xs
xsm
sm
md
lg

น้ำชีทะลักท่วมสารคาม ชาวบ้านอพยพโกลาหล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูมิภาค - แม่น้ำชีล้นตลิ่งทะลักท่วมบ้านเรือนชาวมหาสารคามกลางดึกหนีจ้าละหวั่น ชาวบ้านกว่า 120 ครัวเรือนไร้ที่อยู่อพยพทิ้งหมู่บ้านนอนข้างถนน "เมืองพิมาย"โคราชจ่อถูกท่วมซ้ำอีก หลังระดับน้ำแตะจุดวิกฤต ระดมป้องกันสถานที่สำคัญเต็มที่ "ขอนแก่น"น้ำเริ่มลด ผู้ว่าฯเตรียมถกหาแผนฟื้นฟู ด้าน"พิจิตร"อากาศเริ่มหนาวเย็นซ้ำเติมชาวบ้านเหยื่อน้ำท่วมอีก "ปากน้ำโพ"น้ำเริ่มเน่าเหม็นจากขยะที่ลอยเกลื่อน "กรุงเก่า"ยังจม วัดหนัญเชิงฯเสริมกระสอบทรายต่อเนื่อง"ปภ."เตือนผู้ประสบภัยน้ำท่วมรับมืออากาศหนาว

วานนี้ (20 ต.ค.) ที่บ้านดินดำ ม.1 และ 11 ต.เกิ้ง อ.เมืองมหาสารคาม น้ำจากแม่น้ำชีได้ล้นตลิ่งไหลเอ่อเข้าท่วมหมู่บ้านราษฎรกว่า 300 ครัวเรือนอย่างฉับพลัน โดยที่ชาวบ้านไม่ทันได้ตั้งตัวและไม่สามารถเก็บสิ่งของขึ้นไปไว้ที่สูงได้ทันจนได้รับความเสียหาย เนื่องจากเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงกลางดึกขณะที่ชาวบ้านกำลังหลับนอนอย่างสบาย

ขณะเดียวกัน น้ำยังได้ไหลเข้าท่วมถนนสายมหาสารคาม-กันทรวิชัย ระยะทางกว่า 300 เมตร ต้องปิดการจราจร 2 ช่องทาง ทำให้รถสัญจรได้เพียงช่องทางเดียวเท่านั้น ทำให้ในชั่วโมงเร่งด่วนมีรถติดยาวกว่า 1 กิโลเมตรจนถึงสี่แยกบ้านวังยาว

รายงานข่าวแจ้งว่า ระดับน้ำในแม่น้ำชีที่ไหลผ่าน จ.มหาสารคาม ยังคงเพิ่มสูงขึ้น ถึงแม้เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น จะลดการระบายน้ำก็ตาม ซึ่ง 4 อำเภอที่อยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำชี คือ อ.เชียงยืน โกสุมพิสัย กันทรวิชัย และ อ.เมือมหาสารคาม ยังคงได้รับผลกระทบแผ่ขยายออกเป็นวงกว้าง

ขณะที่นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมนายอำเภอโกสุมพิสัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บ้านปลาปัด ม.3 ต.ยางท่าแจ้ง อ.โกสุมพิสัย เพื่อตรวจสถานการณ์น้ำ ซึ่งหมู่บ้านดังกล่าวถูกน้ำท่วมขังทั้งหมู่บ้านระดับน้ำลึกกว่า 2 เมตร ชาวบ้าน 129 ครัวเรือน 485 คนต้องอพยพมาอาศัยพักพิงอยู่บนถนน หน้าหมู่บ้าน โดยมีเต็นท์ของ อบต.ยางท่าแจ้งกว่า 30 หลังใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราวให้ชาวบ้านได้อาศัยเป็นที่หลับนอน

ทั้งนี้ รองผู้ว่าฯได้นั่งเรือเข้าไปตรวจสภาพน้ำในหมู่บ้าน และได้มอบผ้าห่มกันหนาวให้กับชาวบ้านด้วยเนื่องจาก จ.มหาสารคาม เริ่มย่างเข้าสู่ฤดูหนาว อากาศหนาวเย็นลง

**น้ำเพิ่มระดับจ่อถล่มพิมายซ้ำอีก

น.ส.กรรณิกา พัฒนพีระเดช นายกเทศมนตรีตำบลพิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เผยว่า แม้สถานการณ์น้ำในลำน้ำมูลจะยังไม่ถึงจุดวิกฤต แต่ในบางช่วงของลำน้ำซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตเทศบาลตำบลพิมาย น้ำได้เริ่มเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรกว่า 100 หลังคาเรือนและหน่วยงานราชการหลายแห่งเป็นบริเวณกว้าง และยังคงขยายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปริมาณน้ำในลำน้ำมูลยังคงเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยวันละ 5 ซม.ทางเทศบาลตำบลพิมายจำเป็นที่จะต้องประกาศแจ้งเตือนภัยระดับที่ 3 ให้เร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงและเตรียมพร้อมรับฟังสถานการณ์จากทางเทศบาลฯ เพื่อเตรียมการอพยพตลอด 24 ชม. ซึ่งคาดการณ์ว่า สถานการณ์จะเข้าสู่จุดวิกฤตสูงสุดภายในสัปดาห์หน้า เนื่องจากมวลน้ำที่ล้นออกมาจากอ่างเก็บน้ำต่างๆ ของ จ.นครราชสีมา จะมาถึง

รายงานข่าวแจ้งว่า ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย ภายในเขตเทศบาลตำบลพิมาย อ.พิมาย เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันก่อแนวกำแพงล้อมรอบใบเสมาเก่าแก่อายุกว่า 1,000 ปี รวมถึงโบราณวัตถุสำคัญๆ ขนาดใหญ่ซึ่งขนย้ายไม่ได้ ที่วางเรียงรายอยู่โดยรอบอาคารที่ทำการพิพิธภัณฑ์ รวม 10 ชิ้นเพื่อใช้เป็นกำแพงป้องกันน้ำจากลำน้ำมูลที่กำลังจะเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่โดยรอบพิพิธภัณฑ์ฯ เนื่องจากสถานที่ตั้งพิพิธภัณฑ์ฯอยู่ห่างจากลำน้ำมูลไม่ถึง 10 เมตร ในขณะที่ปริมาณน้ำภายในลำน้ำมูลขณะนี้ใกล้ที่จะเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่

ขณะเดียวกันโบราณวัตถุที่สำคัญๆ กว่า 100 ชิ้นที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ทางเจ้าหน้าที่ได้นำไปเก็บรวบรวมไว้ในการอาคารเก็บรักษาที่อยู่ใกล้จากแนวตลิ่งลำน้ำมูลกว่า 200 เมตรและได้ทำการก่อแนวกำแพงสูง 60 ซม.ล้อมรอบอาคารเพื่อป้องกันน้ำไม่ให้ทะลักเข้าท่วมโบราณวัตถุเหล่านั้นอีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้ ยังได้มีการนำพลาสติกมีห่อทับชิ้นวัตถุโบราณที่ไม่สามารถจะถูกน้ำไว้อีกชั้นเตรียมพร้อมไว้ด้วยอีกทางหนึ่ง

**พนังดินกั้นน้ำชีกาฬสินธุ์แตก4จุด

ที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ในช่วงวิกฤตโดยเฉพาะพื้นที่ อ.ฆ้องชัย และ อ.กมลาไสย หลังระดับน้ำชีเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องส่งผลให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมไร่นาและบ้านเรือนประชาชนใน ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย ไปจนถึง ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย ระยะทางกว่า 50 กม.กว่า 200หลังคาเรือนแล้วชาวบ้านต่างพากันเร่งนำกระสอบทรายมาเสริมพนังให้ขึ้นสูงอีก 1.5 เมตร พร้อมกับจัดเวรยามเดินและเฝ้าสังเกตการณ์จุดเสี่ยงตลอด 24 ชั่วโมง

ล่าสุดกระแสน้ำได้เซาะพนังดินกั้นน้ำชีบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 22 เขต ต.ธัญญา อ.กมลาไสย พังทลายพร้อมกัน 4 จุดยาวกว่า 200 เมตรส่งผลให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมไร่นาเพิ่มอีกอย่างน้อย 10,000 ไร่และไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงอีกหลายหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ต้องสั่งอพยพประชาชนขึ้นที่สูง พร้อมระดมคนและเครื่องจักรเร่งอุดรอยแตกอย่างเร่งด่วน

**ขอนแก่นน้ำลดเตรียมถกแผนฟื้นฟู

นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.ขอนแก่นขณะนี้เริ่มลดลงแล้ว โดยตอนนี้ได้สำรวจพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมามีประมาณ 300,000 ไร่ คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 400 ล้านบาท ส่วนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะอยู่ระหว่างรวบรวมตัวเลขจากอำเภอต่างๆ อยู่ ก่อนที่จะมีการประชุมร่วมกับคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งดำเนินการฟื้นฟูโดยเร็ว ในวันที่ 25 ต.ค.นี้

**นครสวรรค์เริ่มเน่าจากขยะลอยน้ำ

สถานการณ์น้ำท่วมที่เขตเทศบาลนครนครสวรรค์ ระดับที่ลดลงต่อเนื่องจากการสามารถปิดกั้นพนังกั้นน้ำที่พังลงได้ทั้งหมด ทำให้น้ำไม่เกิดการหมุนเวียน ล่าสุดได้ปรากฎว่าน้ำเริ่มเน่าเหม็นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจที่ยังมีน้ำขังอยู่ในปริมาณมาก ระดับน้ำท่วมยังสูงกว่า 1 เมตร และมีขยะในปริมาณมากที่ลอยอยู่ตามท้องถนนและเกิดการเน่าเสีย ส่งกลินเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว ซึ่งล่าสุดเทศบาลนครนครสวรรค์ ได้เตรียมหาสารอีเอ็มมาช่วยย่อยสารและกำจัดน้ำเน่าเสียเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนแล้ว

**พิจิตรน้ำลด-คนยังจมน้ำตายวันเว้นวัน

ที่ จ.พิจิตร นายสัลเลข คำใจ ปภ.พิจิตร กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่ลุ่มแม่น้ำยม และแม่น้ำน่านที่น้ำท่วมขังมายาวนานตั้งแต่กลางเดือน ก.ค.จนถึงวันนี้ระดับน้ำที่เคยท่วมสูงล้นตลิ่งเกือบ 2 เมตร ขณะนี้น้ำได้เริ่มลดลงแล้ว แต่ในพื้นที่ริมแม่น้ำและพื้นที่ลุ่มยังคงมีน้ำท่วมขัง ประชาชนยังคงต้องใช้เรือพายในการสัญจรไปมา อีกทั้งยังมีอีกเป็นจำนวนมากที่ยังต้องอพยพมาอาศัยนอนอยู่ริมถนน ซึ่งขณะนี้ในยามค่ำคืนก็เริ่มมีอากาศหนาวเย็น โดยมีอุณหภูมิช่วงกลางดึกอยู่ที่ประมาณ 23-25 องศาฯ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตสะสม จากการตกน้ำตายแล้วมากถึง 48 ราย ซึ่งนับเป็นสถิติผู้เสียชีวิตจากการตกน้ำตายมากที่สุดในประเทศไทย

**วัดพนัญเชิงฯยังคงเสริมกระสอบทราย

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 16 อำเภอของ จ.พระครศรีอยุธยา ยังวิกฤตอยู่เช่นเดิม โดยที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพระอารามหลวงชั้นโท เนื้อที่ 82 ไร่เศษ มีพระพุทธไตรรัตนายก หรือหลวงพ่อโต เป็นที่เคารพของคนทั่วไปยังคงระดมกำลัง ตชด.จากกองร้อยต่าง ๆ กว่า 200 นาย ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเสริมแนวกระสอบทรายหลังบังเกอร์ไม้ และบังเกอร์คันดินที่ทำเอาไว้ก่อนหน้าแล้วหลังจากมีข่าวว่าจะมีมวลน้ำมาจากทางเหนือและยังมีฝนตกอีก ซึ่งระดับน้ำด้านนอกคันป้องกันแม่น้ำเจ้าพระยาขณะนี้มีระดับต่ำกว่าแนวป้องกันเพียง 20 ซม.โดยที่กำแพงป้องกันมีความสูงถึง 5.10 ม.แล้ว

**เตือนเหยื่อน้ำท่วมรับมือภัยหนาว

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรม ปภ.กล่าวว่า จากการติดตามสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าระยะนี้มีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมตอนบนของประเทศ ทำให้ทั่วทุกภาคมีอุภูมิอากาศลดลง 2-3 องศาฯ ประกอบกับขณะนี้บางพื้นที่โดยเฉพาะภาคกลางต้องประสบภาวะน้ำท่วมขัง ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากสภาวะอากาศหนาวซ้ำเติม
กำลังโหลดความคิดเห็น