ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ทหารไทย-เขมร ประชุม “RBC” โคราช ชื่นมื่น สองฝ่ายเข้าประชุมพร้อมหน้า เน้นถกในกรอบ 15 ประเด็นหลัก ทั้งด้านความมั่นคง การรักษาความสงบ และความร่วมมือด้านการพัฒนาพื้นที่ชายแดน การรักษาสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยว เผยผลหารือได้ข้อสรุป 4 เรื่องหลัก ให้ ตร.ทหารเพิ่มความร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อย-ปราบยาเสพติด-การกระทำผิดตามแนวชายแดนอย่างจริงจัง และหนุนการท่องเที่ยว-กระชับสัมพันธ์ เชื่อไม่มีปะทะเดือดอีก ระบุถกนอกรอบเรื่องถอนกำลังพ้นเขาพระวิหารชงให้ “GBC” เจรจาชี้ขาด
วันนี้ (24 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ห้องอรพิม โรงแรมสีมาธานี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีการเปิดการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ด้านกองทัพภาคที่ 2 และภูมิภาคทหารที่ 4 ครั้งที่ 15 (สมัยวิสามัญ) อย่างเป็นทางการ โดยมี พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ฝ่ายไทย และ พล.อ.เจีย มอญ รองผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา และผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา เป็นประธานร่วม พร้อมคณะกรรมการทั้ง 2 ฝ่ายเข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียงประมาณ 80 คน ทั้งฝ่ายทหารและข้าราชการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมี พล.อ.เนียง พาด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา, ที่ปรึกษาส่วนตัวสมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และประธานคณะกรรมการชายแดนทั่วไปกัมพูชา-ไทย (GBC) เข้าร่วมสังเกตการณ์ประชุมครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ ฝ่ายไทยประกอบด้วย นายทหารระดับสูงของกองทัพภาคที่ 2, ผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา คือ รองผู้ว่าฯ บุรีรัมย์, รองผู้ว่าฯสุรินทร์, นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ และ นายสุรพล สายพันธุ์ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี , พล.ต.ต.เดชา ชวยบุญชุม รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3, นายสุรพันธุ์ จันทรประภา ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สำนักบริหารพท้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) และผู้แทนหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง
ส่วนฝ่ายกัมพูชา ประกอบด้วย คณะนายทหารระดับสูงของภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา และผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนกัมพูชา-ไทย เช่น พล.อ.สรัย ดึ๊ก รองเสนาธิการร่วมกองบัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3, พล.ท.แกว ที, พล.ท.โปว เฮง, พล.ท.นวน โนว รองผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4, พล.ต.ท.โนง นีนาน รองหัวหน้าสำนักงานกิจการชายแดนตำรวจแห่งชาติ, นายอุม มารา ผู้ว่าราชการจังหวัดพระวิหาร และ นายอิง วอน รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย เป็นต้น
ต่อมาเวลา 12.30 น.พล.ท.ธวัชชัย สุมทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะประธาน RBC ด้านกองทัพภาคที่ 2 ฝ่ายไทย และ พล.อ. เจีย มอญ ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา ในฐานะประธาน RBC ด้านภูมิภาคทหารที่ 4 ฝ่ายกัมพูชา ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการประชุม RBC ด้านกองทัพภาคที่ 2 และ ภูมิภาคทหารที่ 4 ครั้งที่ 15 (สมัยวิสามัญ) ต่อสื่อมวลชน
พล.ท.ธวัชชัย สุมทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความร่วมมืออันดีงามของทั้งสองฝ่าย ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่มีความปรารถนาดีต่อกัน โดยฝ่ายกัมพูชา ได้แสดงความยินดีต่อฝ่ายไทย ในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ หลังจากที่ได้จัดให้มีการเลือกตั้งในห้วงที่ผ่านมา
สำหรับแนวทางการหารือกับฝ่ายกัมพูชาได้ยึดถือกรอบเจรจาของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา (GBC) ใน 15 ประเด็น มาเป็นแนวทางในการหารือกับฝ่ายกัมพูชา ได้แก่ ด้านความมั่นคงและการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชายแดน และความร่วมมือด้านอื่นๆ ในการพัฒนาพื้นที่ชายแดน การรักษาสิ่งแวดล้อม และความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนของทั้งสองฝ่าย มีความกินดีอยู่ดี และมีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน นอกจากนี้ ได้หารือร่วมกัน ที่จะป้องกันและปราบปรามการค้ายาเสพติด รวมถึงการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดอื่นๆ ตามแนวชายแดน
อย่างไรก็ตาม การประชุมร่วมครั้งนี้ จะไม่มีการลงนาม เนื่องจากรัฐบาลไทยยังไม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้วเสร็จ
พล.ท.ธวัชชัย กล่าวต่อว่า ส่วนผลสรุปการหารืออย่างไม่เป็นทางการมีดังนี้ 1.ให้กำลังตำรวจ ทหาร ของทั้งสองฝ่าย เพิ่มความร่วมมือในการรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน ด้วยการจัดให้มีการประสานงาน ร่วมมือและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นตามลำดับ
2.เพิ่มความร่วมมือในการปราบปรามการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง เพื่อตัดช่องทางการค้ายาเสพติดข้ามแดน รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้เยาวชน และประชาชน ได้ทราบถึงพิษภัย และโทษของการค้ายาเสพติด
3.สนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพิ่มความร่วมมือ เพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดตามแนวชายแดน อาทิ ให้มีการแลกเปลี่ยนข่าวสาร และมีความร่วมมือในการลาดตะเวน เพื่อปราบปรามการกระทำผิดตามแนวชายแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4.สนับสนุนให้เกิดความร่วมมือในด้านสาธารณสุข ด้านการเกษตร ด้านการท่องเที่ยว การศึกษาและสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือน แลกเปลี่ยนประเพณีวัฒนธรรมระหว่างกันกระชับความสัมพันธ์ที่มีให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
พล.ท.ธวัชชัย กล่าวถึงการหารือเกี่ยวกับการปรับกำลังทหารบริเวณเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา ตามคำสั่งศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก ว่า ได้มีการพูดคุยหารือกันนอกรอบในเรื่องดังกล่าวและเป็นการพูดคุยกันในเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งเป็นไปในทิศทางที่ดีไม่มีปัญหาอะไร ส่วนจะให้กำลังส่วนใดเข้าไปแทนนั้นจะต้องหารือกันในรายละเอียดอีกครั้ง และได้มีข้อตกลงกันว่าจะไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดในการเจรจาเรื่องนี้ โดยหลักการหารือที่ได้ต่างฝ่ายจะนำเสนอต่อผู้บังคับบัญชาของตนเอง และทางกองเลขาธิการ RBC จะไปสรุปกรอบในเรื่องดังกล่าวเพื่อนำไปสู่การเจรจาของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา (GBC) ที่ กรุงพนมเปญ ต่อไป
“การตัดสินใจต่างๆ ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมใหญ่ GBC ซึ่งการเจรจาครั้งนี้เพียงแต่ว่าให้เป็นการรับรู้กันและตกลงกันว่าทั้ง 2 ฝ่าย จะยังไม่ให้ข่าว เป็นเพียงกรอบย่อยๆ เท่านั้น ซึ่งในการประชุม GBC จะมีความชัดเจนมากกว่าและจะมีการสั่งการลงมาตามลำดับชั้น เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ แต่ยืนยันว่าโดยภาพรวมการหารือระดับ RBC ครั้งนี้มีแต่สิ่งดีๆ” พล.ท.ธวัชชัย กล่าว
พล.ท.ธวัชชัย กล่าวอีกว่า การพบปะพูดคุยกันครั้งนี้เป็นการสร้างภาพลักษณ์ของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง 2 ประเทศ และคิดว่า จากนี้ไปคงไม่มีเหตุการณ์ปะทะกันเกิดขึ้นอีก เพราะเราไม่มีปัญหาอะไรต่อกัน ที่ผ่านมาตนก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ พล.อ.เจีย มอญ รู้จักกันมากว่า 20 ปี และสิ่งที่พลาดพลั้งมาสมัยก่อนก็คงไม่มีอีก จากนี้ไปจะมีแต่เรื่องที่ดีขึ้นๆ
ในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา แต่ละฝ่ายก็ได้คุยกันในการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวด้านเศรษฐกิจปากท้องถิ่น ร่วมกันต่อไป ส่วนจะนำไปสู่การเปิดประตูเหล็กบริเวณเชิงบันไดทางขึ้นประสาทพระวิหาร เพื่อให้ประชาชนนักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวปราสาทพระวิหารได้หรือไม่นั้น ก็คงจะมีการหารือกันในระดับสูงต่อไป
