วานนี้ (23 ต.ค.) นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิฯ) กล่าวถึงกรณีนายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ประธาน กมธ.การทหาร เสนอตัดงบดูงานของแต่ละกรรมาธิการแต่ละคณะ เพื่อนำไปช่วยฟื้นฟูประเทศหลังน้ำลด ว่า ส่วนตัวเห็นด้วย และมีทางเป็นไปได้ที่วุฒิสภา จะตัดงบประมาณส่วนนี้ เพื่อนำไปใช้ฟื้นฟูประเทศด้วย
โดยในการประชุมวิปวุฒิฯในวันที่ 26 ต.ค.นี้ ตนจะนำเรื่องนี้เข้าหารือต่อที่ประชุม เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะทุกคนรู้ดีว่าบ้านเมืองประสบภัยพิบัติ นอกจากนี้ ใกล้จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2555 ในชั้นการพิจารณาของ กมธ. คงมีการพูดถึงเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งตนเห็นด้วยที่จะตัดงบฯดูงานของหน่วยงาน และราชการ รวมถึงงบประมาณที่ไม่จำเป็น เพื่อนำมาฟื้นฟูบ้านเมือง
เมื่อถามว่า มองแนวทางการแก้ปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ กทม. ระหว่างศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ของรัฐบาล กับทาง กทม. ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่ค่อยไปในทางเดียวกันอย่างไร นายนิคม กล่าวว่า ต่างคนต่างก็จะรักษาพื้นที่ของตัวเอง แต่ต้องทำงานบนพื้นฐานความจริงด้วย ในฐานะอดีตรองปลัดกทม. วันนี้ กทม. ต้องยอมเปิดประตูระบายน้ำให้ผันน้ำผ่านบ้าง ดีกว่าปล่อยให้ท่วมแล้วแช่ขังยาวนาน เพราะวันนี้ปริมาณน้ำด้านทิศเหนือ และตะวันออกยังอยู่อีกมหาศาล หากปล่อยให้ทะลักแล้วจะเอาไม่อยู่
ทั้งนี้ ระบบป้องกันน้ำท่วมของ กทม.มีประสิทธิภาพสูงอยู่แล้ว ต้องยอมให้กรุงเทพฯ ท่วมบ้าง เพื่อคลายความทุกข์ของคนต่างจังหวัดและปริมณฑล เพียงแต่ต้องแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ชาวบ้านรู้ จะได้รับมือทัน
"จนถึงวันนี้การเมืองยังเล่นกันหนัก ต้องขอร้องว่า เราต้องหันมาช่วยกัน ต้องพร้อมใจกันสู้ถึงจะฝ่าวิกฤตินี้ไปได้" นายนิคม กล่าว
โดยในการประชุมวิปวุฒิฯในวันที่ 26 ต.ค.นี้ ตนจะนำเรื่องนี้เข้าหารือต่อที่ประชุม เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะทุกคนรู้ดีว่าบ้านเมืองประสบภัยพิบัติ นอกจากนี้ ใกล้จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2555 ในชั้นการพิจารณาของ กมธ. คงมีการพูดถึงเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งตนเห็นด้วยที่จะตัดงบฯดูงานของหน่วยงาน และราชการ รวมถึงงบประมาณที่ไม่จำเป็น เพื่อนำมาฟื้นฟูบ้านเมือง
เมื่อถามว่า มองแนวทางการแก้ปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ กทม. ระหว่างศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ของรัฐบาล กับทาง กทม. ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่ค่อยไปในทางเดียวกันอย่างไร นายนิคม กล่าวว่า ต่างคนต่างก็จะรักษาพื้นที่ของตัวเอง แต่ต้องทำงานบนพื้นฐานความจริงด้วย ในฐานะอดีตรองปลัดกทม. วันนี้ กทม. ต้องยอมเปิดประตูระบายน้ำให้ผันน้ำผ่านบ้าง ดีกว่าปล่อยให้ท่วมแล้วแช่ขังยาวนาน เพราะวันนี้ปริมาณน้ำด้านทิศเหนือ และตะวันออกยังอยู่อีกมหาศาล หากปล่อยให้ทะลักแล้วจะเอาไม่อยู่
ทั้งนี้ ระบบป้องกันน้ำท่วมของ กทม.มีประสิทธิภาพสูงอยู่แล้ว ต้องยอมให้กรุงเทพฯ ท่วมบ้าง เพื่อคลายความทุกข์ของคนต่างจังหวัดและปริมณฑล เพียงแต่ต้องแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ชาวบ้านรู้ จะได้รับมือทัน
"จนถึงวันนี้การเมืองยังเล่นกันหนัก ต้องขอร้องว่า เราต้องหันมาช่วยกัน ต้องพร้อมใจกันสู้ถึงจะฝ่าวิกฤตินี้ไปได้" นายนิคม กล่าว
