ASTVผู้จัดการรายวัน - เอกชนเกาะติดแผนสูบน้ำออกจาก 7 นิคมฯ หลังทยอยสูบออกตามแผน ยกเว้นสหรัตนนครที่คาดว่าจะช้าสุด เขตฯแฟคทอรี่แลนด์โรงงานเริ่มกลับมาผลิตบ้างแล้ว คาด 15 ธ.ค.จะกลับมาปกติ และทั้ง 840 แห่ง ไม่เกิน มี.ค.55 “วรรณรัตน์” รับลาดกระบังยังน่าห่วง ก.อุตฯ เร่งเคลียร์ชาวบ้านหลังต้านดันน้ำที่คลองหลอแหลนิคมบางชัน
นายพรกร วังศิลาบัตร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้เอกชนได้มีการติดตามความคืบหน้าการฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรมและเขตประกอบการ 7 แห่งที่ประสบภาวะน้ำท่วมได้แก่ นิคมฯบ้านหว้า (ไฮเทค) เขตประกอบการสวนอุตสาหกรรมโรจนะ นิคมฯสหรัตนนคร นวนคร บางกะดี บางปะอิน และเขตประกอบการแฟคทอรี่แลนด์ ทำให้โรงงาน840แห่งต้องหยุดชั่วคราวกระทบแรงงานกว่า 4.3 แสนคน อย่างใกล้ชิดโดยภาพรวมส่วนใหญ่ขณะนี้เป็นไปตามแผน โดยคาดหวังว่าการสูบน้ำออกจากนิคมฯดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดการทยอยเปิดโรงงานกลับมาผลิตตั้งแต่ 15 ธันวาคมและจะกลับมาได้ทั้งหมดภายในมีนาคม 2555
“ นิคมฯที่เริ่มดำเนินการสูบน้ำแล้วได้แก่ นิคมฯไฮเทค โรจนะ เขตประกอบการแฟคตอรี่แลนด์ที่น้ำลดลงมากทำให้โรงงานบางส่วนเริ่มกลับมาผลิตได้แล้ว ที่เหลือเริ่มทยอยสูบโดยบางปะอินคาดว่าจะสูบได้ภายในสัปดาห์นี้ จะช้ากว่าแผนน่าจะมีเพียงแห่งเดียวคือ นิคมฯสหรัตนนคร เพราะระดับภายนอกโอบล้อมค่อนข้างมาก”นายพากรกล่าว
นายประยูร ติ่งทอง อุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ขณะนี้การกู้นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน มีความคืบหน้ามาก เบื้องต้นสามารถสูบน้ำออกจากนิคมฯ แล้วกว่า 1.3 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยคาดว่าจะสามารถทยอยเปิดโรงงานเพื่อกลับมาผลิตอีกครั้งได้ตั้งแต่ 16 ธันวาคม
ส่วนที่ประชาชนเกรงว่าน้ำที่สูบออกจากนิคมอุตสาหกรรมจะปนเปื้อนสารเคมีก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชนนั้น นายประยูรกล่าวว่า จากการที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมนำน้ำไปตรวจสอบ ไม่พบสารเคมีแต่อย่างใด จึงขอให้พี่น้องอย่าหวั่นวิตก
นายณัฐพล ณัฎฐสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะประธานคณะทำงานฟื้นฟูสถานประกอบการอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากผู้ประสบภัยในนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร กล่าวว่า กำหนดการเดิมนิคมฯสหรัตนนครจะมีการสูบน้ำออกวันที่ 10 พ.ย.นี้แต่ล่าสุดปริมาณน้ำกลับทะลักเข้านิคมฯเพิ่มขึ้นเนื่องจากพบจุดน้ำเข้าในบริเวณถนนบ้านขล้อ-ตาลเอนดังนั้นทางการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) ได้ทำหนังสือซึ่งลงนามโดยน.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.อุตสาหกรรมส่งถึงศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม(ศปภ.)เพื่อจัดงบประมาณและทีมงานเข้าไปซ่อมถนนเร่งด่วน
“ ถนนเส้นดังกล่าวเป็นความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบทซึ่งจะต้องเร่งซ่อมแซมให้เสร็จไม่เช่นนั้นน้ำก็ไหลเข้ามาตลอดการสูบน้ำออกคงจะไม่มีผลอะไร ซึ่งถนนดังกล่าวที่ขาดเป็นระยะทางประมาณ 100 เมตร ส่วนแผนนิคมฯที่วางไว้ที่จะเร่งระบายน้ำนอกจากจะสูบออกแล้วยังจะมีการเจาะถนนสาย 3032 ที่อยู่ด้านล่างนิคมฯเพื่อระบายน้ำออกให้เร็วขึ้นซึ่งขณะนี้กำลังรออนุมัติงบดำเนินงานจากบริษัท เอส.ซี.เอ็ม.บี.จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูของนิคมฯอยู่”นายณัฐพลกล่าว
***ก.อุตฯรุดเคลียร์ชุมชนหวั่นต้านดันน้ำ
น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.อุตสาหกรรม กำหนดที่จะเดินทางไปลงพื้นที่นิคมฯบางชันเวลา 11.00 น.ของวานนี้ เพื่อทำพิธีเปิดเรือผลักดันน้ำออกจากคลองหลอแหลเพื่อระบายน้ำลงคลองแสนแสบแต่ปรากฏว่าต้องปรับแผนไปให้ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ที่สำนักงานแทนเนื่องจากมีรายงานว่าชาวชุมชนออกมาต่อต้านการระบายน้ำดังกล่าวทำให้กระทรวงอุตสาหกรรมต้องเร่งไปเคลียร์ชาวบ้านก่อน
นพ.วรรณรัตน์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการกู้นิคมอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี ว่า ขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการสูบน้ำออกแล้วทั้ง 4 แห่ง คือ 1.แฟคตอรี่แลนด์ ซึ่งสูบน้ำเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงประมาณ 20% เท่านั้น ซึ่งมีโรงงานทั้งหมด93 โรงงาน โดย 12 โรงงานได้เปิดเดินเครื่องเรียบร้อยแล้ว อีก 70โรงงานกำลังทำความสะอาด คาดว่าจะเปิดเดินเครื่องได้ในไม่ช้า 2.นิคมอุตสาหกรรมบางประอิน ในวันที่ 17พ.ย.จะทำบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ และ 18-19 พ.ย.จะเข้าไปซ่อมแซมระบบไฟฟ้า ประปา และเครื่องจักร คิดว่าจะเปิดดำเนินการได้ภายในวันที่25 พ.ย. 3.นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค วันที่ 30 พ.ย. จะดำเนินการสูบน้ำออกได้ จากนั้นจะเข้าไปตรวจสอบเพื่อเดินเครื่องไป และ4.นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จะสูบน้ำหมดภายในวันที่ 30 พ.ย. และ1ธ.ค.จะเริ่มทำความสะอาด และติดตั้งไฟฟ้า ในส่วนที่มีคราบน้ำมันนั้น จะนำสารเคมีไปกำจัดออก
ส่วนนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนะ นิคมอุตสาหกรรมนวนคร และนิคมบางกระดี ปริมาณน้ำยังสูงอยู่ ต้องรอสักระยะให้น้ำลดกว่าคันดินที่กั้นไว้ ซึ่งจะต้องไปทำคันดินให้แข็งแรงเสียก่อน แล้วจึงจะเริ่มสูบน้ำได้
"เชื่อว่าในช่วงต้นเดือนธันวาคม จะมีหลายโรงงานที่สามารถเปิดเดินเครื่องได้ ยกเว้นโรงงานที่มีเครื่องจักรได้รับความเสียหายมาก อาจจะต้องใช้เวลาซ่อมแซม"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้นิคมอุตสาหรกรรมบางชันยังสามารถรับมืออยู่หรือไม่ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ตอนนี้ยังรับมืออยู่ หากควบคุมปริมาณน้ำไหลเข้า-ออกได้ อย่างไรก็ตาม เรามีความเชื่อมั่นว่าจะรักษานิคมอุตสาหกรรมบางชันและลาดกระบังได้ ทั้งนี้ ขณะนี้ได้นำเครื่องผลักดันน้ำ จากกรมอู่ทหารเรือ ไปติดตั้งที่คลองบางชันเพื่อผลักดันให้ลงคลองแสนแสบเพื่อระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาให้เร็วขึ้น
ส่วนของนิคมฯลาดกระบังยอมรับว่ามีความเป็นห่วงมากกว่าเพราะน้ำได้ประชิดนิคมฯแล้วและยังได้รับรายงานว่าทางทิศตะวันตกน้ำซึมเข้ามาตามกระสอบทรายทำให้ต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ช.ม.ในการที่จะอุดรอยรั่ว
นายโสภณ ผลประสิทธิ์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะประธานคณะทำงานป้องกันและลดผลกระทบจากอุทกภัยในนิคมฯลาดกระบัง กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการนำเครื่องดันน้ำ 1 ตัวมาดันลงคลองหัวตะเข้เพื่อเร่งระบายน้ำ ซึ่งภาพรวมปริมาณน้ำภายนอกฯได้หมดแล้วแต่การระบายน้ำดีขึ้น หากมีการรักษาระดับการปล่อยน้ำมาจากคลอง 8-9-10 ก็จะทำให้สถานการณ์ไม่แย่ลง ด้านชมรมผู้ประกอบการนิคมฯเองเข้ามาทำงานและติดตามภาวะน้ำอย่างใกล้ชิดล่าสุดโรงงานทั้งหมดได้หันกลับมาผลิตเช่นเดิมแล้วหลังจากก่อนหน้าได้หยุดไป 100 แห่งเพราะยังเห็นว่าอยู่ในภาวะที่น่าจะรับมือได้
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากภาวะน้ำที่ท่วมบริเวณถนนเพชรเกษมฝั่งตะวันตกของกทม.ส่งผลให้มีโรงงานสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มรวมถึงอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากสิ่งทอฯ ประสบปัญหาต้องหยุดกิจการชั่วคราวแล้วไม่ต่ำกว่า 500 แห่งและหากน้ำลามไปยังจังหวัดสมุทรสาครคาดว่าจะส่งผลให้โรงงานจำนวนไม่น้อยกว่า100แห่งบริเวณดังกล่าวต้องประสบปัญหาปิดกิจการเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งจะกระทบแรงงานรวมให้ต้องอยู่ในสภาพการว่างงานประมาณ 1-1.5 แสนราย
นายสมมาต ขุนเศษฐ เลขาธิการส.อ.ท.กล่าวว่า ส.อ.ท.ได้เสนอแนวทางช่วยเหลือแรงงานที่ต้องหยุดงานเพราะได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมประมาณ 7-8แสนคนไปยังกระทรวงแรงงานแล้วโดยเสนอให้ใช้เงินกองทุนประกันสังคมกรณีว่างงานมาจ่ายให้พนักงานซึ่งเบื้องต้นทางกระทรวงแรงงานระบุว่าอยู่ระหว่างการเร่งแก้ไขกฏหมายอยู่เนื่องจากระเบียบเดิมจะต้องเป็นผู้ตกงานเท่านั้นแต่ปัญหาน้ำท่วมถือเป็นกรณีพิเศษ.
นายพรกร วังศิลาบัตร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้เอกชนได้มีการติดตามความคืบหน้าการฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรมและเขตประกอบการ 7 แห่งที่ประสบภาวะน้ำท่วมได้แก่ นิคมฯบ้านหว้า (ไฮเทค) เขตประกอบการสวนอุตสาหกรรมโรจนะ นิคมฯสหรัตนนคร นวนคร บางกะดี บางปะอิน และเขตประกอบการแฟคทอรี่แลนด์ ทำให้โรงงาน840แห่งต้องหยุดชั่วคราวกระทบแรงงานกว่า 4.3 แสนคน อย่างใกล้ชิดโดยภาพรวมส่วนใหญ่ขณะนี้เป็นไปตามแผน โดยคาดหวังว่าการสูบน้ำออกจากนิคมฯดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดการทยอยเปิดโรงงานกลับมาผลิตตั้งแต่ 15 ธันวาคมและจะกลับมาได้ทั้งหมดภายในมีนาคม 2555
“ นิคมฯที่เริ่มดำเนินการสูบน้ำแล้วได้แก่ นิคมฯไฮเทค โรจนะ เขตประกอบการแฟคตอรี่แลนด์ที่น้ำลดลงมากทำให้โรงงานบางส่วนเริ่มกลับมาผลิตได้แล้ว ที่เหลือเริ่มทยอยสูบโดยบางปะอินคาดว่าจะสูบได้ภายในสัปดาห์นี้ จะช้ากว่าแผนน่าจะมีเพียงแห่งเดียวคือ นิคมฯสหรัตนนคร เพราะระดับภายนอกโอบล้อมค่อนข้างมาก”นายพากรกล่าว
นายประยูร ติ่งทอง อุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ขณะนี้การกู้นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน มีความคืบหน้ามาก เบื้องต้นสามารถสูบน้ำออกจากนิคมฯ แล้วกว่า 1.3 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยคาดว่าจะสามารถทยอยเปิดโรงงานเพื่อกลับมาผลิตอีกครั้งได้ตั้งแต่ 16 ธันวาคม
ส่วนที่ประชาชนเกรงว่าน้ำที่สูบออกจากนิคมอุตสาหกรรมจะปนเปื้อนสารเคมีก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชนนั้น นายประยูรกล่าวว่า จากการที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมนำน้ำไปตรวจสอบ ไม่พบสารเคมีแต่อย่างใด จึงขอให้พี่น้องอย่าหวั่นวิตก
นายณัฐพล ณัฎฐสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะประธานคณะทำงานฟื้นฟูสถานประกอบการอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากผู้ประสบภัยในนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร กล่าวว่า กำหนดการเดิมนิคมฯสหรัตนนครจะมีการสูบน้ำออกวันที่ 10 พ.ย.นี้แต่ล่าสุดปริมาณน้ำกลับทะลักเข้านิคมฯเพิ่มขึ้นเนื่องจากพบจุดน้ำเข้าในบริเวณถนนบ้านขล้อ-ตาลเอนดังนั้นทางการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) ได้ทำหนังสือซึ่งลงนามโดยน.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.อุตสาหกรรมส่งถึงศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม(ศปภ.)เพื่อจัดงบประมาณและทีมงานเข้าไปซ่อมถนนเร่งด่วน
“ ถนนเส้นดังกล่าวเป็นความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบทซึ่งจะต้องเร่งซ่อมแซมให้เสร็จไม่เช่นนั้นน้ำก็ไหลเข้ามาตลอดการสูบน้ำออกคงจะไม่มีผลอะไร ซึ่งถนนดังกล่าวที่ขาดเป็นระยะทางประมาณ 100 เมตร ส่วนแผนนิคมฯที่วางไว้ที่จะเร่งระบายน้ำนอกจากจะสูบออกแล้วยังจะมีการเจาะถนนสาย 3032 ที่อยู่ด้านล่างนิคมฯเพื่อระบายน้ำออกให้เร็วขึ้นซึ่งขณะนี้กำลังรออนุมัติงบดำเนินงานจากบริษัท เอส.ซี.เอ็ม.บี.จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูของนิคมฯอยู่”นายณัฐพลกล่าว
***ก.อุตฯรุดเคลียร์ชุมชนหวั่นต้านดันน้ำ
น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.อุตสาหกรรม กำหนดที่จะเดินทางไปลงพื้นที่นิคมฯบางชันเวลา 11.00 น.ของวานนี้ เพื่อทำพิธีเปิดเรือผลักดันน้ำออกจากคลองหลอแหลเพื่อระบายน้ำลงคลองแสนแสบแต่ปรากฏว่าต้องปรับแผนไปให้ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ที่สำนักงานแทนเนื่องจากมีรายงานว่าชาวชุมชนออกมาต่อต้านการระบายน้ำดังกล่าวทำให้กระทรวงอุตสาหกรรมต้องเร่งไปเคลียร์ชาวบ้านก่อน
นพ.วรรณรัตน์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการกู้นิคมอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี ว่า ขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการสูบน้ำออกแล้วทั้ง 4 แห่ง คือ 1.แฟคตอรี่แลนด์ ซึ่งสูบน้ำเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงประมาณ 20% เท่านั้น ซึ่งมีโรงงานทั้งหมด93 โรงงาน โดย 12 โรงงานได้เปิดเดินเครื่องเรียบร้อยแล้ว อีก 70โรงงานกำลังทำความสะอาด คาดว่าจะเปิดเดินเครื่องได้ในไม่ช้า 2.นิคมอุตสาหกรรมบางประอิน ในวันที่ 17พ.ย.จะทำบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ และ 18-19 พ.ย.จะเข้าไปซ่อมแซมระบบไฟฟ้า ประปา และเครื่องจักร คิดว่าจะเปิดดำเนินการได้ภายในวันที่25 พ.ย. 3.นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค วันที่ 30 พ.ย. จะดำเนินการสูบน้ำออกได้ จากนั้นจะเข้าไปตรวจสอบเพื่อเดินเครื่องไป และ4.นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จะสูบน้ำหมดภายในวันที่ 30 พ.ย. และ1ธ.ค.จะเริ่มทำความสะอาด และติดตั้งไฟฟ้า ในส่วนที่มีคราบน้ำมันนั้น จะนำสารเคมีไปกำจัดออก
ส่วนนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนะ นิคมอุตสาหกรรมนวนคร และนิคมบางกระดี ปริมาณน้ำยังสูงอยู่ ต้องรอสักระยะให้น้ำลดกว่าคันดินที่กั้นไว้ ซึ่งจะต้องไปทำคันดินให้แข็งแรงเสียก่อน แล้วจึงจะเริ่มสูบน้ำได้
"เชื่อว่าในช่วงต้นเดือนธันวาคม จะมีหลายโรงงานที่สามารถเปิดเดินเครื่องได้ ยกเว้นโรงงานที่มีเครื่องจักรได้รับความเสียหายมาก อาจจะต้องใช้เวลาซ่อมแซม"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้นิคมอุตสาหรกรรมบางชันยังสามารถรับมืออยู่หรือไม่ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ตอนนี้ยังรับมืออยู่ หากควบคุมปริมาณน้ำไหลเข้า-ออกได้ อย่างไรก็ตาม เรามีความเชื่อมั่นว่าจะรักษานิคมอุตสาหกรรมบางชันและลาดกระบังได้ ทั้งนี้ ขณะนี้ได้นำเครื่องผลักดันน้ำ จากกรมอู่ทหารเรือ ไปติดตั้งที่คลองบางชันเพื่อผลักดันให้ลงคลองแสนแสบเพื่อระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาให้เร็วขึ้น
ส่วนของนิคมฯลาดกระบังยอมรับว่ามีความเป็นห่วงมากกว่าเพราะน้ำได้ประชิดนิคมฯแล้วและยังได้รับรายงานว่าทางทิศตะวันตกน้ำซึมเข้ามาตามกระสอบทรายทำให้ต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ช.ม.ในการที่จะอุดรอยรั่ว
นายโสภณ ผลประสิทธิ์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะประธานคณะทำงานป้องกันและลดผลกระทบจากอุทกภัยในนิคมฯลาดกระบัง กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการนำเครื่องดันน้ำ 1 ตัวมาดันลงคลองหัวตะเข้เพื่อเร่งระบายน้ำ ซึ่งภาพรวมปริมาณน้ำภายนอกฯได้หมดแล้วแต่การระบายน้ำดีขึ้น หากมีการรักษาระดับการปล่อยน้ำมาจากคลอง 8-9-10 ก็จะทำให้สถานการณ์ไม่แย่ลง ด้านชมรมผู้ประกอบการนิคมฯเองเข้ามาทำงานและติดตามภาวะน้ำอย่างใกล้ชิดล่าสุดโรงงานทั้งหมดได้หันกลับมาผลิตเช่นเดิมแล้วหลังจากก่อนหน้าได้หยุดไป 100 แห่งเพราะยังเห็นว่าอยู่ในภาวะที่น่าจะรับมือได้
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากภาวะน้ำที่ท่วมบริเวณถนนเพชรเกษมฝั่งตะวันตกของกทม.ส่งผลให้มีโรงงานสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มรวมถึงอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากสิ่งทอฯ ประสบปัญหาต้องหยุดกิจการชั่วคราวแล้วไม่ต่ำกว่า 500 แห่งและหากน้ำลามไปยังจังหวัดสมุทรสาครคาดว่าจะส่งผลให้โรงงานจำนวนไม่น้อยกว่า100แห่งบริเวณดังกล่าวต้องประสบปัญหาปิดกิจการเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งจะกระทบแรงงานรวมให้ต้องอยู่ในสภาพการว่างงานประมาณ 1-1.5 แสนราย
นายสมมาต ขุนเศษฐ เลขาธิการส.อ.ท.กล่าวว่า ส.อ.ท.ได้เสนอแนวทางช่วยเหลือแรงงานที่ต้องหยุดงานเพราะได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมประมาณ 7-8แสนคนไปยังกระทรวงแรงงานแล้วโดยเสนอให้ใช้เงินกองทุนประกันสังคมกรณีว่างงานมาจ่ายให้พนักงานซึ่งเบื้องต้นทางกระทรวงแรงงานระบุว่าอยู่ระหว่างการเร่งแก้ไขกฏหมายอยู่เนื่องจากระเบียบเดิมจะต้องเป็นผู้ตกงานเท่านั้นแต่ปัญหาน้ำท่วมถือเป็นกรณีพิเศษ.
