สแน็กพันธ์ไทย “เวล-บี” ซุ่มลงทุน 100 ล้านบาท เพิ่มกำลังผลิต รับการเติบโต หลังเจาะช่องทางเซเว่นฯได้กว่า 7,700 สาขา พร้อมขยายส่งออก
นายณัฐวุฒิ เผ่าปรีชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจ-ลี่ แฟมิลี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสแน็กสุขภาพไทยแบรนด์ “เวล-บี” เปิดเผยว่า บริษัทฯอยู่ระหว่างเตรียมแผนลงทุนก่อสร้างโรงงานใหม่ใกล้โรงงานเดิมที่สมุทรสาคร คาดลงทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตอีกกว่า 500 ตันต่อปี จากเดิมผลิตได้ 200 ตันต่อปี เพื่อรองรับการขยายตัวเนื่องจากล่าสุดบริษัทฯได้ช่องทางจำหน่ายผ่านร้านเซเว่นอีเลฟเว่นทั่วประเทศรวม 7,700 สาขา และช่องทางคิงส์พาวเวอร์อีกทั่วประเทศ ทำให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น จากช่องทางเดิมที่ขายผ่านซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่เช่น ท็อปส์ เครือเดอะมอลล์ วิลล่ามาร์เก็ต ฟู้ดแลนด์ เลมอนฟาร์ม โกลเด้นเพลซ แฟมิลี่มาร์ท 108ชอป เป็นต้น จึงทำให้ต้องวางแผนเพิ่มกำลังผลิตรองรับรวมทั้งตลาดในไทยและต่างประเทศด้วย
ทั้งนี้ปีหน้าตั้งเป้าหมายรายได้ 100 ล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าทำได้ 40 ล้านบา ท แบ่งสัดส่วนรายได้ในประเทศ 50% และต่างประเทศ 50% ซึ่งส่งออกไปกว่า 10 ประเทศเช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ จีน ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส ลาว พม่า เป็นต้น
อย่างไรก็ตามขณะนี้ต้นทุนการผลิตได้สูงขึ้นเนื่องจากวัตถุดิบที่นำมาผลิตมีการปรับราคา แต่บริษัทฯยังยืนราคาเดิมต่อได้ เพราะยังมีสต็อกวัตถุดิบเหลืออยู่อีก ส่วนจะปรับราคาขึ้นหรือไม่จากนี้ คงต้องพิจารณาอีกครั้งแต่คงยากเพราะทางห้างค้าปลีกคงไม่ต้องการให้ปรับราคาขึ้น โดยผลิตภัณฑ์มี 2 แบบคือ 1.ผลไม้กรอบแบบไม่ใช้น้ำมัน มี 8 รสชาติ ราคา 20 บาทขนาด 18 กรัม และราคา 290 บาทขนาด 100 กรัมแล้วแต่ช่องทาง 2.แบบทอดสุญญากาศ 5 รสชาติ ราคา 20-25 บาทขนาด 20-30 กรัม
นายณัฐวุฒิ เผ่าปรีชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจ-ลี่ แฟมิลี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสแน็กสุขภาพไทยแบรนด์ “เวล-บี” เปิดเผยว่า บริษัทฯอยู่ระหว่างเตรียมแผนลงทุนก่อสร้างโรงงานใหม่ใกล้โรงงานเดิมที่สมุทรสาคร คาดลงทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตอีกกว่า 500 ตันต่อปี จากเดิมผลิตได้ 200 ตันต่อปี เพื่อรองรับการขยายตัวเนื่องจากล่าสุดบริษัทฯได้ช่องทางจำหน่ายผ่านร้านเซเว่นอีเลฟเว่นทั่วประเทศรวม 7,700 สาขา และช่องทางคิงส์พาวเวอร์อีกทั่วประเทศ ทำให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น จากช่องทางเดิมที่ขายผ่านซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่เช่น ท็อปส์ เครือเดอะมอลล์ วิลล่ามาร์เก็ต ฟู้ดแลนด์ เลมอนฟาร์ม โกลเด้นเพลซ แฟมิลี่มาร์ท 108ชอป เป็นต้น จึงทำให้ต้องวางแผนเพิ่มกำลังผลิตรองรับรวมทั้งตลาดในไทยและต่างประเทศด้วย
ทั้งนี้ปีหน้าตั้งเป้าหมายรายได้ 100 ล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าทำได้ 40 ล้านบา ท แบ่งสัดส่วนรายได้ในประเทศ 50% และต่างประเทศ 50% ซึ่งส่งออกไปกว่า 10 ประเทศเช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ จีน ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส ลาว พม่า เป็นต้น
อย่างไรก็ตามขณะนี้ต้นทุนการผลิตได้สูงขึ้นเนื่องจากวัตถุดิบที่นำมาผลิตมีการปรับราคา แต่บริษัทฯยังยืนราคาเดิมต่อได้ เพราะยังมีสต็อกวัตถุดิบเหลืออยู่อีก ส่วนจะปรับราคาขึ้นหรือไม่จากนี้ คงต้องพิจารณาอีกครั้งแต่คงยากเพราะทางห้างค้าปลีกคงไม่ต้องการให้ปรับราคาขึ้น โดยผลิตภัณฑ์มี 2 แบบคือ 1.ผลไม้กรอบแบบไม่ใช้น้ำมัน มี 8 รสชาติ ราคา 20 บาทขนาด 18 กรัม และราคา 290 บาทขนาด 100 กรัมแล้วแต่ช่องทาง 2.แบบทอดสุญญากาศ 5 รสชาติ ราคา 20-25 บาทขนาด 20-30 กรัม
