ASTVผู้จัดการรายวัน - ตุลาการศาลปกครองส่งหมายแจ้งคำสั่งศาลถึงทนายความพันธมิตรฯ แจ้งรับคำฟ้อง กรณีมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ยื่นฟ้อง ปตท.-กระทรวงการคลัง ฐานกระจายหุ้น ปตท.ให้เอกชนโดยมิชอบและให้การซื้อขายหุ้นทั้งหมดเป็นโมฆะ
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินกับประชาชนรวม 6 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และกระทรวงการคลัง ต่อศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2554 เพื่อขอให้เพิกถอนการซื้อขายหุ้นให้เอกชนทั้งหมด ทวงคืนสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ได้มาจากอำนาจมหาชนของรัฐและขอให้เพิกถอนใบหุ้นและบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้มาโดยวิธีฉ้อฉล
ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา ศาลปกครองกลางได้ออกหมายแจ้งคำสั่งศาลถึงนายสุวัตร อภัยภักดิ์ และ/หรือ นายอติชาติ แสงขาว และ/หรือ นายชยธร ภู่นิยม ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากผู้ฟ้องคดี
เนื้อความในหมายแจ้งระบุว่า ด้วยคดีเรื่องนี้ ศาลได้พิจารณาคำร้องขอออกหมายเรียกพยานเอกสาร ฉบับลงวันที่ 22 กันยายน 2554 ของผู้ฟ้องคดีทั้งหกแล้วเห็นว่า กรณียังไม่สมควรเรียกพยานหลักฐานจึงยกคำขอ อนึ่ง ศาลได้มีคำสั่งรับคำฟ้องของผู้ฟ้องคดีทั้งหกไว้พิจารณาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2554 ฉะนั้น จึงแจ้งมาเพื่อทราบ ลงนามโดยนายประวิตร บุญเทียม ตุลาการศาลปกครอง
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายปานเทพ วงศ์พัวพันธ์ โฆษก และนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ตัวแทนมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน พร้อมด้วยประชาชนราว 30 คนที่ได้ผลกระทบจากการเปิดกระจายหุ้นของ ปตท.ได้ยื่นฟ้อง บริษัทปตท. และกระทรวงการคลัง ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้1.เพิกถอนใบหุ้นและบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
2.ขอให้ศาลพิพากษาให้หุ้นในโรงกลั่นน้ำมันจำนวน 4 โรง ที่บริษัทปตท.ถือครองตกเป็นของแผ่นดิน 3.ขอให้ศาลพิพากษาให้กระทรวงการคลัง ดำเนินการทวงคืนสาธารณะสมบัติอันได้มาจากอำนาจตามกฎหมายมหาชน คือโรงกลั่น ท่อส่งก๊าซ และอุปกรณ์ ส่วนที่ยังไม่ได้คืนทั้งบนบกและในทะเล รวมทั้งเงินค่าใช้บริการท่อส่งก๊าซ และดอกผลของการใช้ท่อส่งก๊าซทั้งหมด ให้ตกเป็นของแผ่นดิน โดยศาลได้รับคำฟ้องไว้เป็นหมายเลขคดีดำที่ 1912/2554.
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินกับประชาชนรวม 6 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และกระทรวงการคลัง ต่อศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2554 เพื่อขอให้เพิกถอนการซื้อขายหุ้นให้เอกชนทั้งหมด ทวงคืนสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ได้มาจากอำนาจมหาชนของรัฐและขอให้เพิกถอนใบหุ้นและบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้มาโดยวิธีฉ้อฉล
ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา ศาลปกครองกลางได้ออกหมายแจ้งคำสั่งศาลถึงนายสุวัตร อภัยภักดิ์ และ/หรือ นายอติชาติ แสงขาว และ/หรือ นายชยธร ภู่นิยม ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากผู้ฟ้องคดี
เนื้อความในหมายแจ้งระบุว่า ด้วยคดีเรื่องนี้ ศาลได้พิจารณาคำร้องขอออกหมายเรียกพยานเอกสาร ฉบับลงวันที่ 22 กันยายน 2554 ของผู้ฟ้องคดีทั้งหกแล้วเห็นว่า กรณียังไม่สมควรเรียกพยานหลักฐานจึงยกคำขอ อนึ่ง ศาลได้มีคำสั่งรับคำฟ้องของผู้ฟ้องคดีทั้งหกไว้พิจารณาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2554 ฉะนั้น จึงแจ้งมาเพื่อทราบ ลงนามโดยนายประวิตร บุญเทียม ตุลาการศาลปกครอง
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายปานเทพ วงศ์พัวพันธ์ โฆษก และนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ตัวแทนมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน พร้อมด้วยประชาชนราว 30 คนที่ได้ผลกระทบจากการเปิดกระจายหุ้นของ ปตท.ได้ยื่นฟ้อง บริษัทปตท. และกระทรวงการคลัง ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้1.เพิกถอนใบหุ้นและบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
2.ขอให้ศาลพิพากษาให้หุ้นในโรงกลั่นน้ำมันจำนวน 4 โรง ที่บริษัทปตท.ถือครองตกเป็นของแผ่นดิน 3.ขอให้ศาลพิพากษาให้กระทรวงการคลัง ดำเนินการทวงคืนสาธารณะสมบัติอันได้มาจากอำนาจตามกฎหมายมหาชน คือโรงกลั่น ท่อส่งก๊าซ และอุปกรณ์ ส่วนที่ยังไม่ได้คืนทั้งบนบกและในทะเล รวมทั้งเงินค่าใช้บริการท่อส่งก๊าซ และดอกผลของการใช้ท่อส่งก๊าซทั้งหมด ให้ตกเป็นของแผ่นดิน โดยศาลได้รับคำฟ้องไว้เป็นหมายเลขคดีดำที่ 1912/2554.