เซเว่นฯปรับแผนรับมือน้ำท่วมได้ดี ปีนี้ปิดแค่ 2 สาขา มูลค่าความสูญเสียเพียงเล็กน้อย ตอกย้ำเดินหน้าขยายสาขาตามแผน สิ้นปีแตะ 6,200-6,300 สาขาตามเป้า พร้อมปรับตัวรับมือคู่แข่งที่หันมาเปิดซูเปอร์มาเก็ตขนาดเล็กสู้
นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เปิดเผยว่า ขณะนี้จำนวนร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เปิดให้บริการแล้วกว่า 6,170 สาขา สิ้นปีนี้พร้อมขยายสาขาสู่ 6,200-6,300 สาขา ตามแผนที่วางไว้ ถึงแม้ว่าในปีนี้ภาวะน้ำท่วมจะส่งผลกระทบกับประเทศไทยไม่แตกต่างจากปีที่ผ่านมาก็ตาม แต่สำหรับเซเว่นฯ
พบว่าปีนี้เราตั้งรับได้ดี มีการวางแผนรับมือได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ขณะนี้มีการปิดให้บริการชั่วคราวเพียง 2 สาขาเท่านั้น คือที่ จังหวัดชัยนาท ที่อำเภออินทร์บุรี และทัพพระยา ส่วนสาขาอื่นนั้นถึงแม้จะเจอภาวะน้ำท่วมบ้าง แต่ก็พอที่จะเปิดให้บริการได้
ทั้งนี้ทางบริษัทได้เตรียมวางแผนรับมือไว้ เช่น มีการสต๊อกสินค้าตุนไว้รองรับก่อนน้ำท่วม เพื่อให้มีสินค้าจำหน่ายได้ตามความต้องการ ส่วนเมื่อเกิดน้ำท่วมก็พร้อมนำสินค้าจัดเก็บไว้บนชั้นสอง พอน้ำลดก็นำลงมาวางจำหน่ายได้ทันท่วงที ซึ่งพบว่าในช่วงก่อนน้ำท่วม ผู้บริโภคจะหันมาซื้อสินค้ากักตุนไว้ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าประเภทอาหารและเมนูอาหารพร้อมรับประทาน แต่พอช่วงน้ำท่วมแล้วจะขายสินค้าลำบากขึ้น ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นในปีนี้ถือว่าเล็กน้อยมาก เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ล่าสุดบริษัทฯได้ร่วมกับทางกรมการค้าภายใน จัดโครงการช่วยลดค่าครองชีพประชาชน “ธงฟ้า อิ่มสะดวก 29 บาท” โดยคัดสรรเมนูอาหารพร้อมรับประทาน 12 รายการ ภายใต้แบรนด์ อีซี่โก จำหน่ายในราคาประหยัดเพียงเมนูละ 29 บาท ไปจนถึงสิ้นปีนี้ เช่น ข้าวไก่กระเทียม ข้าวกระเพราหมู ข้าวหน้าเนื้อ ข้าวกระเพราทรงเครื่องเจ ข้าวผัดพริกขิงเจ เป็นต้น ถือเป็นโครงการที่ช่วยเหลือประชาชน ถึงแม้ว่าจะขาดทุนบ้างก็ตาม แต่เชื่อว่าจะกระจายรายได้ไปกับสินค้าอื่นๆได้
อย่างไรก็ตามจะเห็นว่า ปัจจุบันมีผู้เล่นในกลุ่มค้าปลีกหันมาเปิดโมเดลขนาดเล็กมากยิ่งขึ้น ในส่วนของเซเว่นฯเองนั้นมองว่าไม่เป็นปัญหา อีกทั้งเราพร้อมปรับตัวรับมืออยู่ก่อนแล้ว เพราะที่ผ่านมาก็ถือว่ามีคู่แข่งเข้ามารุกในโมเดลนี้อยู่บ้าง โดยทางเรามีการปรับตัวนำสินค้าใหม่ๆเข้ามาจำหน่ายหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับแผนการดำเนินธุรกิจของเซเว่นฯอย่างแน่นอน
นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เปิดเผยว่า ขณะนี้จำนวนร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เปิดให้บริการแล้วกว่า 6,170 สาขา สิ้นปีนี้พร้อมขยายสาขาสู่ 6,200-6,300 สาขา ตามแผนที่วางไว้ ถึงแม้ว่าในปีนี้ภาวะน้ำท่วมจะส่งผลกระทบกับประเทศไทยไม่แตกต่างจากปีที่ผ่านมาก็ตาม แต่สำหรับเซเว่นฯ
พบว่าปีนี้เราตั้งรับได้ดี มีการวางแผนรับมือได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ขณะนี้มีการปิดให้บริการชั่วคราวเพียง 2 สาขาเท่านั้น คือที่ จังหวัดชัยนาท ที่อำเภออินทร์บุรี และทัพพระยา ส่วนสาขาอื่นนั้นถึงแม้จะเจอภาวะน้ำท่วมบ้าง แต่ก็พอที่จะเปิดให้บริการได้
ทั้งนี้ทางบริษัทได้เตรียมวางแผนรับมือไว้ เช่น มีการสต๊อกสินค้าตุนไว้รองรับก่อนน้ำท่วม เพื่อให้มีสินค้าจำหน่ายได้ตามความต้องการ ส่วนเมื่อเกิดน้ำท่วมก็พร้อมนำสินค้าจัดเก็บไว้บนชั้นสอง พอน้ำลดก็นำลงมาวางจำหน่ายได้ทันท่วงที ซึ่งพบว่าในช่วงก่อนน้ำท่วม ผู้บริโภคจะหันมาซื้อสินค้ากักตุนไว้ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าประเภทอาหารและเมนูอาหารพร้อมรับประทาน แต่พอช่วงน้ำท่วมแล้วจะขายสินค้าลำบากขึ้น ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นในปีนี้ถือว่าเล็กน้อยมาก เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ล่าสุดบริษัทฯได้ร่วมกับทางกรมการค้าภายใน จัดโครงการช่วยลดค่าครองชีพประชาชน “ธงฟ้า อิ่มสะดวก 29 บาท” โดยคัดสรรเมนูอาหารพร้อมรับประทาน 12 รายการ ภายใต้แบรนด์ อีซี่โก จำหน่ายในราคาประหยัดเพียงเมนูละ 29 บาท ไปจนถึงสิ้นปีนี้ เช่น ข้าวไก่กระเทียม ข้าวกระเพราหมู ข้าวหน้าเนื้อ ข้าวกระเพราทรงเครื่องเจ ข้าวผัดพริกขิงเจ เป็นต้น ถือเป็นโครงการที่ช่วยเหลือประชาชน ถึงแม้ว่าจะขาดทุนบ้างก็ตาม แต่เชื่อว่าจะกระจายรายได้ไปกับสินค้าอื่นๆได้
อย่างไรก็ตามจะเห็นว่า ปัจจุบันมีผู้เล่นในกลุ่มค้าปลีกหันมาเปิดโมเดลขนาดเล็กมากยิ่งขึ้น ในส่วนของเซเว่นฯเองนั้นมองว่าไม่เป็นปัญหา อีกทั้งเราพร้อมปรับตัวรับมืออยู่ก่อนแล้ว เพราะที่ผ่านมาก็ถือว่ามีคู่แข่งเข้ามารุกในโมเดลนี้อยู่บ้าง โดยทางเรามีการปรับตัวนำสินค้าใหม่ๆเข้ามาจำหน่ายหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับแผนการดำเนินธุรกิจของเซเว่นฯอย่างแน่นอน