วานนี้ ( 4 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในภาพรวมว่า แนวน้ำรุกคืบมาเรื่อยๆ ขณะที่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องมวลน้ำทางเหนือ จึงขอให้รัฐบาลทำความเข้าใจกับประชาชน และเตือนให้ประชาชนอยู่ในความพร้อม ไม่ควรพูดว่า พื้นที่ใดจะปลอดภัย 100 เปอร์เซนต์ และต้องติดตามถึงผลจากการนำบิ๊กแบ๊กไปเป็นคันกั้นน้ำ ซึ่งทางรัฐบาลหวังว่าจะชะลอน้ำเหนือไม่ให้ไหลบ่าเข้าท่วม กทม.ชั้นใน ว่าจะได้ผลหรือไม่ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากการใช้บิ๊กแบ๊ก คือ น้ำจะถูกผลักไปทาง กรุงเทพฝั่งตะวันตกมากขึ้น ซึ่งประชาชนจะได้รับผลกระทบเกี่ยวกับปัญหาน้ำท่วมนานขึ้น จึงต้องสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชน ที่อยู่ด้านหลังบิ๊กแบ๊กด้วย
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนได้ประสานไปยัง กทม. เกี่ยวกับการผลักน้ำทางตะวันตก ซึ่งการระบายน้ำทำได้ยากว่า มีวิธีการระบายน้ำอย่างไร และเห็นว่ามีความจำเป็นที่ต้องเร่งดำเนินการให้การระบายน้ำเกิดความสมดุลในฝั่งตะวันออกด้วย แต่ก็ติดปัญหาเรื่องความขัดแย้งของมวลชน ทำให้การระบายน้ำในฝั่งตะวันออกยังทำได้ไม่เต็มที่ โดยยกตัวอย่างกรณีคลองสามวา ที่รัฐบาลต้องตามแก้ปัญหาที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้สร้างขึ้น
นายอภิสิทธิ์ ยังขอให้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพในการประสานกับทุกหน่วยงาน เพื่อให้การทำงานมีเอกภาพ หากมีปัญหาว่าหน่วยงานไหนยังมีความเห็นไม่ตรงกัน ก็ต้องทำความเข้าใจ เช่น กรณีที่กทม.ขอเครื่องสูบน้ำจากกรมชลประทาน แต่ไม่ได้รับ โดยกรมชลประทานอ้างว่าไม่มีหนังสือจากกทม. ถึงกรมชลประทาน ทั้งๆ ที่กทม.ได้ส่งหนังสือไปที่ ศปภ.แล้ว สิ่งเหล่านี้ต้องเร่งแก้ไข รวมทั้งการประสานงานระหว่าง กทม.กับกรมชลประทาน เกี่ยวกับการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการระบายน้ำมากขึ้นด้วย ซึ่งจนถึงขณะนี้การแก้ปัญหาของ ศปภ. ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่ามาถูกทางหรือยัง เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จนทำให้ประชาชนไม่ทราบสถานการณ์ที่แท้จริง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ตนมีความเป็นห่วงเส้นทางคมนาคมใน กทม. ที่จะถูกตัดขาดมากขึ้น โดยเฉพาะพระราม 2 ซึ่งเป็นถนนสายหลักสายสุดท้ายที่เหลืออยู่ ซึ่งรัฐบาลต้องเตรียม แนวทางรับมือล่วงหน้า ว่า หากถนนเส้นนี้ถูกตัดขาดไป ระบบการกระจายสินค้า และการเดินทางของประชาชน จะทำอย่างไร
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์น้ำที่รุกเข้าพื้นที่กทม.ชั้นในว่า คาดว่าน้ำจะไหลไปรวมกันที่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งจะส่งผลทำให้ กทม.เขตชั้นในมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ตนได้ตรวจสอบเกี่ยวกับระบบการบริการของสถาบันการเงิน ที่สำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ โดยเจ้าหน้าที่ของธนาคารยืนยันว่า มีการเตรียมพร้อมอย่างดี ซึ่งปัญหาน้ำท่วม จะไม่กระทบต่อการให้บริการกับประชาชน
ส่วนการให้บริการของรถไฟใต้ดิน ที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประไเทศไทย หรือ รฟม. ซึ่งได้รับคำยืนยันจากผู้บริหารว่า มีมาตรการป้องกันผลกระทบจากน้ำท่วมไว้แล้ว โดยได้เตรียมการปิดกั้นทางเข้าของน้ำ 5 ด้านไว้แล้ว และโครงส้างของสถานีรถไฟใต้ดิน ได้ออกแบบให้สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2 เมตร
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนได้ประสานไปยัง กทม. เกี่ยวกับการผลักน้ำทางตะวันตก ซึ่งการระบายน้ำทำได้ยากว่า มีวิธีการระบายน้ำอย่างไร และเห็นว่ามีความจำเป็นที่ต้องเร่งดำเนินการให้การระบายน้ำเกิดความสมดุลในฝั่งตะวันออกด้วย แต่ก็ติดปัญหาเรื่องความขัดแย้งของมวลชน ทำให้การระบายน้ำในฝั่งตะวันออกยังทำได้ไม่เต็มที่ โดยยกตัวอย่างกรณีคลองสามวา ที่รัฐบาลต้องตามแก้ปัญหาที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้สร้างขึ้น
นายอภิสิทธิ์ ยังขอให้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพในการประสานกับทุกหน่วยงาน เพื่อให้การทำงานมีเอกภาพ หากมีปัญหาว่าหน่วยงานไหนยังมีความเห็นไม่ตรงกัน ก็ต้องทำความเข้าใจ เช่น กรณีที่กทม.ขอเครื่องสูบน้ำจากกรมชลประทาน แต่ไม่ได้รับ โดยกรมชลประทานอ้างว่าไม่มีหนังสือจากกทม. ถึงกรมชลประทาน ทั้งๆ ที่กทม.ได้ส่งหนังสือไปที่ ศปภ.แล้ว สิ่งเหล่านี้ต้องเร่งแก้ไข รวมทั้งการประสานงานระหว่าง กทม.กับกรมชลประทาน เกี่ยวกับการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการระบายน้ำมากขึ้นด้วย ซึ่งจนถึงขณะนี้การแก้ปัญหาของ ศปภ. ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่ามาถูกทางหรือยัง เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จนทำให้ประชาชนไม่ทราบสถานการณ์ที่แท้จริง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ตนมีความเป็นห่วงเส้นทางคมนาคมใน กทม. ที่จะถูกตัดขาดมากขึ้น โดยเฉพาะพระราม 2 ซึ่งเป็นถนนสายหลักสายสุดท้ายที่เหลืออยู่ ซึ่งรัฐบาลต้องเตรียม แนวทางรับมือล่วงหน้า ว่า หากถนนเส้นนี้ถูกตัดขาดไป ระบบการกระจายสินค้า และการเดินทางของประชาชน จะทำอย่างไร
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์น้ำที่รุกเข้าพื้นที่กทม.ชั้นในว่า คาดว่าน้ำจะไหลไปรวมกันที่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งจะส่งผลทำให้ กทม.เขตชั้นในมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ตนได้ตรวจสอบเกี่ยวกับระบบการบริการของสถาบันการเงิน ที่สำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ โดยเจ้าหน้าที่ของธนาคารยืนยันว่า มีการเตรียมพร้อมอย่างดี ซึ่งปัญหาน้ำท่วม จะไม่กระทบต่อการให้บริการกับประชาชน
ส่วนการให้บริการของรถไฟใต้ดิน ที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประไเทศไทย หรือ รฟม. ซึ่งได้รับคำยืนยันจากผู้บริหารว่า มีมาตรการป้องกันผลกระทบจากน้ำท่วมไว้แล้ว โดยได้เตรียมการปิดกั้นทางเข้าของน้ำ 5 ด้านไว้แล้ว และโครงส้างของสถานีรถไฟใต้ดิน ได้ออกแบบให้สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2 เมตร