รอยเตอร์ - พายุหิมะหลงฤดูถล่มชายฝั่งด้านตะวันออกของอเมริกาเมื่อวันเสาร์ (29) ทำให้ครอบครัวกว่า 2 ล้านหลังคาเรือนไม่มีไฟใช้ เที่ยวบินมากมายถูกระงับ และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 ราย ทั้งมลรัฐนิวยอร์ก นิวเจอร์ซีย์ และคอนเนตทิคัตประกาศภาวะฉุกเฉินจากสภาพอากาศแล้ว ขณะที่ อลัน เรปเพิร์ต นักอุตุนิยมวิทยาอาวุโสจาก AccuWeather.com คาดว่าจะมีหิมะตกจากนิวยอร์กไปจนถึงมลรัฐเมน
สกอตต์ เดวิโก โฆษกกระทรวงการบริหารจัดการสภาวะฉุกเฉินของคอนเนตทิคัต ระบุว่าสภาพถนนลื่นทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนและมีผู้เสียชีวิต 1 รายในโคลเชสเตอร์ นอกจากนั้นมีรายงานว่า ที่เทมเพิล มลรัฐเพนซิลเวเนีย ชายวัย 84 ปี เสียชีวิตเนื่องจากต้นไม้ล้มทับบ้าน และชายหนุ่มวัย 20 ปีในสปริงฟิลด์ มลรัฐแมสซาชูเซตส์ เสียชีวิตจากไฟฟ้าช็อต หลังลงจากรถและสัมผัสแผงกั้นถนนที่มีกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่าน
รายงานข่าวระบุว่า มีหิมะตกจากกลางมลรัฐเพนซิลเวเนียเรื่อยมายังแมสซาชูเซตส์ หลังจากโปรยปรายหลายพื้นที่ในมลรัฐเวอร์จิเนีย เวสต์เวอร์จิเนีย และแมริแลนด์ช่วงเช้าวันเสาร์
แม้หิมะตกในเดือนตุลาคมไม่ใช่เหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ครั้งนี้อาจทำลายสถิติในแง่ปริมาณของหิมะที่ตกลงมาซึ่งเคยทำไว้ในปี 1925 ที่เซนทรัลพาร์กของนิวยอร์ก โดย AccuWeather.com คาดว่านิวยอร์กซิตี้จะมีปริมาณหิมะทับถมสูง 3-6 นิ้ว (7.5-15 เซนติเมตร) ก่อนที่พายุจะเบาลงในคืนวันเสาร์
นอกจากนี้ ยังมีหิมะตกในกรุงวอชิงตัน ขณะที่ หิมะ น้ำแข็ง และต้นไม้ที่ล้ม ยังทำให้ไฟฟ้าดับกระจายไปทั่วตั้งแต่มิดแอตแลนติกจนถึงนิวอิงแลนด์ ทำให้คนนับล้านต้องอยู่ในความมืดมิด โดยในบางพื้นที่นั้นไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างกว่าเมื่อครั้งพายุเฮอร์ริเคนไอรีนถล่ม ที่ทำให้ประชาชน 5 ล้านคนในแถบอีสต์โคสต์ไม่มีไฟฟ้าใช้ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน สนามบินนานาชาติฟิลาเดลเฟียและสนามบินอีกหลายแห่งในนิวยอร์กต้องระงับเที่ยวบินอย่างน้อย 1,000 เที่ยว และสนามบินทีเทอร์โบโรปิดให้บริการชั่วคราว
ที่คอนเนตทิคัต ผู้ว่าการมลรัฐ แดนเนล มัลลอย สั่งเคลื่อนย้ายรถออกจากถนนหลายสายในวิลเบอร์ครอสส์และเมอร์ริตต์ เนื่องจากสภาพถนนอันตรายต่อการขับขี่
**บททดสอบ “ขบวนการยึดวอลล์สตรีท”**
ที่นครนิวยอร์ก หิมะและอากาศหนาวเย็นเป็นโจทย์ทดสอบสำหรับสมาชิกขบวนการยึดวอลล์สตรีทที่มารวมตัวกันเพื่อประท้วงความไม่เท่าเทียมของเศรษฐกิจ
ผู้ประท้วงหลบกระแสลมแรงและหิมะอยู่ในเต็นท์ในสวนสาธารณะในย่านการเงินของแมตฮัตตัน ที่ซึ่งขบวนการยึดวอลล์สตรีทเริ่มตั้งแคมป์ครั้งแรกเมื่อ 6 สัปดาห์ที่แล้ว และชักนำกระแสต่อต้านในลักษณะเดียวกันในเมืองต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ และทั่วโลก
พายุหิมะครั้งนี้เกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่แผนกดับเพลิงนิวยอร์กยึดเครื่องปั่นไฟที่ใช้สำหรับทำความร้อน ตลอดจนจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์หุงหาอาหารในโรงครัวของขบวนการฯ โดยอ้างเหตุผลด้านความปลอดภัย
กระนั้น ในบางพื้นที่ดูจะตื่นเต้นดีใจกับหิมะที่โปรยปรายลงมามากกว่าหวั่นวิตก
หน่วยงานพยากรณ์อากาศหลายแห่งคาดว่า ฮาร์ตฟอร์ด รัฐคอนเนตทิคัต, อัลเลนทาวน์ รัฐเพนซิลเวเนีย และวอร์เชสเตอร์ รัฐแมสซาชูเซตส์ และอีกหลายเมือง จะถูกหิมะปกคลุมสูง 1 ฟุต (30 เซนติเมตร)
ปกติแล้ว เมืองต่างๆ ในย่านอีสต์โคสต์ ซึ่งรวมถึงบอสตันและนิวยอร์ก จะได้เห็นหิมะตกที่สามารถวัดได้ครั้งแรกในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนยาวไปจนถึงกลางเดือนธันวาคม
ทั้งนี้ มีการพยากรณ์ว่าบริเวณฝั่งตะวันออกจะเผชิญกระแสลมกรรโชกแรงความเร็ว 45 ไมล์ (72 กิโลเมตร) ต่อชั่วโมง ทำให้มีสายไฟและกิ่งก้านต้นไม้ร่วงหล่นมากขึ้น
สกอตต์ เดวิโก โฆษกกระทรวงการบริหารจัดการสภาวะฉุกเฉินของคอนเนตทิคัต ระบุว่าสภาพถนนลื่นทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนและมีผู้เสียชีวิต 1 รายในโคลเชสเตอร์ นอกจากนั้นมีรายงานว่า ที่เทมเพิล มลรัฐเพนซิลเวเนีย ชายวัย 84 ปี เสียชีวิตเนื่องจากต้นไม้ล้มทับบ้าน และชายหนุ่มวัย 20 ปีในสปริงฟิลด์ มลรัฐแมสซาชูเซตส์ เสียชีวิตจากไฟฟ้าช็อต หลังลงจากรถและสัมผัสแผงกั้นถนนที่มีกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่าน
รายงานข่าวระบุว่า มีหิมะตกจากกลางมลรัฐเพนซิลเวเนียเรื่อยมายังแมสซาชูเซตส์ หลังจากโปรยปรายหลายพื้นที่ในมลรัฐเวอร์จิเนีย เวสต์เวอร์จิเนีย และแมริแลนด์ช่วงเช้าวันเสาร์
แม้หิมะตกในเดือนตุลาคมไม่ใช่เหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ครั้งนี้อาจทำลายสถิติในแง่ปริมาณของหิมะที่ตกลงมาซึ่งเคยทำไว้ในปี 1925 ที่เซนทรัลพาร์กของนิวยอร์ก โดย AccuWeather.com คาดว่านิวยอร์กซิตี้จะมีปริมาณหิมะทับถมสูง 3-6 นิ้ว (7.5-15 เซนติเมตร) ก่อนที่พายุจะเบาลงในคืนวันเสาร์
นอกจากนี้ ยังมีหิมะตกในกรุงวอชิงตัน ขณะที่ หิมะ น้ำแข็ง และต้นไม้ที่ล้ม ยังทำให้ไฟฟ้าดับกระจายไปทั่วตั้งแต่มิดแอตแลนติกจนถึงนิวอิงแลนด์ ทำให้คนนับล้านต้องอยู่ในความมืดมิด โดยในบางพื้นที่นั้นไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างกว่าเมื่อครั้งพายุเฮอร์ริเคนไอรีนถล่ม ที่ทำให้ประชาชน 5 ล้านคนในแถบอีสต์โคสต์ไม่มีไฟฟ้าใช้ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน สนามบินนานาชาติฟิลาเดลเฟียและสนามบินอีกหลายแห่งในนิวยอร์กต้องระงับเที่ยวบินอย่างน้อย 1,000 เที่ยว และสนามบินทีเทอร์โบโรปิดให้บริการชั่วคราว
ที่คอนเนตทิคัต ผู้ว่าการมลรัฐ แดนเนล มัลลอย สั่งเคลื่อนย้ายรถออกจากถนนหลายสายในวิลเบอร์ครอสส์และเมอร์ริตต์ เนื่องจากสภาพถนนอันตรายต่อการขับขี่
**บททดสอบ “ขบวนการยึดวอลล์สตรีท”**
ที่นครนิวยอร์ก หิมะและอากาศหนาวเย็นเป็นโจทย์ทดสอบสำหรับสมาชิกขบวนการยึดวอลล์สตรีทที่มารวมตัวกันเพื่อประท้วงความไม่เท่าเทียมของเศรษฐกิจ
ผู้ประท้วงหลบกระแสลมแรงและหิมะอยู่ในเต็นท์ในสวนสาธารณะในย่านการเงินของแมตฮัตตัน ที่ซึ่งขบวนการยึดวอลล์สตรีทเริ่มตั้งแคมป์ครั้งแรกเมื่อ 6 สัปดาห์ที่แล้ว และชักนำกระแสต่อต้านในลักษณะเดียวกันในเมืองต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ และทั่วโลก
พายุหิมะครั้งนี้เกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่แผนกดับเพลิงนิวยอร์กยึดเครื่องปั่นไฟที่ใช้สำหรับทำความร้อน ตลอดจนจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์หุงหาอาหารในโรงครัวของขบวนการฯ โดยอ้างเหตุผลด้านความปลอดภัย
กระนั้น ในบางพื้นที่ดูจะตื่นเต้นดีใจกับหิมะที่โปรยปรายลงมามากกว่าหวั่นวิตก
หน่วยงานพยากรณ์อากาศหลายแห่งคาดว่า ฮาร์ตฟอร์ด รัฐคอนเนตทิคัต, อัลเลนทาวน์ รัฐเพนซิลเวเนีย และวอร์เชสเตอร์ รัฐแมสซาชูเซตส์ และอีกหลายเมือง จะถูกหิมะปกคลุมสูง 1 ฟุต (30 เซนติเมตร)
ปกติแล้ว เมืองต่างๆ ในย่านอีสต์โคสต์ ซึ่งรวมถึงบอสตันและนิวยอร์ก จะได้เห็นหิมะตกที่สามารถวัดได้ครั้งแรกในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนยาวไปจนถึงกลางเดือนธันวาคม
ทั้งนี้ มีการพยากรณ์ว่าบริเวณฝั่งตะวันออกจะเผชิญกระแสลมกรรโชกแรงความเร็ว 45 ไมล์ (72 กิโลเมตร) ต่อชั่วโมง ทำให้มีสายไฟและกิ่งก้านต้นไม้ร่วงหล่นมากขึ้น