เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - เครื่องตรวจสแกนสัมภาระเกือบ 300 เครื่องที่สถานีรถไฟใต้ดินเซินเจิ้นที่ติดตั้งในเดือนมิ.ย.พบว่าผิดมาตรฐานตามกฎหมายจำกัดการปล่อยรังสีของจีน แถมเสี่ยงต่อการก่อโรงมะเร็งในเด็กและสตรีมีครรภ์ที่อ่อนไหวกับรังสีเป็นพิเศษ
เครื่องสแกนจำนวน 286 เครื่องมีมูลค่า 120 ล้านหยวน มีหน้าที่ช่วยตรวจรักษาความปลอดภัย ครั้งเซินเจิ้นเป็นเจ้าภาพจัดงานกีฬามหาวิทยาลัยโลกเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา และตั้งแต่ติดตั้งก็มีคนเซินเจิ้นคนฮ่องกงและอีกหลายคนเดินผ่านเจ้าเครื่องสแกนนี้รวม ๆ แล้วก็หลายล้านคนทีเดียว
สำนักข่าวเซาท์เทิร์นเมโทรโปลิสเผย เครื่องสแกนเหล่านี้ยังไม่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายจากหน่วยงานด้านพิทักษ์สิ่งแวดล้อมของมณฑลหรือได้รับการตรวจสอบด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมใด ๆ นอกจากนั้นคณะกรรมการด้านสิ่งแวดล้อมและที่อยู่อาศัยเซินเจิ้นซึ่งเป็นหน่วยงานจัดการสิ่งแวดล้อมการอยู่อาศัยของประชาชนเซินเจิ้นก็ออกมาเผยว่า “เครื่องสแกนเหล่านี้ผิดกฎหมาย”
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯ เผย (10 ต.ค.) ว่า ไม่สามารถแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องเครื่องสแกนผิดกฎหมายได้
ขณะที่เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการฯ คนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับเซาท์เทิร์นเมโทรโปลิสว่า “ปริมาณรังสีที่ออกมาจากเครื่องสแกนนั้นใกล้เคียงกับระดับมาตรฐานที่หน่วยงานตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อมแห่งชาติกำหนด นั่นหมายความว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องรับใบอนุญาตด้านความปลอดภัยเรื่องรังสี”
แต่... เมื่อมีการตรวจสอบโดยคณะกรรมการฯชุดเดียวกันจับมือกับหนังสือพิมพ์เซาท์เทิร์นฯ พบว่า รังสีที่ออกมากับเครื่องสแกนประตูเข้าออกที่ 2 สถานีรถไฟใต้ดินเซินเจิ้น ได้แก่ สถานีซั่งเหม่ยหลิน และสถานีจิ่งเถียนปล่อยรังสีออกมากว่า 1 ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมง ซึ่งเกินระดับปริมาณรังสีที่ทางการอนุญาต
ดร. อีวาน หวัง เย่าจง สมาชิกสภาวิทยาลัยรังสีวิทยาฮ่องกง เผยว่า “ขณะนี้กำลังมีการตรวจสอบปริมาณรังสีจากเครื่องสแกน แต่ก็มีความกังวลอย่างยิ่งโดยเฉพาะเด็กและสตรีมีครรภ์ซึ่งอ่อนไหวต่อรังสีเป็นพิเศษ เกรงว่าอาจได้รับผลกระทบซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งได้”