xs
xsm
sm
md
lg

มทภ.2รับแล้วถอนทหาร พ้นเขาพระวิหาร ธรรมกายจัดให้ตักบาตรร่วมเขมร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - แม่ทัพภาค 2 ยอมรับถอนกำลังทหารพ้นชายแดนเขาพระวิหารแล้วกว่า 2 พันนาย อ้างรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดี ขณะที่ “วัดธรรมกาย” จัดทำบุญตักบาตรพระ 3,000-4,000 รูป ร่วมเขมรที่ช่องสะงำ 9 ต.ค. นี้ สื่อเขมรปูดรัฐบาลไทยเตรียมถกแลกตัวนักโทษเพื่อช่วยเหลือ"วีระ-ราตรี" ด้าน"บิ๊กอ๊อด" เผยนายกฯสั่ง 3 กระทรวงเร่งดำเนินการ

วานนี้ (30 ก.ย. ) พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) กล่าวถึงการปรับลดกำลังทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ว่า ที่ผ่านมากัมพูชาได้ปรับกำลังทหารออกจากพื้นที่ไปมาก เพราะเห็นว่าไม่มีประโยชน์อะไร หากรัฐบาลพูดคุย และเจรจากันได้ดี เพราะกำลังพลที่อยู่ตามแนวชายแดนอยู่กันเฉยๆ ก็ต้องใช้เงินงบประมาณ เราควรนำงบประมาณส่วนนี้ไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นจะดีกว่า เช่น การปรับปรุงยุทโธปกรณ์ ให้ทันสมัยหรือดีขึ้น

แต่ในจุด A, B, C, D ที่ศาลโลกกำหนดให้เป็นเขตปลอดทหาร ตามมาตรคุ้มครองชั่วคราวในคดีที่กัมพูชายื่นฟ้องให้ตีความคำพากษาคดีปราสาทพระวิหาร ปี 2505 ก็ยังอยู่เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จนกว่าจะมีการตกลงกันให้เสร็จเรียบร้อยก่อน

พล.ท.ธวัชชัย กล่าวด้วยว่า จากรายงานทราบว่าฝ่ายกัมพูชาปรับกำลังพลออกไปแล้ว 3,000-4,000 นาย ส่วนฝ่ายไทยเรามีการปรับกำลังพลออกมาประมาณ2,000 คน แต่ก็มีชุดใหม่เข้ามาเสริม เพราะการหมุนเวียนหน่วยต่างๆที่มาไกล ก็ให้กลับไปหมุนเวียน และบางส่วนก็มีหมุนเวียนไปทางภาคใต้ซึ่งเป็นวงรอบอยู่แล้ว

พล.ท.ธวัชชัย กล่าวด้วยว่า ในเร็ว ๆ นี้จะมีการจัดกิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ที่บริเวณด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ โดยจะมีการทำบุญตักบาตรพระ 3,000-4,000 รูป ในวันที่ 9 ต.ค.54 โดยวัดพระธรรมกาย ซึ่งทางสาขาวัดเป็นผู้ดำเนินการ แต่ฝ่ายทหารเพียงอำนวยความสะดวกให้

** สื่อเขมรปูดไทยขอถกแลกตัวนักโทษ

สำนักข่าวพนมเปญโพสต์ สื่อท้องถิ่นของประเทศกัมพูชา รายงานอ้างการเปิดเผยของโฆษกรัฐบาลไทย เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ที่ผ่านมาว่า การแลกเปลี่ยนนักโทษระหว่างกัมพูชากับไทย อาจจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ หลังสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้เรียกร้องผ่านพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม เพื่อเริ่มต้นการเจรจาเแลกเปลี่ยนนักโทษ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถให้รายละเอียดที่แน่นอนได้ว่าเมื่อใดการแลกเปลี่ยนดังกล่าวจะเกิดขึ้น หรือเมื่อใดที่นักโทษจะถูกส่งกลับประเทศ แต่กล่าวว่ากระทรวงยุติธรรมของไทย ได้เริ่มการตรวจสอบในรายละเอียดข้อกฎหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงอุปสรรคทางกฎหมายที่มีอยู่

สื่อกัมพูชาระบุด้วยว่า เราต้องการที่จะมีการแลกเปลี่ยนที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ หรือไม่มีใครเสียประโยชน์ และทางรัฐบาลไทย ก็ต้องการช่วยเหลือนายวีระ สมความคิด และน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ที่ถูกพิพากษาโทษจำคุก 8 และ 6 ปี เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ในข้อกล่าวหา จารกรรมข้อมูล หลังถูกจับกุมตัวเมื่อเดือนมิ.ย.ปีก่อน อีกทั้งรัฐบาลไทยก็ประสงค์ที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศกัมพูชา ซึ่งในประเด็นนี้ สมเด็จฮุน เซน ก็เเข้าใจดี และการแลกเปลี่ยนนักโทษจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้

ด้านนายเอียง โสฟัลเลธ โฆษกส่วนตัวของสมเด็จฮุน เซน กล่าวว่าก่อนหน้านี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ได้ไต่ถามมายัง สมเด็จฮุน เซน ถึงการพิจารณาอภัยโทษแก่นายวีระ และน.ส.ราตรี ขณะที่สมเด็จฮุน เซน ก็ได้ร้องขอต่อรัฐมนตรีกลาโหมของไทย ให้เจรจาต่อรองสำหรับการแลกเปลี่ยนนักโทษ ซึ่งรวมไปถึงนักโทษสัญชาติไทย 38 ราย ที่ยังถูกคุมขังอยู่ในประเทศกัมพูชาอีกด้วย

**ติดเงื่อนไขต้องจำคุก 1 ใน 3 ก่อน

ด้านนางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เนื่องจากพล.อ.ยุทธศักดิ์ ได้เดินทางไปหารือกับรัฐบาลกัมพูชา และได้หารือถึงการปล่อยตัวนายวีระ และน.ส.ราตรี ที่ถูกคุมขังอยู่ รัฐบาลเลยมีแนวคิดในการขอโอนตัวนายวีระ และน.ส.ราตรี ให้เข้ามารับโทษในไทย เพราะเห็นว่าได้มีกฎหมายการโอนตัวนักโทษในปี 52 โดยการโอนตัวผู้ต้องโทษ ต้องติดคุก 1 ใน 3 ก่อน ขณะที่การขออภัยโทษต้องติดคุก 2 ใน 3 โดยรัฐบาลต้องดูว่า ทางกัมพูชา จะดำเนินการได้หรือไม่ โดยอาจต้องดูวันสำคัญของกัมพูชา เพื่อลดโทษให้เหลือเท่ากับ 1 ใน 3 และนำตัวกลับมารับโทษที่ประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ รัฐบาลอยากช่วยคนไทยทั้งสองคนโดยเร็วที่สุด

ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบข้อซักถามในเรื่องนี้ โดยระบุเพียงสั้นๆว่า ให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ชี้แจง

** 3 กระทรวงประสานช่วยวีระ-ราตรี

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ตนได้พบกับสมเด็จฮุน เซน ซึ่งสมเด็จฮุน เซน ระบุว่า เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้มาหารือพร้อมระบุว่า คนไทยอีก 37 คนยังถูกขุมขังอยู่ที่กัมพูชาด้วย สมเด็จฮุน เซน จึงเห็นว่าน่าให้ใช้วิธีการแลกเปลี่ยนนักโทษของทั้งสองฝ่าย จะดีกว่า จึงฝากตนมารายงานให้นายกรัฐมนตรี รับทราบ โดยให้นายกรัฐมนตรี สั่งการไปที่กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงการต่างประเทศของไทย พร้อมทั้งให้ประสานกับทั้ง 3 กระทรวง ของกัมพูชา เพื่อดำเนินการแลกเปลี่ยนตัวนักโทษต่อไป ตนจึงนำเรื่องมาเสนอที่ประชุมครม. เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา ดังนั้นนายกฯ จึงได้สั่งการให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้ง 3 กระทรวงดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ ตนจะต้องกลับไปพบกับสมเด็จฮุน เซน อีกครั้ง ในการประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วมไทยกัมพูชา ( จีบีซี )

เมื่อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่านายวีระ และน.ส.ราตรี จะได้กลับประเทศไทยภายในปีนี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า คิดว่าสมเด็จฮุน เซน ให้ความร่วมมือกับประเทศไทยเป็นอย่างมากในเรื่องของทั้งสองคน คิดว่าท่านก็เริ่มเข้าใจ ดังนั้นหากเรามีความเป็นมิตรกันมากขึ้น ตนคิดว่าท่านคงจะให้ความช่วยเหลืออย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ตนไม่สามารถระบุได้ว่าจะสามารถกลับประเทศได้ภายในปีนี้ หรือไม่ แต่ยืนยันว่ามีแนวโน้มในทางที่ดีมากกว่าไม่ดีแน่.
กำลังโหลดความคิดเห็น