สอดแนมการเมือง
โดย : ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย
มนุษย์-เกิดและตายหนเดียว การทำคุณงามความดีจึงเป็นมรรคาแห่งชีวิต!
คนไทยที่เปี่ยมความยุติธรรม ย่อมรับรู้ถึงเกียรติ์ประวัติการต่อสู้อย่างสันติอหิงสา ของประชาชนในนาม“พันธมิตรฯ”หรือ“คนเสื้อเหลือง”ว่า
พวกเขารักชาติ-ศาสน์-กษัติรย์ กล้าเสียสละ-กล้าหาญ-กล้าตาย จนสามารถขับไล่รัฐบาลโกงชาติบ้านเมือง ทั้งทักษิณ-สมัคร-สมชาย รวมทั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์ ด้วย
การที่พันธมิตรฯต้องเสี่ยงชีวิตออกมาขับไล่ รัฐบาลทักษิณ-สมัคร-สมชาย-อภิสิทธิ์ ตั้งแต่ปี 2548-2554 ก็เพราะรัฐบาลเหล่านั้น..คอร์รัปชั่นโกงกินชาติปล่อยให้ขบวนการ“ล้มเจ้า”เติบใหญ่ตลอดเวลา
รวมทั้งส่อทีท่า“สมยอม”ให้เขมรฮุนเซน บุกเข้ามายึดครองผืนดินไทยโดยอาศัยจุดอ่อนจาก MOU2543 ที่“รัฐบาลชวน”แอบเซ็นรับรองแผนที่ของเขมรจนเกิดแบ่งเส้นเขตแดนใหม่ล้ำเข้ามาในดินแดนไทย
รัฐบาลดังกล่าวข้างต้นทั้งหมด ไม่เคยดำเนินการต่อสู้-ขัดขวาง-ผลักดันอย่างจริงจัง ให้กองกำลังเขมรออกจากผืนแผ่นดินไทยเลย อีกทั้งยังทำให้ไทยเสียเปรียบเขมรในเวทีสากลตลอดเวลา สุ่มเสี่ยงต่อการเสียดินแดนให้กับชาติเขมรอยู่รอมร่อ
ทั้งหมดเพราะนักการเมืองไทยบางคน หวังผลประโยชน์จากบ่อน้ำมันใต้ท้องทะเลไทย-กัมพูชาครับ
การต่อสู้กับรัฐบาลสามานย์ทักษิณของพันธมิตรฯ ได้เป็นข้ออ้างให้ทหารกลุ่มหนึ่งฉวยโอกาสรัฐประหารล้มรัฐบาลทักษิณลง
เป็นงานแรก-ที่พันธมิตรฯเหนื่อยเปล่ากับการ “เตะหมูเข้าปากหมา” เพราะรัฐบาลของคณะรัฐประหารที่ขึ้นครองอำนาจรัฐ ไม่ได้ทำอะไรเป็นคุณเอนกอนันต์ให้ชาติไทยเท่าที่ควร
เพราะนอกจากจะไม่มีการปฏิรูปทางการเมืองแล้วยังไม่ได้ลงโทษทักษิณและพวกอย่างจริงจังอีกด้วย พวกเขาทำแค่ยึดอำนาจรัฐจากทักษิณ มาไว้ในกำมือพวกตนเป็นการชั่วคราวเท่านั้น!
รัฐประหาร19 กันยายน2549 จึงได้ไม่คุ้มเสีย..เพราะ“เยี่ยวไม่สุด” แถมรัฐบาล“พล.อ.สุรยุทธ์”ยังเร่งให้มีการเลือกตั้ง จนทักษิณใช้เงินซื้อเสียงและกลโกงเอาชนะการเลือกตั้งได้อีกครั้งในปี 2550
ทักษิณ-จึงตั้งรัฐบาลนอมีนี สมัคร สุนทรเวช ขึ้นปกครองบ้านเมือง แต่ทักษิณยังไม่เปลี่ยน-ยังเหิมเกริม ยังใช้กลไกรัฐคอร์รัปชั่นโกงกินบ้านเมือง แถมยังตั้งขบวนการ“ล้มเจ้า”บางคนเป็นรัฐมนตรี และร้อนรนกับการจะยกทิ้งความผิดในคดีความของตน ด้วยวิธีจะฉีกรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ทิ้งอีกด้วย
พันธมิตรฯจึงต้องชุมนุมขับไล่รัฐบาลสามานย์อีกครั้ง เมื่อนายสมัครต้องคำพิพากษาของศาลฯ จนหลุดจากตำแหน่งนายกฯอย่างฉับพลัน ทักษิณก็ดันน้องเขยขึ้นเป็นนายกฯหุ่นเชิดต่อทันที โดยที่พันธมิตรฯยังคงชุมนุมขับไล่ รัฐบาลนอมีนีทักษิณอย่างต่อเนื่อง
7 ตุลาคม 2551รัฐบาลหุ่น“สมชาย วงศ์สวัสดิ์”ได้สั่งตำรวจ ให้ปฏิบัติการเข่นฆ่าประชาชนอย่างโหดเหี้ยมที่หน้ารัฐสภา เพียงเพื่อนายสมชายจะเข้าไปแถลงนโยบายรัฐบาลของตนในสภาฯ!
ทว่า..การบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก จากกระทำของรัฐบาลฆาตกร“สมชาย” ไม่ได้ทำให้พันธมิตรฯทั้งหลายหวาดกลัวแม้แต่น้อย พันธมิตรฯยังคงปักหลักชุมนุมสู้กับรัฐบาลอธรรม นอมีนีของทักษิณต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ
จนเป็นข้ออ้างที่ทหารและนักการเมืองกลุ่มหนึ่ง ฉวยโอกาส“พลิกขั้ว”การเมือง ด้วยการ“ถีบ-สมชาย”ตกจากเก้าอี้นายกฯ แล้ว“ดัน-อภิสิทธิ์”ขึ้นนั่งตำแหน่งนายกฯแทน
นับเป็นงานที่พันธมิตรฯ ยังคงเหนื่อยเปล่าซ้ำสอง แถมไม่ได้“เตะหมูเข้าปากหมาน้อยธรรมดา”นะ แต่ “เตะหมูเข้าปากฝูงหมาป่าเจ้าเล่ห์” ที่เป็นนายทหารและนักการเมืองครับ
น่าเสียดาย..ที่รัฐบาล“ฝูงหมาป่า”อย่างมาร์ค-เทือก-ห้อย-ป้อม-ป๊อก ยังหน้ามืดตามัวย่ำเท้าอยู่กับการเมืองน้ำเน่าล้าหลัง ซึ่งไม่มีวันจะเอาชนะทักษิณกับพวกได้เลย นั่นคือ
เป็นรัฐบาลที่ไม่ยอมลงโทษทักษิณกับพวกอย่างจริงจัง เต็มไปด้วยการคอร์รัปชั่นโกงกินกันอย่างโจ๋งครึ่ม เพื่อสะสมเงินทองไว้ซื้อเสียงแข่งกับทักษิณผลาญเงินชาติสูญเปล่าไปกับการหาเสียง อีกทั้งยังเป็นรัฐบาลที่ปล่อยขบวนการ“ล้มเจ้า” ให้อาละวาดล้มสถาบันกษัตริย์อย่างต่อเนื่อง
ที่สำคัญอย่างยิ่งก็คือ..รัฐบาล“หมาป่าฝูงนี้” ลุ่มหลงระบบการเมืองเน่าๆแบบเก่า จนไม่คิดและไม่ทำการปฏิรูปการเมืองแม้แต่น้อย!
นอกจากนั้น..รัฐบาล“มาร์ค”กับ“ฝูงหมาป่า” ยังให้ร้ายการต่อสู้ที่รักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ของพันธมิตรฯ ว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อชาติอย่างไร้เหตุผลอีกด้วย
เรียกว่า..นอกจากรัฐบาล“มาร์ค”กับ“ฝูงหมาป่า” จะไม่ทดแทนคุณผู้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิตอย่างพันธมิตรฯ ด้วยการปฏิรูปการเมืองและบริหารชาติบนความถูกต้องชอบธรรมแล้ว ยังกลับทำร้ายพลังอันดีงามของประชาชนอย่างเลือดเย็นอีกด้วย!
ทั้งหมดเพราะรัฐบาล“มาร์ค”กับ“ฝูงหมาป่า” กลัวจะโดนเปิดโปงความชั่วร้ายที่กระทำกันอยู่ จากเหล่าพันธมิตรฯที่ยึดถือชาติ และความถูกต้องเป็นสรณะครับ
นั่นทำให้“ฝูงหมาป่าบางตัว”กำจัด“ก้างขวางคอ” ด้วยการยัดข้อหา“ผู้ก่อการร้าย”ให้กับแกนนำพันธมิตรฯ ลงมือเข่นฆ่า“สนธิ ลิ้มทองกุล”ด้วยอาวุธสงครามนานาชนิดอย่างโหดเหี้ยม..แต่ไม่สำเร็จ!
เข้าสูตรพันธมิตรฯ“เตะหมูเข้าปากฝูงหมา” แต่แทนที่“ฝูงหมา”จะสำนึกใน “ข้าวแดงแกงร้อน” เจ้า“หมาฝูงนี้”กลับทำร้ายบ้านเมืองเสียเอง แถมยังเนรคุณหันมารุมกัดพันธมิตรฯอีกด้วย
สุดท้าย..ทักษิณอาศัยความอ่อนแอของรัฐบาลอภิสิทธิ์ รวมทั้งระบบเลือกตั้งและกกต.ที่เป็นง่อย ใช้เงินและกลโกงซื้อเสียงทั้งลับและเปิดเผย จนได้สส.เข้าสภามากเป็นอันดับหนึ่ง ยึดอำนาจรัฐได้อีกครั้งในปี 2554 นี้เอง
ทักษิณ-เชิด“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ให้เป็นนายกรัฐมนตรีหุ่น คนที่ 28 ของชาติไทย ทั้งๆที่เธอไร้เดียงสาทางการเมืองโดยสิ้นเชิง!
หลายสิบปีของระบอบประชาธิปไตย ที่ชาติไทยยึดถือการเลือกตั้งเป็นสรณะแต่ปล่อยให้มีโกงและใช้เงินซื้อเสียงกันได้อย่างเสรีนั้น ถือเป็นการเลือกตั้งที่กำมะลอเป็นประชาธิปไตยจอมปลอม ที่นำความเสียหายมาสู่ชาติไทยอย่างร้ายแรง นับวันยิ่งทวีความเสียหายมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ
การเลือกตั้งที่ชั่วร้ายนี้ ทำให้ชาติไทยได้นักการเมืองชั่วส่วนใหญ่ เข้ายึดครองรัฐสภาไว้ในกำมือ จากนั้นรัฐสภาเผด็จการก็จะตั้งนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลสามานย์เข้าไปยึดอำนาจรัฐ แล้วทำการโกงกินชาติบ้านเมืองต่อไป
นั่นคือ วงจรอุบาทว์ทางการเมืองของชาติไทยในหลายสิบปีที่ผ่านมา!
อย่าหวังและไม่มีวัน..ที่นักการเมืองน้ำเน่าพวกนี้ จะปฏิรูปการเมืองอันชั่วร้ายให้ดีขึ้น เพราะ“งาช้างไม่มีวันงอกออกจากปากหมา”นั่นเอง
หากชาติไทยไม่รีบปฏิรูปทางการเมืองครั้งใหญ่ ยังจมปลักอยู่ในระบบเลือกตั้ง ที่เต็มไปด้วยการซื้อเสียงและโกงกันเช่นนี้ ชาติไทยจะยังคงได้สส.ส่วนใหญ่และรัฐบาลที่ชั่วช้าต่อไปเรื่อยๆ..ไม่มีวันสิ้นสุด..
ประชาชนฉลาดขึ้นเรื่องๆ..การเมืองชั่วกำลังเดินเข้าตาจน บ้านเมืองหนีไม่พ้นต้องปฏิรูปการเมืองครั้งใหญ่อย่างแน่นอน!
ประชาธิปไตยมีหลายรูปแบบ การเลือกตั้งให้ได้มาซึ่งสส.เข้าสาภ..ก็มีหลายรูปแบบ การได้มาซึ่งรัฐบาล..ก็มีหลายรูปแบบ ผู้รักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ ต้องช่วยกันคิด-ช่วยกันทำเพื่อชาติบ้านเมือง และอนาคตของลูกหลานไทยเราครับ
หากการเมืองยังน้ำเน่าแบบนี้..สู้ให้ตายแล้วตายอีก ก็หนีไม่พ้นวงจรอุบาทว์“เตะหมูเข้าปากหมา”อีกตามเคย!
ทว่า..อย่าท้อแท้สิ้นหวังนะ ปัญหาร้ายๆในโลกนี้-คนชั่วสร้าง แน่นอน..คนดีต้องเข้ามาแก้ไขและทุกปัญหาล้วนแก้ไขได้ แต่ก่อนสู้-ก่อนแก้ไข-หรือก่อนจะ“เตะหมู” ต้องให้คนดีอีกกลุ่มคอย“เตะปากหมา”ด้วย เพราะ“หมา”ชอบฉวยโอกาส“กินหมู”ของพวกเราทุกทีสิน่า..
เมื่อใดก็ตาม..หากประชาชนคนไทยจำต้อง“เตะหมู” ก็จง“เตะปากหมา”ไปพร้อมๆ กันด้วยนะครับ..พ่อแม่พี่น้องพันธมิตรฯ..เอ้ยยย..!!!