ศูนย์ข่าวภูมิภาค - พื้นที่ภาคอีสานยังวิกฤต กาฬสินธุ์-อุบลฯจมน้ำนานกว่า 4 สัปดาห์แล้วจนเกิดอาการเครียด ด้านธุรกิจขนส่งสินค้าภาคอีสานได้รับผลกระทบหนักจากพิษน้ำท่วมกรุงเทพฯและปริมณฑล ต้องหยุดกิจการโดยไม่มีกำหนด ขณะที่ยังมีรถบรรทุกและสินค้าตกค้างอยู่ที่กรุงเทพฯอีกเพียบ ขณะที่ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ประกาศปิดสนามบินยาวถึง 10 พ.ย.สนามบินดอนเมืองถูกน้ำท่วมหนัก
วานนี้ (27 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งสินค้าที่ จ.บุรีรัมย์ ได้รับผลกระทบหนักจากปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล ทำให้ต้องหยุดกิจการขนส่งสินค้าออกไปโดยไม่มีกำหนด เนื่องจากไม่สามารถรับและส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้ ซึ่งขณะนี้มีรถบรรทุกและสินค้าของลูกค้าที่มาใช้บริการตกค้างอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นจำนวนมาก
จากผลกระทบดังกล่าวหลายบริษัทจึงได้ประกาศงดรับส่งสินค้าออกไปโดยไม่มีกำหนด เนื่องจากเกรงว่าสินค้าสิ่งของที่ลูกค้าจะถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนส่ง 7 บริษัท มีรถบรรทุกขนส่งสินค้ารวมกว่า 200 คัน ประสบปัญหาขาดรายได้ไปวันละนับแสนบาทต่อราย และต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในบริษัท ทั้งค่าจ้างลูกจ้าง และพนักงานขับรถต่อไปจนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพฯและเขตปริมณฑลจะเข้าสู่สภาวะปกติ
จึงเรียกร้องให้รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่ขยายเป็นวงกว้างสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจอยู่ในขณะนี้ ให้กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว
นายสมคิด กิ่งกรดกลาง ปฏิคมสมาคมผู้ประกอบการขนส่งสินค้าภาคอีสาน และเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีรัมย์พนมรุ้งขนส่ง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประกอบธุรกิจขนส่งสินค้าในภาคอีสาน ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑลอย่างหนัก เพราะส่วนมากศูนย์กลางการรับฝากส่งสินค้าอยู่ในกรุงเทพฯ ถึงแม้ทางสมาคมฯจะมีการหารือพูดคุยกันมาแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาผลกระทบจากวิกฤตน้ำท่วมดังกล่าวได้จำเป็นต้องยอมรับปัญหาที่เกิดขึ้นไปจนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะลดลงเพราะขณะนี้หลายบริษัทได้รับความเสียหายทั้งรายได้และต้องสูญเสียลูกค้าขาประจำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
**ท่าอากาศยานบุรีรัมย์หยุดบินถึง10พ.ย.
ด้านนายสมหมาย ไชยนิจ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานบุรีรัมย์ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาแจ้งประชาชน นักธุรกิจ และผู้ที่เดินทางโดยสารการบินที่มาใช้บริการที่ท่าอากาศยานกับสายการบินนกแอร์ว่า ทางท่าอากาศยานบุรีรัมย์ได้งดให้บริการเที่ยวบินบุรีรัมย์-ไปกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันนี้ (28ต.ค.)เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 10 พ.ย.54 เนื่องจากน้ำได้เอ่อท่วมขังรันเวย์ของท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งเป็นฐานการบินของสายการบินนกแอร์ ขณะนี้ไม่สามารถนำเครื่องบินลงจอดได้
โดยเครื่องบินของบริษัทนกแอร์ที่ได้มาให้บริการเปิดไฟท์บินที่บุรีรัมย์สัปดาห์ละ 2 วัน คือ วันศุกร์และวันอาทิตย์ โดยเดินทางจากกุรงเทพฯเวลา 15.00 น.ถึงบุรีรัมย์ เวลา 16.05 น.เที่ยวกลับออกจาก จ.บุรีรัมย์เวลา 16.35 น.ถึงท่าอากาศยานดอนเมืองเวลา 17.40 น.หรือถ้าหากระดับน้ำยังท่วมสูง และยังไม่เข้าสู่สภาวะปกติ ทางสายการบินก็ต้องเลื่อนการเปิดไฟท์บินออกไปโดยไม่มีกำหนด ซึ่งท่าอาศยานบุรีรัมย์จะแจ้งให้ผู้ที่จะมาใช้บริการได้ทราบอีกครั้ง จึงขอให้ผู้ใช้บริการได้หันไปใช้บริการรถขนส่งผู้โดยสารแทนชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์น้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติ
"การหยุดให้บริการครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการสายการบิน นักธุกิจ และประชาชนที่ต้องการเดินทางโดยทางอากาศ เพื่อเดินทางไปต่างจังหวัด ติดต่อราชการ และเดินทางติดต่องานด้านธุรกิจเป็นอย่างมาก จึงขออภัยในความสะดวกในครั้งนี้ด้วย และเชื่อว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะเข้าสู่สภาวะปกติ และจะสามารถเปิดไฟท์บินบริการประชาชนได้ตามปกติในไม่ช้านี้ เพราะหลายฝ่ายกำลังเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา"
**อุบลฯวิกฤตผู้ว่าฯขึ้นฮ.สำรวจน้ำท่วม
ที่ จ.อุบลราชธานี นายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย พ.อ.เวิน จำปาสา รอง ผอ.รมน.อุบลราชธานี ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์กองบิน 21 บินสำรวจสถานการณ์น้ำท่วมตามลำน้ำเซบาย อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ แม่น้ำมูล อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ติดต่อเขต จ.อุบลราชธานี พบว่าระดับน้ำเซบาย เอ่อล้นตลิ่ง
ส่วนแม่น้ำชีในพื้นที่ อ.เขื่องใน และแม่น้ำมูล อ.เมืองอุบลราชธานี ระดับน้ำล้นตลิ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากมวลแม่น้ำมูลและแม่น้ำชีเริ่มไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่ จ.อุบลราชธานี ทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนในชุมชนเทศบาลนครอุบลราชธานี บ้านหาดคูเดื่อ บ้านทัพไท ต.แจระแม อ.เมืองฯ และชุมชนชานเมือง ฝั่งเทศบาลเมืองวารินชำราบ ชุมชนเกตุแก้ว และชุมชนหาดสวนยา ระดับปริมาณน้ำมูลวานนี้(27)ที่สถานีเอ็ม 7 เชิงสะพานเสรีประชาธิปไตย 9.78 เมตร เพิ่มจากเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ประมาณ 3 เซนติเมตร ล้นตลิ่ง 2.78 เซนติเมตร ปริมาณน้ำ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และคาดว่าปลายเดือนตุลาคมนี้น้ำจะเพิ่มอีกประมาณ 40 เซนติเมตร ระดับน้ำน่าจะถึงประมาณ 10.10 เมตร
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า จากที่ได้สำรวจพื้นที่ตามจุดสำคัญแม่น้ำมูล แม่น้ำชี เซบาย เซบก เขื่อนสิรินธร แก่งตะนะ และลำน้ำสาขา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในการแก้ไขปัญหา และขณะนี้ชาวบ้านได้ทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวของเอง ในเขตพื้นที่อำเภอพิบูลมังสาหาร และอำเภอสิรินธร หลายร้อยไร่ ที่ติดริมฝั่งแม่น้ำมูล โดยจะขอความร่วมมือจากชาวบ้านเพื่อใช้พื้นที่จากนาข้าวที่เก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว เป็นที่กักเก็บน้ำ ดักน้ำ และช่วยลดปริมาณน้ำในครั้งนี้ นอกจากนั้นจะได้ให้อำเภอ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบดำเนินเร่งทำการสูบน้ำจากแม่น้ำมูลเข้าพื้นที่นาชาวบ้าน ให้เร็วที่สุด
**ชาวเมืองน้ำดำเร่มเครียดน้ำท่วม
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ยังวิกฤติหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ อ.กมลาไสย และ อ.ฆ้องชัย ซึ่งถูกน้ำท่วมมายาวนานกว่า 4 สัปดาห์แล้ว ส่งผลให้ชาวบ้านหลายรายมีอาการวิตกกังวล เกิดความเครียดมากขึ้น ล่าสุดระดับน้ำยังทรงตัวพื้นที่นาข้าวและบ้านเรือนประชาชนยังคงถูกน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง ถนนสาย 214 กาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด ยังมีน้ำท่วมขังสูง แม้ทางนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สั่งให้เร่งเจาะพนังกั้นที่บริเวณ ต.ดงลิง อ.กมลาไสย เพื่อเร่งระบายน้ำออกสู่แม่น้ำปาวและไหลต่อไปยังแม่น้ำชีบริเวณ อ.ร่องคำ แล้วหลายจุดก็ตาม
แต่ระดับน้ำก็ยังทรงตัวอยู่ เนื่องจากปริมาณน้ำชียังไหลเข้ามาตรงจุดที่พนังกั้นแตกบริเวณหลัก กม.ที่ 21-52 อย่างต่อเนื่อง แม้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนจะระดมกำลังซ่อมแซมเสร็จไปแล้ว 70% แต่ยังเหลืออีก 3 จุดที่ยังซ่อมไม่เสร็จ เนื่องจากรอยแตกนั้นยาวกว่า 100 เมตร และมีความลึกถึง 3 เมตร จึงทำให้การซ่อมแซมเป็นไปด้วยความยากลำบาก
**แม่น้ำท่าจีนล้นสุพรรณฯ-สมุทรสาครจม
ด้านสถานการณ์แม่น้ำท่าจีนมีปริมาณสูงขึ้นต่อเนื่อง เข้าท่วมพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เกือบทุกพื้นที่ แม้ทางจังหวัดจะเร่งผันน้ำลงคลองสาขาต่างๆ ก็ตาม อำเภอที่อยู่ปลายน้ำ ถูกน้ำท่วมหนักทั้ง อ.เมือง อ.บางปลาม้า โดยเฉพาะ อ.สองพี่น้อง บ้านเรือน สถานที่ราชการถูกน้ำท่วม ถนนหลายสายน้ำท่วมสูงใช้สัญจรไม่ได้ ต้องใช้เรือแทน
สำหรับ จ.สมุทรสาคร เริ่มได้รับผลกระทบจากแม่น้ำท่าจีน หลังจากน้ำทะเลหนุนสูง โดยเฉพาะตลาดสดมหาชัย เทศบาลนครสมุทรสาคร มีการตั้งเครื่องสูบน้ำ 14 ตัว เร่งระบายน้ำออกทะเล ทำให้ตลาดมหาชัยรอดพ้นจากน้ำท่วม
ด้าน จ.สมุทรสงคราม เตรียมพร้อมสถานที่รับผู้พักพิง กว่า 2 พันคน ทั้งผู้ป่วย ผู้พิการ ที่จะย้ายออกจากพื้นที่น้ำท่วม ในพื้นที่ จ.นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร โดยจะใช้สถานที่ ทั้งโรงเรียน และวัดต่างๆ
วานนี้ (27 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งสินค้าที่ จ.บุรีรัมย์ ได้รับผลกระทบหนักจากปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล ทำให้ต้องหยุดกิจการขนส่งสินค้าออกไปโดยไม่มีกำหนด เนื่องจากไม่สามารถรับและส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้ ซึ่งขณะนี้มีรถบรรทุกและสินค้าของลูกค้าที่มาใช้บริการตกค้างอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นจำนวนมาก
จากผลกระทบดังกล่าวหลายบริษัทจึงได้ประกาศงดรับส่งสินค้าออกไปโดยไม่มีกำหนด เนื่องจากเกรงว่าสินค้าสิ่งของที่ลูกค้าจะถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนส่ง 7 บริษัท มีรถบรรทุกขนส่งสินค้ารวมกว่า 200 คัน ประสบปัญหาขาดรายได้ไปวันละนับแสนบาทต่อราย และต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในบริษัท ทั้งค่าจ้างลูกจ้าง และพนักงานขับรถต่อไปจนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพฯและเขตปริมณฑลจะเข้าสู่สภาวะปกติ
จึงเรียกร้องให้รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่ขยายเป็นวงกว้างสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจอยู่ในขณะนี้ ให้กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว
นายสมคิด กิ่งกรดกลาง ปฏิคมสมาคมผู้ประกอบการขนส่งสินค้าภาคอีสาน และเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีรัมย์พนมรุ้งขนส่ง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประกอบธุรกิจขนส่งสินค้าในภาคอีสาน ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑลอย่างหนัก เพราะส่วนมากศูนย์กลางการรับฝากส่งสินค้าอยู่ในกรุงเทพฯ ถึงแม้ทางสมาคมฯจะมีการหารือพูดคุยกันมาแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาผลกระทบจากวิกฤตน้ำท่วมดังกล่าวได้จำเป็นต้องยอมรับปัญหาที่เกิดขึ้นไปจนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะลดลงเพราะขณะนี้หลายบริษัทได้รับความเสียหายทั้งรายได้และต้องสูญเสียลูกค้าขาประจำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
**ท่าอากาศยานบุรีรัมย์หยุดบินถึง10พ.ย.
ด้านนายสมหมาย ไชยนิจ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานบุรีรัมย์ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาแจ้งประชาชน นักธุรกิจ และผู้ที่เดินทางโดยสารการบินที่มาใช้บริการที่ท่าอากาศยานกับสายการบินนกแอร์ว่า ทางท่าอากาศยานบุรีรัมย์ได้งดให้บริการเที่ยวบินบุรีรัมย์-ไปกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันนี้ (28ต.ค.)เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 10 พ.ย.54 เนื่องจากน้ำได้เอ่อท่วมขังรันเวย์ของท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งเป็นฐานการบินของสายการบินนกแอร์ ขณะนี้ไม่สามารถนำเครื่องบินลงจอดได้
โดยเครื่องบินของบริษัทนกแอร์ที่ได้มาให้บริการเปิดไฟท์บินที่บุรีรัมย์สัปดาห์ละ 2 วัน คือ วันศุกร์และวันอาทิตย์ โดยเดินทางจากกุรงเทพฯเวลา 15.00 น.ถึงบุรีรัมย์ เวลา 16.05 น.เที่ยวกลับออกจาก จ.บุรีรัมย์เวลา 16.35 น.ถึงท่าอากาศยานดอนเมืองเวลา 17.40 น.หรือถ้าหากระดับน้ำยังท่วมสูง และยังไม่เข้าสู่สภาวะปกติ ทางสายการบินก็ต้องเลื่อนการเปิดไฟท์บินออกไปโดยไม่มีกำหนด ซึ่งท่าอาศยานบุรีรัมย์จะแจ้งให้ผู้ที่จะมาใช้บริการได้ทราบอีกครั้ง จึงขอให้ผู้ใช้บริการได้หันไปใช้บริการรถขนส่งผู้โดยสารแทนชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์น้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติ
"การหยุดให้บริการครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการสายการบิน นักธุกิจ และประชาชนที่ต้องการเดินทางโดยทางอากาศ เพื่อเดินทางไปต่างจังหวัด ติดต่อราชการ และเดินทางติดต่องานด้านธุรกิจเป็นอย่างมาก จึงขออภัยในความสะดวกในครั้งนี้ด้วย และเชื่อว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะเข้าสู่สภาวะปกติ และจะสามารถเปิดไฟท์บินบริการประชาชนได้ตามปกติในไม่ช้านี้ เพราะหลายฝ่ายกำลังเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา"
**อุบลฯวิกฤตผู้ว่าฯขึ้นฮ.สำรวจน้ำท่วม
ที่ จ.อุบลราชธานี นายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย พ.อ.เวิน จำปาสา รอง ผอ.รมน.อุบลราชธานี ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์กองบิน 21 บินสำรวจสถานการณ์น้ำท่วมตามลำน้ำเซบาย อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ แม่น้ำมูล อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ติดต่อเขต จ.อุบลราชธานี พบว่าระดับน้ำเซบาย เอ่อล้นตลิ่ง
ส่วนแม่น้ำชีในพื้นที่ อ.เขื่องใน และแม่น้ำมูล อ.เมืองอุบลราชธานี ระดับน้ำล้นตลิ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากมวลแม่น้ำมูลและแม่น้ำชีเริ่มไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่ จ.อุบลราชธานี ทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนในชุมชนเทศบาลนครอุบลราชธานี บ้านหาดคูเดื่อ บ้านทัพไท ต.แจระแม อ.เมืองฯ และชุมชนชานเมือง ฝั่งเทศบาลเมืองวารินชำราบ ชุมชนเกตุแก้ว และชุมชนหาดสวนยา ระดับปริมาณน้ำมูลวานนี้(27)ที่สถานีเอ็ม 7 เชิงสะพานเสรีประชาธิปไตย 9.78 เมตร เพิ่มจากเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ประมาณ 3 เซนติเมตร ล้นตลิ่ง 2.78 เซนติเมตร ปริมาณน้ำ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และคาดว่าปลายเดือนตุลาคมนี้น้ำจะเพิ่มอีกประมาณ 40 เซนติเมตร ระดับน้ำน่าจะถึงประมาณ 10.10 เมตร
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า จากที่ได้สำรวจพื้นที่ตามจุดสำคัญแม่น้ำมูล แม่น้ำชี เซบาย เซบก เขื่อนสิรินธร แก่งตะนะ และลำน้ำสาขา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในการแก้ไขปัญหา และขณะนี้ชาวบ้านได้ทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวของเอง ในเขตพื้นที่อำเภอพิบูลมังสาหาร และอำเภอสิรินธร หลายร้อยไร่ ที่ติดริมฝั่งแม่น้ำมูล โดยจะขอความร่วมมือจากชาวบ้านเพื่อใช้พื้นที่จากนาข้าวที่เก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว เป็นที่กักเก็บน้ำ ดักน้ำ และช่วยลดปริมาณน้ำในครั้งนี้ นอกจากนั้นจะได้ให้อำเภอ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบดำเนินเร่งทำการสูบน้ำจากแม่น้ำมูลเข้าพื้นที่นาชาวบ้าน ให้เร็วที่สุด
**ชาวเมืองน้ำดำเร่มเครียดน้ำท่วม
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ยังวิกฤติหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ อ.กมลาไสย และ อ.ฆ้องชัย ซึ่งถูกน้ำท่วมมายาวนานกว่า 4 สัปดาห์แล้ว ส่งผลให้ชาวบ้านหลายรายมีอาการวิตกกังวล เกิดความเครียดมากขึ้น ล่าสุดระดับน้ำยังทรงตัวพื้นที่นาข้าวและบ้านเรือนประชาชนยังคงถูกน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง ถนนสาย 214 กาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด ยังมีน้ำท่วมขังสูง แม้ทางนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สั่งให้เร่งเจาะพนังกั้นที่บริเวณ ต.ดงลิง อ.กมลาไสย เพื่อเร่งระบายน้ำออกสู่แม่น้ำปาวและไหลต่อไปยังแม่น้ำชีบริเวณ อ.ร่องคำ แล้วหลายจุดก็ตาม
แต่ระดับน้ำก็ยังทรงตัวอยู่ เนื่องจากปริมาณน้ำชียังไหลเข้ามาตรงจุดที่พนังกั้นแตกบริเวณหลัก กม.ที่ 21-52 อย่างต่อเนื่อง แม้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนจะระดมกำลังซ่อมแซมเสร็จไปแล้ว 70% แต่ยังเหลืออีก 3 จุดที่ยังซ่อมไม่เสร็จ เนื่องจากรอยแตกนั้นยาวกว่า 100 เมตร และมีความลึกถึง 3 เมตร จึงทำให้การซ่อมแซมเป็นไปด้วยความยากลำบาก
**แม่น้ำท่าจีนล้นสุพรรณฯ-สมุทรสาครจม
ด้านสถานการณ์แม่น้ำท่าจีนมีปริมาณสูงขึ้นต่อเนื่อง เข้าท่วมพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เกือบทุกพื้นที่ แม้ทางจังหวัดจะเร่งผันน้ำลงคลองสาขาต่างๆ ก็ตาม อำเภอที่อยู่ปลายน้ำ ถูกน้ำท่วมหนักทั้ง อ.เมือง อ.บางปลาม้า โดยเฉพาะ อ.สองพี่น้อง บ้านเรือน สถานที่ราชการถูกน้ำท่วม ถนนหลายสายน้ำท่วมสูงใช้สัญจรไม่ได้ ต้องใช้เรือแทน
สำหรับ จ.สมุทรสาคร เริ่มได้รับผลกระทบจากแม่น้ำท่าจีน หลังจากน้ำทะเลหนุนสูง โดยเฉพาะตลาดสดมหาชัย เทศบาลนครสมุทรสาคร มีการตั้งเครื่องสูบน้ำ 14 ตัว เร่งระบายน้ำออกทะเล ทำให้ตลาดมหาชัยรอดพ้นจากน้ำท่วม
ด้าน จ.สมุทรสงคราม เตรียมพร้อมสถานที่รับผู้พักพิง กว่า 2 พันคน ทั้งผู้ป่วย ผู้พิการ ที่จะย้ายออกจากพื้นที่น้ำท่วม ในพื้นที่ จ.นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร โดยจะใช้สถานที่ ทั้งโรงเรียน และวัดต่างๆ
