00 กำลังเดิมพันอนาคตกันอย่างน่าระทึก สำหรับปริมาณน้ำ (ไม่ชอบคำว่าก้อนน้ำ) ที่กำลังไหลทะลักเข้ามาประชิดพระนคร ขณะที่บางส่วนได้เริ่มเล็ดลอดเข้ามาบ้างแล้ว จน ศปภ.ได้ออกแถลงเตือนให้เตรียมรับมืออย่างเป็นทางการ เมื่อพูดถึงศูนย์ดังกล่าวก็เพิ่งเห็นภาพที่พอเชื่อถือและดูเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาบ้าง และคราวนี้กลายเป็น พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ฯ อ่านแถลงการณ์ด้วยตัวเอง แม้ว่าบางครั้งมันก็ไม่จำเป็นต้องออกโรงแถลงแบบนี้ก็ได้ แต่ในเมื่อโฆษกทำหน้าที่สร้างความสับสน ก็เลยต้องมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงกันใหม่
00 แทนที่จะให้ ปลอดประสพ สุรัสวดี ที่ออกท่าทางเพี้ยนๆ มามีบทบาทอยู่นานหลายวัน เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ความเสียหายย่อยยับที่เกิดขึ้นมาจากคนประเภทนี้ เพราะการให้ข้อมูลที่สับสน จนสร้างความตื่นตระหนก และที่สำคัญมันผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง อ้อ อีกคนที่ต้องถีบออกไปให้ไกลก็คือ โฆษกที่ชื่อคล้ายน้ำยาขัดส้วม “วิม” อะไรนั่น เพราะมันอ่อนหัด แต่อยากโชว์
00 ได้อ่านข่าวเมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่บรรดาหัวโจกแดงไปสุมหัวแถลงกันที่อิมพีเรียลลาดพร้าว มากันครบทั้ง “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ เหวงโตจิราการ ธิดา ถาวรเศรษฐ์ เป็นต้น ออกมาโบ้ยโยนความผิดให้กับคนอื่น อ้างว่าสาเหตุที่การแก้ปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล ปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ล้มเหลวเป็นเพราะ “ถูกวางยา” ทั้งจากระบบราชการ พวกปชป.อีกขั้วหนึ่ง รวมไปถึงฝ่ายทหารที่เข้าไปช่วยแบบไม่จริงจัง มีเจตนาทำให้ทุกอย่างหายนะ โอ พระเจ้า ประเทศเรายังมีคนที่มีจิตใจอุบาทว์ คิดชั่วแบบนี้อีกหรือ !!
00 ไม่อยากจะด่าให้เสียน้ำลาย เพราะคนประเภทนี้ถือว่า “ไร้ค่า” เกินกว่าที่จะไปกล่าวถึง เพียงแต่รู้สึกแปลกใจจริงๆว่ายังมีคนประเภทนี้ และยังคงปล่อยให้มีบทบาทสร้างความฉิบหายย่อยยับไม่จบสิ้น ที่ผ่านมานอกจากจะรู้สำนึกว่าพี่น้องคนเสื้อแดงที่เป็นฐานให้ตัวเองเหยียบขึ้นไปเป็นผู้ทรงเกียรติ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น ตรงกันข้ามจากเคยอดมื้อกินมื้อ กลายเป็นอำมาตย์ใหม่โก้หรู แต่พอเพื่อนพ้องน้องพี่ของตัวเองเดือดร้อน กลับไม่เคยเหลียวแลดูใจ คนแบบนี้พูดไปก็เสียเวลาเปล่า เมื่อมีคนประเภทนี้ก็อยากให้รัฐบาลชุดนี้อยู่ต่อไปนานๆ อย่าให้จมน้ำตายเสียก่อนก็แล้วกัน
00 สังเกตหรือไม่ว่าในช่วงหลายวันมานี้ จะเริ่มเห็นการปรากฏตัวของพวกบ้านเลขที่ 111 หลายคนในยุคพรรคไทยรักไทย เอาหลักๆ ก็เห็นจะเป็น จาตุรนต์ ฉายแสง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นต้น ตอนแรกก็เข้าร่วมประชุมให้กล้องถ่ายภาพเห็นแว๊บ แว๊บ ถัดมาก็ค่อยๆ ชัดขึ้น จนกระทั่งร่วมออกทีวีแสดงความคิดเห็น ก็ว่ากันไป ต้องการให้ภาพออกมาเป็นการร่วมไม้ร่วมมือกันแบบไม่ต้องกีดกัน แต่อีกมุมหนึ่งนี่คือการฉวยโอกาสหาเสียงแย่งซีนคนอื่น มันก็ย่อมสร้างความหมั่นไส้กับอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งก็เป็นคนกันเองในพรรคเพื่อไทยนั่นแหละ เพราะอีกไม่นานคนพวกนี้ก็จะพ้นโซ่ตรวนออกมาในราวเดือนพฤษภาคมปีหน้า เท่าที่จับอาการออกแน่นอนก็คือ สุดารัตน์ ฝันจะลงชิงเก้าอี้ ผู้ว่าฯกทม. ค่อนข้างแน่ พอเห็นอะไรบ้างหรือยัง !!
00 แทนที่จะให้ ปลอดประสพ สุรัสวดี ที่ออกท่าทางเพี้ยนๆ มามีบทบาทอยู่นานหลายวัน เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ความเสียหายย่อยยับที่เกิดขึ้นมาจากคนประเภทนี้ เพราะการให้ข้อมูลที่สับสน จนสร้างความตื่นตระหนก และที่สำคัญมันผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง อ้อ อีกคนที่ต้องถีบออกไปให้ไกลก็คือ โฆษกที่ชื่อคล้ายน้ำยาขัดส้วม “วิม” อะไรนั่น เพราะมันอ่อนหัด แต่อยากโชว์
00 ได้อ่านข่าวเมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่บรรดาหัวโจกแดงไปสุมหัวแถลงกันที่อิมพีเรียลลาดพร้าว มากันครบทั้ง “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ เหวงโตจิราการ ธิดา ถาวรเศรษฐ์ เป็นต้น ออกมาโบ้ยโยนความผิดให้กับคนอื่น อ้างว่าสาเหตุที่การแก้ปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล ปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ล้มเหลวเป็นเพราะ “ถูกวางยา” ทั้งจากระบบราชการ พวกปชป.อีกขั้วหนึ่ง รวมไปถึงฝ่ายทหารที่เข้าไปช่วยแบบไม่จริงจัง มีเจตนาทำให้ทุกอย่างหายนะ โอ พระเจ้า ประเทศเรายังมีคนที่มีจิตใจอุบาทว์ คิดชั่วแบบนี้อีกหรือ !!
00 ไม่อยากจะด่าให้เสียน้ำลาย เพราะคนประเภทนี้ถือว่า “ไร้ค่า” เกินกว่าที่จะไปกล่าวถึง เพียงแต่รู้สึกแปลกใจจริงๆว่ายังมีคนประเภทนี้ และยังคงปล่อยให้มีบทบาทสร้างความฉิบหายย่อยยับไม่จบสิ้น ที่ผ่านมานอกจากจะรู้สำนึกว่าพี่น้องคนเสื้อแดงที่เป็นฐานให้ตัวเองเหยียบขึ้นไปเป็นผู้ทรงเกียรติ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น ตรงกันข้ามจากเคยอดมื้อกินมื้อ กลายเป็นอำมาตย์ใหม่โก้หรู แต่พอเพื่อนพ้องน้องพี่ของตัวเองเดือดร้อน กลับไม่เคยเหลียวแลดูใจ คนแบบนี้พูดไปก็เสียเวลาเปล่า เมื่อมีคนประเภทนี้ก็อยากให้รัฐบาลชุดนี้อยู่ต่อไปนานๆ อย่าให้จมน้ำตายเสียก่อนก็แล้วกัน
00 สังเกตหรือไม่ว่าในช่วงหลายวันมานี้ จะเริ่มเห็นการปรากฏตัวของพวกบ้านเลขที่ 111 หลายคนในยุคพรรคไทยรักไทย เอาหลักๆ ก็เห็นจะเป็น จาตุรนต์ ฉายแสง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นต้น ตอนแรกก็เข้าร่วมประชุมให้กล้องถ่ายภาพเห็นแว๊บ แว๊บ ถัดมาก็ค่อยๆ ชัดขึ้น จนกระทั่งร่วมออกทีวีแสดงความคิดเห็น ก็ว่ากันไป ต้องการให้ภาพออกมาเป็นการร่วมไม้ร่วมมือกันแบบไม่ต้องกีดกัน แต่อีกมุมหนึ่งนี่คือการฉวยโอกาสหาเสียงแย่งซีนคนอื่น มันก็ย่อมสร้างความหมั่นไส้กับอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งก็เป็นคนกันเองในพรรคเพื่อไทยนั่นแหละ เพราะอีกไม่นานคนพวกนี้ก็จะพ้นโซ่ตรวนออกมาในราวเดือนพฤษภาคมปีหน้า เท่าที่จับอาการออกแน่นอนก็คือ สุดารัตน์ ฝันจะลงชิงเก้าอี้ ผู้ว่าฯกทม. ค่อนข้างแน่ พอเห็นอะไรบ้างหรือยัง !!