม่ เพื่อการฟื้นฟูประเทศจากน้ำท่วมที่กำหนดกรอบการใช้เงินกว่า 900,000 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ยังทำหน้าที่จัดการน้ำให้แห้งยังไม่ได้ผลเสร็จสิ้นจึงเป็นการเบี่ยงเรื่อง เปลี่ยนประเด็น ให้สังคมหันเหความสนใจไปจากความบกพร่องผิดพลาดที่ตนเองได้ก่อขึ้นมา

เป็นเสมือนการทำการตลาดอีกครั้งหนึ่งของเขาที่รู้ว่าสินค้าที่ตนเองเสนอมาบกพร่องชำรุดมีตำหนิตั้งแต่ต้น แต่ไม่ยอมคืนเงิน (อำนาจ) แถมยังบอกให้ผู้ซื้อซึ่งก็คือประชาชนไม่ว่าจะเสื้อสีอะไรให้ซื้อแพ็กเกจใหม่ (ให้อำนาจใหม่) เป็นเงินอีก 900,000 ล้านบาทเพื่อนำไปแก้ไขความผิดพลาดในสินค้าชำรุดที่ตนเองหลอกขายให้ เป็นการตลาดแบบหลอกขายกางเกงผ้าบางเมื่อโดนต่อว่ามองทะลุไปถึงไหนๆ ก็ยังหลอกให้ซื้อกางเกงในอีกตัว

ณ วันนี้ นโยบายการเมืองแบบการตลาดของเขาน่าจะเป็นไปได้ยากเพราะคนรู้ทันมากขึ้น มรดกตกทอดของการสร้างประเทศจากสถาบันฯ พระราชกระแสเกี่ยวกับการระบายน้ำที่ได้เคยรับสั่ง พื้นที่รับน้ำที่เอาไปสร้างสนามบิน คลองและประตูกั้นน้ำที่ถูกสร้างมาแต่ครั้งโบราณที่ถูกละเลย ได้ปรากฏให้เห็นชัดว่าเป็นของจริงใช้งานได้มากกว่าบิ๊กแบ็ค เก่ง ปลอดฯ ยงยุทธ วิชาญ โต้ง โกร่ง ธีระชัย หรือแม้แต่ ปู

น้ำท่วมในคราวนี้จึงเป็นการชำระล้างคราบจอมปลอมของรัฐบาลชุดนี้ออกมาอย่างล่อนจ้อน ได้เห็นตัวตนที่แท้จริงว่าเป็นอย่างไร พวกเขาและเธอมาเป็นรัฐบาลเพื่อใคร? และหวังจะทำสิ่งใด ข่าวการเตรียมออกกฎหมายอภัยโทษฉวยโอกาสทำเพื่อประโยชน์ของเขา ขณะที่คนอื่นลำบากเพราะน้ำท่วมเป็นหลักฐานที่สำคัญชี้ว่า สันดานหมาต้องดมขี้หอม

ถ้านายกฯ ยังมีสำนึกดีหลงเหลืออยู่ อย่าฝืนรักพี่มากกว่าชาติ อีกต่อไปเลย


********************
* 1 The Japan Foundation Fellow บทความนี้เป็นความคิดเห็นของผู้เขียน Japan Foundation ไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น