00 กำลังลุ้นกันอยู่ว่าน้ำจะทะลักเข้าท่วมสนามบินดอนเมืองที่ตั้งของ ศปภ.หรือไม่ เพราะไม่กี่ชั่วโมงก่อนน้ำก็ได้ไหลมาจ่ออยู่ที่ประตูด้านหน้าเรียบร้อยแล้ว แม้ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่อีกมุมหนึ่งมันก็คงจะได้เห็นการขนข้าวของอพยพกันวุ่นวายไม่ต่างจากชาวบ้าน คงจะเสมอภาคกันเสียที แต่ประเด็นก็คือมันจะ “ขายหน้า” เพราะแม้แต่ศูนย์บัญชาการยัง “เอาอยู่” เอ้ย เอาไม่อยู่ หวังว่าคงไม่เลวร้ายแบบนั้นนะ และหวังว่าคงไม่ได้เห็น แม่ทัพใหญ่ปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก และ แม่ทัพ ปลอดประสพ สุรัสวดี สั่งเผ่นวิ่งกันตัวปลิวนะ
00 การแก้ปัญหาการระบายน้ำของ รัฐบาล โดย ศปภ.นับวันยิ่งยุ่งยากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อน้ำไหลทะลักเข้ากทม.เพราะคนกรุงมีเสียงดัง โวยวายไม่เลิก เมื่อเทียบกับในต่างจังหวัด ที่สำคัญเป็นศูนย์กลางราชการ ธุรกิจ สถานที่สำคัญ หากจมน้ำหรือน้ำทะลักเข้ามาในเขตชั้นในเมื่อไหร่รับรองว่าดูไม่จืดแน่ และงานนี้การประกาศใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มาตรา 31 รวบอำนาจมาให้นายกฯเป็นผู้สั่งการได้เด็ดขาด มองในแง่ดีจะเป็นการสั่งการได้โดยตรง แต่อีกด้านหนึ่งนาทีนี้จะผลักให้ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยเข้าไปเผชิญหน้ากับชาวบ้านในพื้นที่โดยตรง ไม่เว้นแม้แต่พวกเดียวกันเอง
00 ประเด็นสำคัญก็คือต่างฝ่ายต่างต้องการเอาตัวรอด ฝ่ายรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ นาทีนี้ถือว่า “หลังพิงฝา” เพราะจำเป็นต้อง “ถลำ”ลงไปเต็มตัวแล้ว ขณะที่ฝ่ายชาวบ้านก็สุดทนกับความเดือดร้อน ไม่เชื่อรัฐบาล ดังจะเห็นตัวอย่างที่มีแนวโน้มเป็นปัญหาใหม่ อย่างเช่นที่เพิ่งเกิดขึ้นที่ประตูน้ำพระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยาเมื่อ ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้รองอธิบดีกรมชลฯเป็นผู้กำกับดูแลการปิดประตูระบายน้ำ แต่ ชาวบ้านไม่ยอมมีการประท้วง นี่เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้น และเชื่อว่าจะเกิดขึ้นทำนองเดียวกันอีกหลายแห่ง เมื่อมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น
00 สำหรับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ถือว่ามีเดิมพันสูง เพราะถ้าน้ำทะลักเข้ามาถึงเขตชั้นใน และเลวร้ายถึงขั้นท่วมสถานที่สำคัญ มันก็อยู่ลำบาก ดังนั้นมันก็ช่วยไม่ได้ที่ต้อง “เสี่ยง” วัดกันไปเลย รับกันไปเต็มๆไม่ว่าบวกหรือลบ ไม่ยอมให้รัฐบาลเข้าแบ่ง “ตีกิน” เป็นอันขาด เหมือนกับว่าที่ผ่านมาทำพินาศมาตามรายทาง ดังนั้นเมื่อมาถึงกทม.แล้วได้โปรดอย่า “มามั่ว”ที่นี่ก็แล้วกัน
00 แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามแก้เกมในนาทีสุดท้ายด้วยการงัด พ.ร.บ.ปภ.มาตรา 31 เข้ามาบริหารจัดการน้ำ หลายคนมองว่า “สายไปแล้ว” และการใช้กฎหมายดังกล่าวก็ไม่ใช่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเท่าใดนัก เพราะการมอบหมายให้รองอธิบดีกรมชลฯมาบัญชาการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำก็ทำได้ไม่เต็มที่เพราะบางแห่งยังถูกต่อต้านจากชาวบ้าน นาทีนี้ก็ได้แต่ยอมรับชะตากรรม เอวัง อย่างไรก็ดีหากมองในมุมของ ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คงจะเป่าปากถอนหายใจ เพราะถ้ารัฐบาลปู กล้าหาญ-ใจกว้างประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉินให้ทหารเข้ามาจัดการป่านนี้คงกลายเป็น “จำเลย” ซวยซ้ำแน่นอน แต่ตอนนี้ได้แต้ม โชคดีไป !!
00 การแก้ปัญหาการระบายน้ำของ รัฐบาล โดย ศปภ.นับวันยิ่งยุ่งยากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อน้ำไหลทะลักเข้ากทม.เพราะคนกรุงมีเสียงดัง โวยวายไม่เลิก เมื่อเทียบกับในต่างจังหวัด ที่สำคัญเป็นศูนย์กลางราชการ ธุรกิจ สถานที่สำคัญ หากจมน้ำหรือน้ำทะลักเข้ามาในเขตชั้นในเมื่อไหร่รับรองว่าดูไม่จืดแน่ และงานนี้การประกาศใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มาตรา 31 รวบอำนาจมาให้นายกฯเป็นผู้สั่งการได้เด็ดขาด มองในแง่ดีจะเป็นการสั่งการได้โดยตรง แต่อีกด้านหนึ่งนาทีนี้จะผลักให้ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยเข้าไปเผชิญหน้ากับชาวบ้านในพื้นที่โดยตรง ไม่เว้นแม้แต่พวกเดียวกันเอง
00 ประเด็นสำคัญก็คือต่างฝ่ายต่างต้องการเอาตัวรอด ฝ่ายรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ นาทีนี้ถือว่า “หลังพิงฝา” เพราะจำเป็นต้อง “ถลำ”ลงไปเต็มตัวแล้ว ขณะที่ฝ่ายชาวบ้านก็สุดทนกับความเดือดร้อน ไม่เชื่อรัฐบาล ดังจะเห็นตัวอย่างที่มีแนวโน้มเป็นปัญหาใหม่ อย่างเช่นที่เพิ่งเกิดขึ้นที่ประตูน้ำพระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยาเมื่อ ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้รองอธิบดีกรมชลฯเป็นผู้กำกับดูแลการปิดประตูระบายน้ำ แต่ ชาวบ้านไม่ยอมมีการประท้วง นี่เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้น และเชื่อว่าจะเกิดขึ้นทำนองเดียวกันอีกหลายแห่ง เมื่อมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น
00 สำหรับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ถือว่ามีเดิมพันสูง เพราะถ้าน้ำทะลักเข้ามาถึงเขตชั้นใน และเลวร้ายถึงขั้นท่วมสถานที่สำคัญ มันก็อยู่ลำบาก ดังนั้นมันก็ช่วยไม่ได้ที่ต้อง “เสี่ยง” วัดกันไปเลย รับกันไปเต็มๆไม่ว่าบวกหรือลบ ไม่ยอมให้รัฐบาลเข้าแบ่ง “ตีกิน” เป็นอันขาด เหมือนกับว่าที่ผ่านมาทำพินาศมาตามรายทาง ดังนั้นเมื่อมาถึงกทม.แล้วได้โปรดอย่า “มามั่ว”ที่นี่ก็แล้วกัน
00 แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามแก้เกมในนาทีสุดท้ายด้วยการงัด พ.ร.บ.ปภ.มาตรา 31 เข้ามาบริหารจัดการน้ำ หลายคนมองว่า “สายไปแล้ว” และการใช้กฎหมายดังกล่าวก็ไม่ใช่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเท่าใดนัก เพราะการมอบหมายให้รองอธิบดีกรมชลฯมาบัญชาการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำก็ทำได้ไม่เต็มที่เพราะบางแห่งยังถูกต่อต้านจากชาวบ้าน นาทีนี้ก็ได้แต่ยอมรับชะตากรรม เอวัง อย่างไรก็ดีหากมองในมุมของ ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คงจะเป่าปากถอนหายใจ เพราะถ้ารัฐบาลปู กล้าหาญ-ใจกว้างประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉินให้ทหารเข้ามาจัดการป่านนี้คงกลายเป็น “จำเลย” ซวยซ้ำแน่นอน แต่ตอนนี้ได้แต้ม โชคดีไป !!