"มาร์ค" จี้"ปู"ทำผังบริหารน้ำชี้แจงประชาชน หยุดเรื่องการเมืองเร่งคลี่คลายวิกฤต รับไม่ได้ที่ใช้ของบริจาคหาประโยชน์ทางการเมือง ชี้นายกฯต้องเข้มแข็ง สร้างความมั่นใจให้ชาวบ้าน อย่าแบ่งแยกประชาชน โวหากเป็นนายกฯเอง บ้านเมืองไม่เละอย่างนี้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะได้เดินทางไปเปิดศูนย์พักพิงในโครงการอาสาไทยช่วยภัยน้ำท่วม ที่พรรคประชาธิปัตย์ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เปิดที่พักพิงให้ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมได้พักอาศัยชั่วคราว พร้อมกับเยี่ยมชาวบ้านที่เข้ามาอาศัยในศูนย์นี้แล้วประมาณ 200 คน
ในระหว่างนั้นมีชายชราผู้หนึ่ง สอบถามนายอภิสิทธิ์ ว่า " มีทางที่จะได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งไหม" ทำให้นายอภิสิทธิ์ อึ้งไปนิดหนึ่ง ก่อนจะตอบว่า " ขอให้ให้โอกาสรัฐบาลชุดนี้ทำงานแก้ปัญหาให้ประชาชน"
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ศูนย์นี้จะรองรับผู้ประสบภัยเบื้องต้นได้ประมาณ 500 คน แต่สามารถขยายได้อีกโดยมีผู้ประสบภัยจากหลายพื้นที่ ทั้ง สายไหม บางเขน ดอนเมือง รังสิต เริ่มทยอยเข้ามาพักพิงแล้ว ปัญหาคือ ประชาชนเป็นห่วงทรัพย์สิน จึงอยากให้รัฐบลโดยเฉพาะตำรวจเร่งประชาสัมพันธ์ว่า มีมาตรการดูแลอย่างไร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการอพยพออกจากบ้านโดยไม่ต้องห่วงทรัพย์สิน โดย ศปภ.รัฐบาล และทุกหน่วยงานต้องเร่งรัดทำระบบการดูแลผู้อพยพการแก้ปัญหา และการป้องกันต่างๆ ให้ครบวงจร ที่สำคัญคือ ต้องให้ความจริงกับประชาชน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึง กรณีที่พรรคเสนอให้ระบายน้ำทางตะวันออกลงทะเลเพิ่มขึ้นว่า ต้องติดตามดูต่อไป ซึ่งในภาพใหญ่จะต้องมีการประสานระบบน้ำที่จะดันลงสู่ทะเล ว่ามีจุดไหนที่พอจะรับน้ำได้เพิ่ม เพราะปัจจุบันยังไม่มีการใช้พื้นที่รับน้ำทั้งหมดอย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงต้องบริหารให้สัมพันธ์กัน และอยากให้รัฐบาลทำผังบริหารจัดการน้ำอย่างชัดเจน ชี้แจงกับประชาชน โดยเข้าใจว่ารัฐบาลก็ต้องปกป้องนิคมอุตสาหกรรม และ สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ก็ต้องดูพื้นที่ระบายน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายมหาศาลด้วย เพราะยังมีหลายพื้นที่ที่ระบายน้ำได้ แต่ยังไม่ได้ใช้
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะแก้ปัญหาการสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชนขณะเกิดวิกฤตน้ำอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนอยากให้พักความขัดแย้งทางการเมือง แล้วมาช่วยกันคิด ร่วมมือกันเพื่อดูแลประเทศและประชาชน หากแบ่งแยกประชาชนว่าเป็นของตัวเอง ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะความจริงไม่ใช่ว่าใครจะสำคัญกว่าใคร แต่ในบางพื้นที่ เช่น หากต้องปิดโรงพยาบาล คนก็ได้รับผลกระทบหมด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความเข้มแข็งของผู้นำมีความสำคัญแค่ไหนในภาวะวิกฤต เพราะนายกฯ ถึงกับน้ำตาคลอเบ้าระหว่างการให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ปัญหาให้ประชาชน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ผู้นำต้องมั่นคง เข้มแข็ง ทำให้คนเกิดความเชื่อมั่น จึงขอให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้มแข็ง อยากให้นายกฯ และทีมงานทำงานอย่างเต็มที่ และชี้แจงความจริงให้ประชาชนรับทราบว่า สิ่งที่ทำและไม่ทำตามข้อเสนอของหลายฝ่ายเป็นเพราะอะไร เพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงผู้ประกอบการน้ำดื่มออกมาคัดค้านการนำเข้าน้ำจากต่างประเทศว่า รัฐบาลต้องประสานกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด และไม่ควรใช้ดอนเมืองซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงเป็นศูนย์กระจายสินค้าเพียงแห่งเดียว ควรให้มีศูนย์ย่อย เพื่อกระจายสินค้าเพิ่มเติมด้วย
เมื่อถามว่าปัญหาที่บานปลายมาถึงทุกวันนี้ เกิดจากอะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านติดตามการทำงานของรัฐบาลมาโดยตลอด ปัญหาที่เกิดขึ้นฝ่ายค้านไม่อยากโทษใคร แต่ถ้าเป็นเรื่องการบริหารจัดการของบริจาคที่ไม่โปร่งใส ก็ต้องตรวจสอบ เพราะเมื่อ ศปภ. เป็นศูนย์กลาง ต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส โดยเฉพาะเมื่อตัดสินใจแล้วต้องพร้อมรับผิดชอบต่อผลที่จะเกิดขึ้นด้วย เช่น กรณีมีข้อครหาเรื่องการนำของบริจาคให้ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็มีภาพปรากฏออกมาชัดเจน ปกปิดไม่ได้ ดังนั้นทางที่ดี คือ รัฐบาลต้องแก้ไข
ส่วนกรณีที่ รมว.กลาโหม เสนอให้กองทัพเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องของบริจาค และกระจายไปช่วยเหลือประชาชนนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากตัดปัญหาการเมืองออก ก็จะแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น
สำหรับกรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุว่า หากนายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ สถานการณ์ก็ไม่แตกต่างจากเวลานี้นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะมีหลายเรื่องที่เราทำไม่เหมือนกับรัฐบาลชุดนี้แน่นอน แต่ไม่อยากพูดในขณะนี้ จะเก็บรายละเอียดไว้ชี้แจงอีกครั้ง แต่ยังไม่ถึงขั้นคิดที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจในขณะนี้ โดยฝ่ายค้านจะตรวจสอบต่อเนื่อง พร้อมเตือนรัฐบาลไม่ควรใช้วิธีหาแพะไปเรื่อย ๆ เช่น โยนว่าเป็นปัญหาระดับน้ำในเขื่อน เกิดจากรัฐบลชุดที่แล้ว ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะระดับน้ำสูงเกิดในรัฐบาลชุดนี้ รัฐบาลจึงควรจะชี้แจงให้ชัดเจน ถึงการกักเก็บน้ำไว้เพื่อทำนาใช่หรือไม่ ก็ขอให้บอกมา อีกทั้งควรเร่งเดินหน้าแก้ปัญหาให้ประชาชนจะดีกว่า
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะได้เดินทางไปเปิดศูนย์พักพิงในโครงการอาสาไทยช่วยภัยน้ำท่วม ที่พรรคประชาธิปัตย์ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เปิดที่พักพิงให้ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมได้พักอาศัยชั่วคราว พร้อมกับเยี่ยมชาวบ้านที่เข้ามาอาศัยในศูนย์นี้แล้วประมาณ 200 คน
ในระหว่างนั้นมีชายชราผู้หนึ่ง สอบถามนายอภิสิทธิ์ ว่า " มีทางที่จะได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งไหม" ทำให้นายอภิสิทธิ์ อึ้งไปนิดหนึ่ง ก่อนจะตอบว่า " ขอให้ให้โอกาสรัฐบาลชุดนี้ทำงานแก้ปัญหาให้ประชาชน"
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ศูนย์นี้จะรองรับผู้ประสบภัยเบื้องต้นได้ประมาณ 500 คน แต่สามารถขยายได้อีกโดยมีผู้ประสบภัยจากหลายพื้นที่ ทั้ง สายไหม บางเขน ดอนเมือง รังสิต เริ่มทยอยเข้ามาพักพิงแล้ว ปัญหาคือ ประชาชนเป็นห่วงทรัพย์สิน จึงอยากให้รัฐบลโดยเฉพาะตำรวจเร่งประชาสัมพันธ์ว่า มีมาตรการดูแลอย่างไร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการอพยพออกจากบ้านโดยไม่ต้องห่วงทรัพย์สิน โดย ศปภ.รัฐบาล และทุกหน่วยงานต้องเร่งรัดทำระบบการดูแลผู้อพยพการแก้ปัญหา และการป้องกันต่างๆ ให้ครบวงจร ที่สำคัญคือ ต้องให้ความจริงกับประชาชน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึง กรณีที่พรรคเสนอให้ระบายน้ำทางตะวันออกลงทะเลเพิ่มขึ้นว่า ต้องติดตามดูต่อไป ซึ่งในภาพใหญ่จะต้องมีการประสานระบบน้ำที่จะดันลงสู่ทะเล ว่ามีจุดไหนที่พอจะรับน้ำได้เพิ่ม เพราะปัจจุบันยังไม่มีการใช้พื้นที่รับน้ำทั้งหมดอย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงต้องบริหารให้สัมพันธ์กัน และอยากให้รัฐบาลทำผังบริหารจัดการน้ำอย่างชัดเจน ชี้แจงกับประชาชน โดยเข้าใจว่ารัฐบาลก็ต้องปกป้องนิคมอุตสาหกรรม และ สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ก็ต้องดูพื้นที่ระบายน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายมหาศาลด้วย เพราะยังมีหลายพื้นที่ที่ระบายน้ำได้ แต่ยังไม่ได้ใช้
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะแก้ปัญหาการสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชนขณะเกิดวิกฤตน้ำอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนอยากให้พักความขัดแย้งทางการเมือง แล้วมาช่วยกันคิด ร่วมมือกันเพื่อดูแลประเทศและประชาชน หากแบ่งแยกประชาชนว่าเป็นของตัวเอง ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะความจริงไม่ใช่ว่าใครจะสำคัญกว่าใคร แต่ในบางพื้นที่ เช่น หากต้องปิดโรงพยาบาล คนก็ได้รับผลกระทบหมด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความเข้มแข็งของผู้นำมีความสำคัญแค่ไหนในภาวะวิกฤต เพราะนายกฯ ถึงกับน้ำตาคลอเบ้าระหว่างการให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ปัญหาให้ประชาชน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ผู้นำต้องมั่นคง เข้มแข็ง ทำให้คนเกิดความเชื่อมั่น จึงขอให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้มแข็ง อยากให้นายกฯ และทีมงานทำงานอย่างเต็มที่ และชี้แจงความจริงให้ประชาชนรับทราบว่า สิ่งที่ทำและไม่ทำตามข้อเสนอของหลายฝ่ายเป็นเพราะอะไร เพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงผู้ประกอบการน้ำดื่มออกมาคัดค้านการนำเข้าน้ำจากต่างประเทศว่า รัฐบาลต้องประสานกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด และไม่ควรใช้ดอนเมืองซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงเป็นศูนย์กระจายสินค้าเพียงแห่งเดียว ควรให้มีศูนย์ย่อย เพื่อกระจายสินค้าเพิ่มเติมด้วย
เมื่อถามว่าปัญหาที่บานปลายมาถึงทุกวันนี้ เกิดจากอะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านติดตามการทำงานของรัฐบาลมาโดยตลอด ปัญหาที่เกิดขึ้นฝ่ายค้านไม่อยากโทษใคร แต่ถ้าเป็นเรื่องการบริหารจัดการของบริจาคที่ไม่โปร่งใส ก็ต้องตรวจสอบ เพราะเมื่อ ศปภ. เป็นศูนย์กลาง ต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส โดยเฉพาะเมื่อตัดสินใจแล้วต้องพร้อมรับผิดชอบต่อผลที่จะเกิดขึ้นด้วย เช่น กรณีมีข้อครหาเรื่องการนำของบริจาคให้ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็มีภาพปรากฏออกมาชัดเจน ปกปิดไม่ได้ ดังนั้นทางที่ดี คือ รัฐบาลต้องแก้ไข
ส่วนกรณีที่ รมว.กลาโหม เสนอให้กองทัพเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องของบริจาค และกระจายไปช่วยเหลือประชาชนนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากตัดปัญหาการเมืองออก ก็จะแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น
สำหรับกรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุว่า หากนายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ สถานการณ์ก็ไม่แตกต่างจากเวลานี้นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะมีหลายเรื่องที่เราทำไม่เหมือนกับรัฐบาลชุดนี้แน่นอน แต่ไม่อยากพูดในขณะนี้ จะเก็บรายละเอียดไว้ชี้แจงอีกครั้ง แต่ยังไม่ถึงขั้นคิดที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจในขณะนี้ โดยฝ่ายค้านจะตรวจสอบต่อเนื่อง พร้อมเตือนรัฐบาลไม่ควรใช้วิธีหาแพะไปเรื่อย ๆ เช่น โยนว่าเป็นปัญหาระดับน้ำในเขื่อน เกิดจากรัฐบลชุดที่แล้ว ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะระดับน้ำสูงเกิดในรัฐบาลชุดนี้ รัฐบาลจึงควรจะชี้แจงให้ชัดเจน ถึงการกักเก็บน้ำไว้เพื่อทำนาใช่หรือไม่ ก็ขอให้บอกมา อีกทั้งควรเร่งเดินหน้าแก้ปัญหาให้ประชาชนจะดีกว่า