เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวโจ๋ยิงอริ แต่พลาดไปโดนแท็กซี่เสียชีวิตทำแผนท่ามกลางไทยมุง เจ้าตัวรับสารภาพทำไป เพราะต้องการล้างแค้นคู่อริต่างสถาบันที่มีเรื่องกันมานาน แต่กระสุนพลาด หลังก่อเหตุเสร็จได้นำปืนไปทิ้งคลองประปาแถวประชาชื่น แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ พร้อมเร่งติดตามพวกที่เหลืออีก 3 คน มาดำเนินคดี
วันนี้ (23 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.เชิดชาย สัตตบุศย์ ผกก.สน.ประชาชื่น พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว นายเฉลิมพล หรือ กอล์ฟ พัสตรานนท์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 276/1 ซ.ริมคลองบางกอกน้อย แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม.ซึ่งเป็น 1 ใน 4 คนร้ายที่ร่วมกับเพื่อนก่อเหตุยิง นายวศรุต วิไลวรรณ อายุ 20 ปี คู่อริต่างสถาบันได้รับบาดเจ็บ แต่กระสุนพลาดไปถูก นายอโณชา เกิดเมืองบัว อายุ 45 ปี คนขับแท็กซี่เสียชีวิต โดยเหตุเกิดหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาเบญจมิตร ปากซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 46 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กทม.เมื่อช่วงดึกวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ไปทำแผนประกอบคำสารภาพ หลังจาก นางอาระยา พัสตรานนท์ มารดาของผู้ต้องหาตัดสินใจพาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่ช่วงเช้า ท่ามกลางการมุงดูของประชาชนในละแวกนั้นจำนวนมาก
โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายเฉลิมพล ซึ่งแต่งกายมิดชิด สวมหมวกกันน็อกสีดำแบบเต็มใบเพื่อปิดบังใบหน้ามาทำแผนประกอบคำสารภาพ จุดแรกซึ่งเป็นจุดที่อยู่ห่างร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ไปประมาณ 10 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่ นายเฉลิมพล เพื่อนอีก 3 คน คือ นายต้อม (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นายต้น (นามสมมติ) อายุ 17 ปี และ นายณรงค์ หรือ โจ คำจันทร์ อายุ 20 ปี ขับขี่และซ้อนท้ายรถ จยย.2 คัน มาดักรอดู นายวศรุต ซึ่งเป็นคู่อริและรอดูลาดเลาหาจังหวะลงมือยิง ส่วนจุดที่ 2 บริเวณหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ที่นายเฉลิมพล นำปืนขนาด .22 และ นายณรงค์ นำปืน ขนาด .38 ออกมายิงนายวศรุต จนบาดเจ็บล้มลงแต่กระสุนพลาดไปถูกนายอโณชา จนเสียชีวิต
จุดสุดท้ายเป็นจุดที่ นานเฉลิมพล และเพื่อนพากันขับขี่ซ้อนท้าย รถ จยย.ออกไปทาง ถ.กรุงเทพ-นนทบุรี มุ่งหน้าแยกประชาชื่น และอ้างว่านำปืนที่ก่อเหตุไปทิ้งไว้ที่คลองประปา
พ.ต.อ.เจริญ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น นายเฉลิมพล ให้การสารภาพว่า ร่วมกับพวกอีก 3 คนก่อเหตุดังกล่าว เพื่อต้องการล้างแค้น นายวศรุต ซึ่งเป็นคู่อริต่างสถาบันที่มีเรื่องกันมาก่อนแต่กระสุนพลาดไปถูกนายอโณชา เสียชีวิต โดยหลังก่อเหตุได้นำปืนที่ใช้ยิงไปทิ้งคลองประปาบริเวณประชาชื่น แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต้องรอสอบสวนเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนคนร้ายที่ร่วมลงมือก่อเหตุ ที่เหลืออีก 3 คน ขณะนี้ทางตำรวจได้ติดตามตัวไว้แล้วคาดว่าจะได้ตัวทั้งหมดมาดำเนินคดีในไม่ช้า
วันนี้ (23 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.เชิดชาย สัตตบุศย์ ผกก.สน.ประชาชื่น พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว นายเฉลิมพล หรือ กอล์ฟ พัสตรานนท์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 276/1 ซ.ริมคลองบางกอกน้อย แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม.ซึ่งเป็น 1 ใน 4 คนร้ายที่ร่วมกับเพื่อนก่อเหตุยิง นายวศรุต วิไลวรรณ อายุ 20 ปี คู่อริต่างสถาบันได้รับบาดเจ็บ แต่กระสุนพลาดไปถูก นายอโณชา เกิดเมืองบัว อายุ 45 ปี คนขับแท็กซี่เสียชีวิต โดยเหตุเกิดหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาเบญจมิตร ปากซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 46 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กทม.เมื่อช่วงดึกวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ไปทำแผนประกอบคำสารภาพ หลังจาก นางอาระยา พัสตรานนท์ มารดาของผู้ต้องหาตัดสินใจพาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่ช่วงเช้า ท่ามกลางการมุงดูของประชาชนในละแวกนั้นจำนวนมาก
โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายเฉลิมพล ซึ่งแต่งกายมิดชิด สวมหมวกกันน็อกสีดำแบบเต็มใบเพื่อปิดบังใบหน้ามาทำแผนประกอบคำสารภาพ จุดแรกซึ่งเป็นจุดที่อยู่ห่างร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ไปประมาณ 10 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่ นายเฉลิมพล เพื่อนอีก 3 คน คือ นายต้อม (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นายต้น (นามสมมติ) อายุ 17 ปี และ นายณรงค์ หรือ โจ คำจันทร์ อายุ 20 ปี ขับขี่และซ้อนท้ายรถ จยย.2 คัน มาดักรอดู นายวศรุต ซึ่งเป็นคู่อริและรอดูลาดเลาหาจังหวะลงมือยิง ส่วนจุดที่ 2 บริเวณหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ที่นายเฉลิมพล นำปืนขนาด .22 และ นายณรงค์ นำปืน ขนาด .38 ออกมายิงนายวศรุต จนบาดเจ็บล้มลงแต่กระสุนพลาดไปถูกนายอโณชา จนเสียชีวิต
จุดสุดท้ายเป็นจุดที่ นานเฉลิมพล และเพื่อนพากันขับขี่ซ้อนท้าย รถ จยย.ออกไปทาง ถ.กรุงเทพ-นนทบุรี มุ่งหน้าแยกประชาชื่น และอ้างว่านำปืนที่ก่อเหตุไปทิ้งไว้ที่คลองประปา
พ.ต.อ.เจริญ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น นายเฉลิมพล ให้การสารภาพว่า ร่วมกับพวกอีก 3 คนก่อเหตุดังกล่าว เพื่อต้องการล้างแค้น นายวศรุต ซึ่งเป็นคู่อริต่างสถาบันที่มีเรื่องกันมาก่อนแต่กระสุนพลาดไปถูกนายอโณชา เสียชีวิต โดยหลังก่อเหตุได้นำปืนที่ใช้ยิงไปทิ้งคลองประปาบริเวณประชาชื่น แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต้องรอสอบสวนเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนคนร้ายที่ร่วมลงมือก่อเหตุ ที่เหลืออีก 3 คน ขณะนี้ทางตำรวจได้ติดตามตัวไว้แล้วคาดว่าจะได้ตัวทั้งหมดมาดำเนินคดีในไม่ช้า