ASTVผู้จัดการรายวัน - "เซ็นทรัลโฮมฯ" เผยน้ำท่วมกระทบการตัดสินใจซื้อบ้าน แต่ยังมีความต้องการซื้ออยู่ คาดราคาบ้านมีแนวโน้มลดลง ส่วนจำนวนบ้านมือสองปี 55 เพิ่มขึ้นกว่า 10% ชี้เป็นโอกาสที่ดีในการเลือกและเปรียบเทียบทำเล เตรียมคัดบ้านมือสองโซนน้ำไม่ท่วมกว่า 300 ยูนิตและโครงการบ้านใหม่รองรับลูกค้า
นางสาวคัทลียา ภัทรจินดานุวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซ็นทรัล โฮม พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลว่า มีผลต่อการดำเนินธุรกิจต่าง ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะเขตที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมซึ่งทำให้สภาพสังคมย่ำแย่ คนส่วนใหญ่จึงไม่ต้องการจับจ่ายใช้สอย หากสถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้รับการคลี่คลายโดยเร็ว เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมมากกว่าที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ย่อมได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมด้วยเช่นกัน เนื่องจากผู้บริโภคมีความวิตกกังวลและตกใจกับปัญหาดังกล่าว ผู้บริโภคส่วนใหญ่อาจกลายเป็นผู้อพยพหรือเดินทางออกไปอยู่ในต่างจังหวัด จึงทำให้การตัดสินใจซื้อบ้านในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ต้องชะลอออกไป
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ายังมีกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการซื้อบ้านอยู่ โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ รวมทั้งกลุ่มที่ต้องการซื้อบ้านหลังใหม่สำหรับรองรับครอบครัวที่ขยายใหญ่ขึ้นและถือเป็นโอกาสที่ดีเพราะจะมีโอกาสเลือกและศึกษาว่าทำเลใดบ้างได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม รวมทั้งมีโอกาสค้นหาทำเลที่ปลอดภัยหรือได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
เพื่อเป็นการตอบรับลูกค้ากลุ่มดังลก่าว เซ็นทรัลโฮม พร็อพเพอร์ตี้ ได้เตรียมคัดเลือกบ้านมือสองทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์ และอาคารพาณิชย์ ในทำเลที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม ไว้รองรับความต้องการของลูกค้าจำนวนกว่า 300 ยูนิต นอกจากนี้แล้วยังได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการจัดสรรหลายแห่งที่จะให้เข้าไปบริหารการขาย เนื่องจากหลังน้ำลดลูกค้าจะให้ความสนใจเลือกซื้อบ้านจากโครงการที่ไม่ได้ผลกระทบจากน้ำท่วม
“โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าปัญหาน้ำท่วมจะไม่ยืดเยื้อมากนัก และหลังจากที่ปัญหานี้จบลงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจะต้องเร่งฟื้นฟู และเร่งสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมาอย่างแน่นอน ทั้งนี้ เชื่อว่าผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากการจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะกลยุทธ์ด้านราคาน่าจะถูกนำมาใช้มากเป็นพิเศษ เพราะทำเลที่ได้รับผลทระทบต่อภัยน้ำท่วมน่าจะมีผลต่อราคาบ้างเล็กน้อย ดังนั้น บ้านที่กำลังประกาศขายอยู่อาจต้องปรับลดราคาลง เพื่อกระตุ้นให้เกิดความสนใจจากลูกค้า” นางสาวคัทลียากล่าว
ผลจากปัญหาน้ำท่วมน่าจะทำให้จำนวนบ้านมือสองในปี 2555 เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10% เนื่องจากในช่วงที่กำลังหนีน้ำอยู่นี้เชื่อว่าจะมีเจ้าของบ้านจำนวนไม่น้อยมีความคิดที่จะย้ายบ้าน ดังนั้น จะเป็นโอกาสของนายหน้ามืออาชีพที่จะต้องรับมือกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนบ้านมือสองในโซนน้ำท่วม
นางสาวคัทลียา ภัทรจินดานุวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซ็นทรัล โฮม พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลว่า มีผลต่อการดำเนินธุรกิจต่าง ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะเขตที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมซึ่งทำให้สภาพสังคมย่ำแย่ คนส่วนใหญ่จึงไม่ต้องการจับจ่ายใช้สอย หากสถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้รับการคลี่คลายโดยเร็ว เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมมากกว่าที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ย่อมได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมด้วยเช่นกัน เนื่องจากผู้บริโภคมีความวิตกกังวลและตกใจกับปัญหาดังกล่าว ผู้บริโภคส่วนใหญ่อาจกลายเป็นผู้อพยพหรือเดินทางออกไปอยู่ในต่างจังหวัด จึงทำให้การตัดสินใจซื้อบ้านในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ต้องชะลอออกไป
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ายังมีกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการซื้อบ้านอยู่ โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ รวมทั้งกลุ่มที่ต้องการซื้อบ้านหลังใหม่สำหรับรองรับครอบครัวที่ขยายใหญ่ขึ้นและถือเป็นโอกาสที่ดีเพราะจะมีโอกาสเลือกและศึกษาว่าทำเลใดบ้างได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม รวมทั้งมีโอกาสค้นหาทำเลที่ปลอดภัยหรือได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
เพื่อเป็นการตอบรับลูกค้ากลุ่มดังลก่าว เซ็นทรัลโฮม พร็อพเพอร์ตี้ ได้เตรียมคัดเลือกบ้านมือสองทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์ และอาคารพาณิชย์ ในทำเลที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม ไว้รองรับความต้องการของลูกค้าจำนวนกว่า 300 ยูนิต นอกจากนี้แล้วยังได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการจัดสรรหลายแห่งที่จะให้เข้าไปบริหารการขาย เนื่องจากหลังน้ำลดลูกค้าจะให้ความสนใจเลือกซื้อบ้านจากโครงการที่ไม่ได้ผลกระทบจากน้ำท่วม
“โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าปัญหาน้ำท่วมจะไม่ยืดเยื้อมากนัก และหลังจากที่ปัญหานี้จบลงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจะต้องเร่งฟื้นฟู และเร่งสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมาอย่างแน่นอน ทั้งนี้ เชื่อว่าผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากการจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะกลยุทธ์ด้านราคาน่าจะถูกนำมาใช้มากเป็นพิเศษ เพราะทำเลที่ได้รับผลทระทบต่อภัยน้ำท่วมน่าจะมีผลต่อราคาบ้างเล็กน้อย ดังนั้น บ้านที่กำลังประกาศขายอยู่อาจต้องปรับลดราคาลง เพื่อกระตุ้นให้เกิดความสนใจจากลูกค้า” นางสาวคัทลียากล่าว
ผลจากปัญหาน้ำท่วมน่าจะทำให้จำนวนบ้านมือสองในปี 2555 เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10% เนื่องจากในช่วงที่กำลังหนีน้ำอยู่นี้เชื่อว่าจะมีเจ้าของบ้านจำนวนไม่น้อยมีความคิดที่จะย้ายบ้าน ดังนั้น จะเป็นโอกาสของนายหน้ามืออาชีพที่จะต้องรับมือกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนบ้านมือสองในโซนน้ำท่วม