ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) วานนี้ (3 ต.ค.) นายเทพไท เสนพงษ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเงา ปชป.กล่าวถึงกรณีน.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ จะปรับผังรายการรวมถึงบอร์ด อสมท ว่า ขณะนี้พบว่ามีการเข้าไปกดดันการทำงานของสถานีโทรทัศน์ชิอง 9 หรือโมเดิร์นไนน์ หากติดตามข่าวจะพบว่าในวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา มีคอลัมน์นิสต์ในบางหนังสือพิมพ์วิจารณ์รัฐมนตรีท่านนี้ว่าเข้าไปจัดผังรายการของช่อง อสมท.ใหม่ และกดดันให้มีการเปลี่ยนแปลงบอร์ดบริหาร ปชป.ไม่ได้ปกป้องบอร์ดของ อสมท. แต่การลาออกของบอร์ดบริหารควรเป็นไปตามระเบียบของ อสมท. รัฐมนตรีไม่ควรเข้าไปแทรกแซงและกดดันไม่อย่างนั้น อสมท. จะกลับเข้าสู่แดนสนธยาอีกครั้ง
ที่พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่า กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องขอจัดรายการของผู้นำฝ่ายค้านทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 พร้อมกล่าวเสียดสีนายกรัฐมนตรีว่า ปิดกั้นฝ่ายค้านแล้วบอกว่าสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลใจกว้าง แต่เป็นความบกพร่องของพรรคเพื่อไทยเองที่ไม่มีหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านในขณะนั้น ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่ข้อจำกัด พรรคประชาธิปัตย์ควรทบทวนตัวเองว่าตลอด 2 ปีที่เป็นรัฐบาลได้ปู้ยี่ปู้ยำสถานีโทรทัศน์ของชาติ เปิดให้มีรายการที่สร้างความแตกแยกและใช้เป็นเครื่องมือทำลายฝ่ายตรงข้ามอย่างไรบ้าง ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์ควรละอาย หยุดสร้างความสับสนให้ประชาชน ถามจริงๆ ใจคอนายอภิสิทธิ์ จะไม่ลองหยุดพูดเพื่อให้ประชาชนเห็นทางออกบ้างหรืออย่างไร
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะใช้เวลาของสถานีน้อยที่สุด เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการสื่อสารกับประชาชนมากที่สุด และภายใต้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย รัฐบาลจะไม่สร้างความแตกแยก จะมีแต่รายการที่สนับสนุนและมุ่งไปสู่ความปรองดองในชาติ เช่น รายการของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป. รายการของกรรมการอิสระว่าด้วยหลักนิติธรรมแห่งชาติ หรือ คอ.นธ.
อย่างไรก็ตาม สัปดาห์ที่ผ่านมาหลายรายการหมดสัญญากับทางสถานี จึงเป็นปกติที่ต้องมีการต่อสัญญาใหม่ ซึ่งหลายรายการที่ทางสถานีเห็นว่าอยู่ในเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน บางรายการอาจนำไปสู่ความแตกแยก เมื่อหมดสัญญาจึงมีการปรับผังใหม่และเชิญมืออาชีพเข้ามาทำหน้าที่
ที่พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่า กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องขอจัดรายการของผู้นำฝ่ายค้านทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 พร้อมกล่าวเสียดสีนายกรัฐมนตรีว่า ปิดกั้นฝ่ายค้านแล้วบอกว่าสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลใจกว้าง แต่เป็นความบกพร่องของพรรคเพื่อไทยเองที่ไม่มีหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านในขณะนั้น ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่ข้อจำกัด พรรคประชาธิปัตย์ควรทบทวนตัวเองว่าตลอด 2 ปีที่เป็นรัฐบาลได้ปู้ยี่ปู้ยำสถานีโทรทัศน์ของชาติ เปิดให้มีรายการที่สร้างความแตกแยกและใช้เป็นเครื่องมือทำลายฝ่ายตรงข้ามอย่างไรบ้าง ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์ควรละอาย หยุดสร้างความสับสนให้ประชาชน ถามจริงๆ ใจคอนายอภิสิทธิ์ จะไม่ลองหยุดพูดเพื่อให้ประชาชนเห็นทางออกบ้างหรืออย่างไร
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะใช้เวลาของสถานีน้อยที่สุด เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการสื่อสารกับประชาชนมากที่สุด และภายใต้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย รัฐบาลจะไม่สร้างความแตกแยก จะมีแต่รายการที่สนับสนุนและมุ่งไปสู่ความปรองดองในชาติ เช่น รายการของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป. รายการของกรรมการอิสระว่าด้วยหลักนิติธรรมแห่งชาติ หรือ คอ.นธ.
อย่างไรก็ตาม สัปดาห์ที่ผ่านมาหลายรายการหมดสัญญากับทางสถานี จึงเป็นปกติที่ต้องมีการต่อสัญญาใหม่ ซึ่งหลายรายการที่ทางสถานีเห็นว่าอยู่ในเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน บางรายการอาจนำไปสู่ความแตกแยก เมื่อหมดสัญญาจึงมีการปรับผังใหม่และเชิญมืออาชีพเข้ามาทำหน้าที่