“อภิสิทธิ์” เปิดศูนย์พักพิง ปชป.ที่ มรภ.พระนคร คาดรับรองได้มากกว่า 500 คน จี้ตร.ประชาสัมพันธ์ดูแลทรัพย์สินชาวบ้าน แนะเร่งทำระบบผู้อพยพครบวงจร ยัน กทม.ตะวันออกยังรับน้ำไม่เต็มที่ แนะทำผังจัดการให้ชัด วอนพักความขัดแย้งการเมืองช่วยกันคิดเพื่อประชาชน อย่าแบ่งแยก ขอ “ปู” เข้มแข็งชี้แจงความจริง จี้เปิดศูนย์กระจายสินค้าเพิ่ม,ตรวจสอบแฮ๊ปของบริจาค ชี้ถ้าตัดเรื่องการเมืองจะแก้ง่ายขึ้น เตือนรัฐอย่าหาแพะไปเรื่อย
วันนี้ (27 ต.ค.) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปเปิดศูนย์พักพิงในโครงการอาสาไทยช่วยภัยน้ำท่วมที่พรรคประชาธิปัตย์ร่วมกับมหาวิทยาลัยราขภัฏพระนคร เปิดที่พักพิงให้ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมได้พักอาศัยชั่วคราว พร้อมกับเยี่ยมชาวบ้านที่เข้ามาอาศัยในศูนย์นี้แล้วประมาณ 200 คน ในระหว่างนั้นมีชายชราผู้หนึ่งสอบถามนายอภิสิทธิ์ ว่า “มีทางที่จะได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งไหม” ทำให้ นายอภิสิทธิ์ อึ้งไปนิดหนึ่งก่อนจะตอบว่า “ขอให้ให้โอกาสรัฐบาลชุดนี้งานแก้ปัญหาให้ประชาชน”
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ศูนย์นี้จะรองรับผู้ประสบภัยเบื้องต้นได้ประมาณ 500 คน แต่สามารถขยายได้อีก โดยมีผู้ประสบภัยจากหลายพื้นที่ทั้งสายไหม บางเขน ดอนเมือง รังสิต เริ่มทยอยเข้ามาพักพิงแล้ว ปัญหาคือ ประชาชนเป็นห่วงทรัพย์สินจึงอยากให้รัฐบาลโดยเฉพาะตำรวจเร่งประชาสัมพันธ์ว่ามีมาตรการดูแลอย่างไร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการอพยพออกจากบ้านโดยไม่ต้องห่วงทรัพย์สิน โดย ศปภ.รัฐบาลและทุกหน่วยงานต้องเร่งรัดทำระบบการดูแลผู้อพยพการแก้ปัญหาและการป้องกันต่างๆ ให้ครบวงจร ที่สำคัญคือ ต้องให้ความจริงกับประชาชน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเสนอให้ระบายน้ำทางตะวันอออกลงทะเลเพิ่มขึ้น ว่า ต้องติดตามดูต่อไปซึ่งในภาพใหญ่จะต้องมีการประสานระบบน้ำที่จะดันลงสู่ทะเลว่ามีจุดไหนที่พอจะรับน้ำได้เพิ่ม เพราะปัจจุบันยังไม่มีการใช้พื้นที่รับน้ำทั้งหมดอย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงต้องบริหารให้สัมพันธ์กันและอยากให้รัฐบาลทำผังบริหารจัดการน้ำอย่างชัดเจนชี้แจงกับประชาชน โดยเข้าใจว่ารัฐบาลก็ต้องปกป้องนิคมอุตสาหกรรม และ สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ก็ต้องดูพื้นที่ระบายน้ำเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายมหาศาลด้วยเพราะยังมีหลายพื้นที่ที่ระบายน้ำได้แต่ยังไม่ได้ใช้
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะแก้ปัญหาการสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชนขณะเกิดวิกฤตน้ำอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนอยากให้พักความขัดแย้งทางการเมืองมาช่วยกันคิด ร่วมมือกันเพื่อดูแลประเทศและประชาชน หากแบ่งแยกประชาชนว่าเป็นของตัวเองก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะความจริงไม่ใช่ว่าใครจะสำคัญกว่าใครแต่ในบางพื้นที่ เช่น หากต้องปิดโรงพยาบาลคนก็ได้รับผลกระทบหมด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความเข้มแข็งของผู้นำมีความสำคัญแค่ไหนในภาวะวิกฤต เพราะนายกฯ ถึงกับน้ำตาคลอเบ้า ระหว่างการให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ปัญหาให้ประชาชน นายอภืสิทธิ์ กล่าวว่า ผู้นำต้องมั่นคง เข้มแข็ง ทำให้คนเกิดความเชื่อมั่น จึงขอให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ เข้มแข็ง อยากให้นายกฯ และทีมงานทำงานอย่างเต็มที่และชี้แจงความจริงให้ประชาชนรับทราบว่าสิ่งที่ทำและไม่ทำตามข้อเสนอของหลายฝ่ายเป็นเพราะอะไร เพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงผู้ประกอบการน้ำดื่มออกมาคััดค้านการนำเข้าน้ำจากต่างประเทศ ว่า รัฐบาลต้องประสานกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด และไม่ควรใช้ดอนเมืองซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงเป็นศูนย์กระจายสินค้าเพียงแห่งเดียว ควรให้มีศูนย์ย่อยเพื่อกระจายสินค้าเพิ่มเติมด้วย
เมื่อถามว่า ปัญหาที่บานปลายมาถึงทุกวันนี้เกิดจากอะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านติดตามการทำงานของรัฐบลมาโดยตลอด ปัญหาที่เกิดขึ้นฝ่ายค้านไม่อยากโทษใครแต่ถ้าเป็นเรื่องการบริหารจัดการของบริจาคที่ไม่โปร่งใสก็ต้องตรวจสอบ เพราะเมื่อ ศปภ.เป็นศูนย์กลางต้องเนินการอย่างโปร่งใส โดยเฉพาะเมื่อตัดสินใจแล้วต้องพร้อมรับผิดชอบต่อผลที่จะเกิดขึ้นด้วย เช่น กรณีมีข้อครหาเรื่องการนำของบริจาคให้ส.ส.พรรคเพื่อไทยก็มีภาพปรากฏออกมาชัดเจนปกปิดไม่ได้ ดังนั้น ทางที่ดี คือ รัฐบาลต้องแก้ไข
ส่วนกรณีที่ รมว.กลาโหม เสนอให้กองทัพเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องของบริจาคและกระจายไปช่วยเหลือประชาชนนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากตัดปัญหาการเมืองออกก็จะแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น
สำหรับกรณีที่พรรคเพื่อไทย ระบุว่า หาก นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯสถานการณ์ก็ไม่แตกต่างจากเวลานี้นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะมีหลายเรื่องที่เราทำไม่เหมือนกับรัฐบาลชุดนี้แ่น่นอน แต่ไม่อยากพูดในขณะนี้จะเก็บรายละเอียดไว้ชี้แจงอีกครั้ง แต่ยังไม่ถึงขั้นคิดที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจในขณะนี้ โดยฝ่ายค้านตรวจสอบต่อเนื่อง พร้อมเตือนรัฐบาลไม่ควรใช้วิธีหาแพะไปเรื่อยๆ เช่น โยนว่าเป็นปัญหาระดับน้ำในเขื่อนเกิดจากรัฐบลชุดที่แล้ว ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะระดับน้ำสูงเกิดในรัฐบาลชุดนี้ รัฐบาลจึงควรจะชี้แจงให้ชัดเจนถึงการกักเก็บน้ำไว้ เพื่อทำนาใช่หรือไม่ก็ขอให้บอกมา อีกทั้งควรเร่งเดินหน้าแก้ปัญหาให้ประชาชนจะดีกว่า