ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ส.เพอรานากันร่วมกับ ม.ราชภัฏภูเก็ตดัน “เมืองภูเก็ตเป็นเมืองวัฒนธรรมสร้างสรรค์ด้านอาหารของยูเนสโก” หวังอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวภูเก็ตให้เป็นมรดกสำคัญและเป็นที่รู้จักของโลก
ที่ห้องนนทรี โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต สมาคมเพอรานากันและมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม และเทศบาลนครภูเก็ต จัดการประชุมประชาคมครั้งที่ 1 “การผลักดันเมืองภูเก็ตให้เป็นเมืองวัฒนธรรมสร้างสรรค์ด้านอาหารของยูเนสโก” เพื่ออธิบายและสอบถามความคิดเห็นเบื้องต้น จากผู้ประกอบการด้านอาหารพื้นเมืองภูเก็ต ตลอดจนเพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวภูเก็ตให้เป็นมรดกสำคัญและเป็นที่รู้จักในระดับโลก
ทั้งนี้ มี ผศ.อดุล นาคะโร หัวหน้าคณะศึกษาวิจัย เรื่องเมืองวัฒนธรรมสร้างสรรค์ด้านอาหาร มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต โดยมี นพ.โกศล แตงอุทัย นายกสมาคมเพอรานากัน ตัวแทนจากสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ตัวแทนจากเทศบาลนครภูเก็ต ผู้ประกอบการและผลิตอาหารพื้นเมืองภูเก็ต ตลอดจนผู้สนใจเข้าร่วม
นพ.โกศล แตงอุทัย นายกสมาคมเพอรานากัน กล่าวเสริมว่า จากการศึกษาเบื้องต้น พบว่ายูเนสโกและกระทรวงวัฒนธรรมมีความประสงค์ให้เชื่อมโยงแหล่งกำเนิดวัฒนธรรมอาหารกับความเจริญรุ่งเรืองในอดีตของย่านเมืองเก่าเทศบาลนครภูเก็ตเป็นหลัก เพราะเป็นจุดเริ่มประเพณีวัฒนธรรมของชาวบาบ๋าภูเก็ต ซึ่งเป็นประชากรดั้งเดิมส่วนใหญ่ของจังหวัดภูเก็ต เช่นเดียวกับเมืองเฉิงตู ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเพิ่งได้รับการประกาศไปเมื่อปีที่ผ่านมา
ผศ.อดุล นาคะโร หัวหน้าคณะศึกษาวิจัย เรื่องเมืองวัฒนธรรมสร้างสรรค์ด้านอาหาร มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต กล่าวว่า สืบเนื่องจากสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) กระทรวงวัฒนธรรม ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับเทศบาลนครภูเก็ต เพื่อผลักดันโครงการนำเสนอให้เมืองภูเก็ตเป็นเมืองในเครือข่ายเมืองวัฒนธรรมสร้างสรรค์ด้านอาหารของยูเนสโก ( City of Gastronomy) ซึ่งปัจจุบันได้รับการประกาศไปแล้ว 3 เมือง ได้แก่ เมืองโปปายัน ประเทศโคลัมเบีย เมืองอุสเตอร์ซุน ประเทศสวีเดน และเมืองเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน
การนำเสนอดังกล่าวก็เพื่ออนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่นยกระดับให้เป็นมรดกโลก และยังเป็นการเผยแพร่ชื่อเสียงด้านอาหารท้องถิ่นให้นานาประเทศรับทราบและสนใจเดินทางมาเยี่ยมเยียนภูเก็ตมากขึ้น โดยจะใช้เวลารวบรวมข้อมูลประมาณ 6 เดือน จากนั้นก็จะนำเสนอต่อคณะกรรมการยูเนสโกเพื่อพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตจะทำหน้าที่ในการรวบรวมเอกสาร เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการยูเนสโก ภายใต้การสนับสนุนของสมาคมเพอรานากัน วิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต และเครือข่ายทางวัฒนธรรมในย่านเมืองเก่าเทศบาลนครภูเก็ต พิจารณานำเสนออาหารชาวบาบ๋าภูเก็ตเป็นอาหารหลัก เพราะเป็นอาหารท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวภูเก็ตซึ่งมีรสชาติอร่อย มีชื่อเสียงมานาน ถือกำเนิดและพัฒนาการคู่เมืองภูเก็ตมากว่า 100 ปี เช่น น้ำชุบหยำภูเก็ต หมี่สั่ว หมูฮ้อง โอเอว เม็ดกาหยี เป็นต้น
ควบคู่ไปกับความหลากหลายและอุดมสมบูรณ์ของอาหารนานาชาติที่มีวิวัฒนาการร่วมกัน ได้แก่ อาหารซีฟูดที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ปลาเผา เบือทอด จักจั่นทะเล เป็นต้น รวมถึงอาหารไทยและอาหารมุสลิมด้วย เพื่อทำการเผยแพร่สู่ชาวโลกควบคู่กับแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สวยงาม และการได้เป็นเมืองวัฒนธรรมสร้างสรรค์ด้านอาหารยูเนสโก จึงเป็นการเติมเต็มทรัพยากรการท่องเที่ยวให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ที่ห้องนนทรี โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต สมาคมเพอรานากันและมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม และเทศบาลนครภูเก็ต จัดการประชุมประชาคมครั้งที่ 1 “การผลักดันเมืองภูเก็ตให้เป็นเมืองวัฒนธรรมสร้างสรรค์ด้านอาหารของยูเนสโก” เพื่ออธิบายและสอบถามความคิดเห็นเบื้องต้น จากผู้ประกอบการด้านอาหารพื้นเมืองภูเก็ต ตลอดจนเพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวภูเก็ตให้เป็นมรดกสำคัญและเป็นที่รู้จักในระดับโลก
ทั้งนี้ มี ผศ.อดุล นาคะโร หัวหน้าคณะศึกษาวิจัย เรื่องเมืองวัฒนธรรมสร้างสรรค์ด้านอาหาร มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต โดยมี นพ.โกศล แตงอุทัย นายกสมาคมเพอรานากัน ตัวแทนจากสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ตัวแทนจากเทศบาลนครภูเก็ต ผู้ประกอบการและผลิตอาหารพื้นเมืองภูเก็ต ตลอดจนผู้สนใจเข้าร่วม
นพ.โกศล แตงอุทัย นายกสมาคมเพอรานากัน กล่าวเสริมว่า จากการศึกษาเบื้องต้น พบว่ายูเนสโกและกระทรวงวัฒนธรรมมีความประสงค์ให้เชื่อมโยงแหล่งกำเนิดวัฒนธรรมอาหารกับความเจริญรุ่งเรืองในอดีตของย่านเมืองเก่าเทศบาลนครภูเก็ตเป็นหลัก เพราะเป็นจุดเริ่มประเพณีวัฒนธรรมของชาวบาบ๋าภูเก็ต ซึ่งเป็นประชากรดั้งเดิมส่วนใหญ่ของจังหวัดภูเก็ต เช่นเดียวกับเมืองเฉิงตู ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเพิ่งได้รับการประกาศไปเมื่อปีที่ผ่านมา
ผศ.อดุล นาคะโร หัวหน้าคณะศึกษาวิจัย เรื่องเมืองวัฒนธรรมสร้างสรรค์ด้านอาหาร มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต กล่าวว่า สืบเนื่องจากสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) กระทรวงวัฒนธรรม ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับเทศบาลนครภูเก็ต เพื่อผลักดันโครงการนำเสนอให้เมืองภูเก็ตเป็นเมืองในเครือข่ายเมืองวัฒนธรรมสร้างสรรค์ด้านอาหารของยูเนสโก ( City of Gastronomy) ซึ่งปัจจุบันได้รับการประกาศไปแล้ว 3 เมือง ได้แก่ เมืองโปปายัน ประเทศโคลัมเบีย เมืองอุสเตอร์ซุน ประเทศสวีเดน และเมืองเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน
การนำเสนอดังกล่าวก็เพื่ออนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่นยกระดับให้เป็นมรดกโลก และยังเป็นการเผยแพร่ชื่อเสียงด้านอาหารท้องถิ่นให้นานาประเทศรับทราบและสนใจเดินทางมาเยี่ยมเยียนภูเก็ตมากขึ้น โดยจะใช้เวลารวบรวมข้อมูลประมาณ 6 เดือน จากนั้นก็จะนำเสนอต่อคณะกรรมการยูเนสโกเพื่อพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตจะทำหน้าที่ในการรวบรวมเอกสาร เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการยูเนสโก ภายใต้การสนับสนุนของสมาคมเพอรานากัน วิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต และเครือข่ายทางวัฒนธรรมในย่านเมืองเก่าเทศบาลนครภูเก็ต พิจารณานำเสนออาหารชาวบาบ๋าภูเก็ตเป็นอาหารหลัก เพราะเป็นอาหารท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวภูเก็ตซึ่งมีรสชาติอร่อย มีชื่อเสียงมานาน ถือกำเนิดและพัฒนาการคู่เมืองภูเก็ตมากว่า 100 ปี เช่น น้ำชุบหยำภูเก็ต หมี่สั่ว หมูฮ้อง โอเอว เม็ดกาหยี เป็นต้น
ควบคู่ไปกับความหลากหลายและอุดมสมบูรณ์ของอาหารนานาชาติที่มีวิวัฒนาการร่วมกัน ได้แก่ อาหารซีฟูดที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ปลาเผา เบือทอด จักจั่นทะเล เป็นต้น รวมถึงอาหารไทยและอาหารมุสลิมด้วย เพื่อทำการเผยแพร่สู่ชาวโลกควบคู่กับแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สวยงาม และการได้เป็นเมืองวัฒนธรรมสร้างสรรค์ด้านอาหารยูเนสโก จึงเป็นการเติมเต็มทรัพยากรการท่องเที่ยวให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น