ASTVผู้จัดการรายวัน-โจรใต้เหี้ยมเกินมนุษย์ ตามประกบยิงลูกยอดกตัญญูเสียชีวิตคาที่ 1 ศพขณะปั่นจักรยานนำข้าวกลับบ้านไปให้พ่อชรา เผยผู้ตายพิการและมีฐานะยากจน ขณะเดียวกันยิงถล่มทหาร รปภ.ครูหน้าโรงเรียนบ้านลาเมาะนอก อ.รือเสาะดับ 4 นายสาหัส 1 นร.โดนลูกหลงเจ็บอีก 1 พร้อมลอบเผาทำลายกล้องวงจรปิดในปัตตานีอีกกว่า 30 จุด
เมื่อเวลา 12.00 น.วานนี้ (28 ก.ย.) ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 และปืนอาร์ก้ายิงถล่มเจ้าหน้าที่ทหารที่รักษาความปลอดภัยบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านลาเมาะนอก ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส มีทหารเสียชีวิต 4 นาย สาหัส 1 นาย เด็กนักเรียนโดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน
สำหรับทหารที่เสียชีวิตทั้ง 4 นายสังกัด ร้อย ร.15322 ฉก.นราธิวาส 30 คือ 1.ส.อ.นิติ อารี อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นหัวหน้าชุด รปภ.โรงเรียนบ้านลาเมาะ 2.ส.อ.ศุภชัย แก้วหนูนวล อายุ 40 ปี 3.พลทหารนุจรินทร์ สุรการ และ 4.พลทหารนภสินธุ์ ชูศรี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ 1.พลทหารไกรวิทย์ สุขอ่อน และ 2.ด.ช.อัลอามีน ปอกีลา อายุ 7 ปี ซึ่งเป็นนักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนบ้านลาเมาะ ที่ขณะเกิดเหตุยืนอยู่บนชั้น 2 ของอาคารเรียนชั้นประถมศึกษาของโรงเรียนบ้านลาเมาะ โดยทั้ง 2 ราย ถูกกระสุนปืนที่ลำตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส
สอบสวนพลทหารวิทยา ณะรัตน์โช ซึ่งเป็นชุดรักษษความปลอดภัยโรงเรียนบ้านลาเมาะ ที่ปลอดภัยเพียงนายเดียว ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าตนพร้อมหัวหน้าชุด รวมทั้งพรรคพวกอีกรวม 6 นายได้ขี่รถจักรยานยนต์ 3 คันออกจากฐานปฏิบัติการบ้านบลูกา ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ ซึ่งห่างจากโรงเรียนบ้านลาเมาะประมาณ 4 กม.เพื่อทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยโรงเรียนบ้านลาเมาะ ตามปกติ และเมื่อครูและนักเรียนประมาณ 400 คน กำลังทำการเรียนการสอนอยู่ภายในโรงเรียน หัวหน้าชุดได้นำกำลังเดินข้ามถนนมาพักอยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามโรงเรียน ซึ่งเป็นป่าสวนผลไม้เพื่อทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ภายนอกโรงเรียน
จังหวะนั้นได้มีกลุ่มคนร้ายประมาณ 18 คนแต่งกายชุดดำเลียนแบบเจ้าหน้าที่ทหารพราน เดินเรียงแถวลงมาจากเขาหลังโรงเรียน โดยแยกกำลังเป็น 2 กลุ่ม ปฏิบัติการซ้ายขวา วิ่งกรูเข้ามาบริเวณที่ทหารทั้ง 6 นายกำลังนั่งพักอยู่ ก่อนใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มเข้าใส่เจ้าหน้าที่ทหารแบบไม่ยั้งมือทำให้เจ้าหน้าที่ต้องหาที่กำบัง ก่อนใช้ปืนสงครามเอ็ม 16 A 4 ยิงตอบโต้กลุ่มคนร้ายเป็นระลอกๆ นานประมาณ 5 นาทีทำให้ทหารเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ 4 นาย และบาดเจ็บดังกล่าว
จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้วิ่งมาหยิบปืนเอ็ม 16 A 4 ประจำกายของเจ้าหน้าที่ทหารไปด้วย 5 กระบอก รวมทั้งเสื้อเกราะอีก 5 ตัว หลบหนีขึ้นเขาหลังโรงเรียนบ้านลาเมาะไปได้ พร้อมกับได้มีการตัดต้นไม้ขวางถนนและโปรยตะปูเรือใบสกัดกั้นการเข้าช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ชุดสนับสนุน
สำหรับโรงเรียนบ้านลาเมาะ เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาได้เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายยิงรองผู้อำนวยการโรงเรียน เสียชีวิตขณะเดินทางจะไปขึ้นรถไฟกลับบ้านพักมาแล้ว
**เหี้ยมยิงหนุ่มพิการยอดกตัญญูดับ
ที่ จ.ปัตตานีวันเดียวกัน เมื่อเวลา 08.30 น.พ.ต.อ.ชนวีร์ ชมาฤกษ์ ผกก.สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันบนถนนสายบ้านปากาจินอ-ปะกาฮารัง ม.6 ต.ดอนรัก จึงนำกำลังไปตรวจสอบไปถึงพบผู้เสียชีวิตนอนตายจมกองเลือด ทราบชื่อคือ นายคำพงษ์ งอกงาม อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/11 ม.2 ต.ดอนรัก สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาด เข้าศีรษะและใบหน้า 2 นัด ข้างศพมีกล่องข้าวตกอยู่ พร้อมรถจักรยานของผู้ตาย
สอบสอบทราบว่า หลังจากผู้ตายได้รับจ้างช่วยพ่อค้าแม่ค้าจัดร้านในตลาดเสร็จ จึงได้รีบปั่นจักรยานเพื่อนำข้าวกลับไปให้บิดาวัย 70 ปี ซึ่งเป็นอัมพาตและกำลังรออยู่ที่บ้าน เหมือนที่ผู้ตายปฏิบัติเป็นประจำทุกวัน ปรากฏว่าระหว่างเดินทางกลับบ้าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ มีคนร้าย 2 คนขับรถจักรยานยนต์ตามหลัง แล้วใช้อาวุธปืนจ่อยิง 2 นัดจนเสียชีวิตทันที
หลังเกิดเหตุ ชาวบ้านมุงดูศพด้วยความเศร้าเสียใจ เนื่องจากผู้ตายถือเป็นลูกกตัญญู อีกทั้งยังพิการตาซ้ายบอดและยังเป็นโรคลมบ้าหมูด้วย ทั้งนี้ ผู้ตายอยู่กับพ่อเพียง 2 คน และมีฐานะยากจน จนชาวบ้านเห็นแล้วรู้สึกสงสาร และต่างสาปแช่งคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยก่อนหน้านี้ผู้ตายเพิ่งจะได้รับมอบบ้านกาชาดจาก นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ให้มีที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือแนวร่วมสร้างสถานการณ์
**ลอบเผาCCTVปัตตานีกว่า 30 จุด
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรปัตตานี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพิสูจน์หลักฐาน จ.ปัตตานี เข้าตรวจสอบบนถนนสาย 42 ปัตตานี-นราธิวาส และถนนในหมู่บ้านในพื้นที่ ม.2 และม.9 ต.ตะลุโบะ อ.เมืองปัตตานี หลังเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางเพลิงกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งบนเสาไฟฟ้าริมทางเสียหายกว่า 30 จุด ในที่เกิดเหตุยังพบยางรถจักรยานยนต์ที่ไม่ติดไฟ เศษผ้า และขวดน้ำอัดลมที่คนร้ายใส่น้ำมันมาใช้ก่อเหตุทิ้งไว้ด้วย ซึ่งกล้องทั้งหมดเป็นกล้องที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ใช้งบประมาณจัดซื้อมาติดตั้ง
ผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่าช่วงเวลา 04.00 น.ได้มีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 20 คนใช้รถจักรยานยนต์กระจายกันเข้าไปทำลายกล้องวงจรปิด โดยการนำยางรถจักรยานยนต์ชุบน้ำมันเบนซินพาดกับตัวกล้องก่อนจะจุดไฟเผาทำลายแล้วหลบหนีไป แต่บางจุดคนร้ายทำลายไม่ได้เนื่องจากมีชาวบ้านเห็นจึงหลบหนีไป
สำหรับกล้องวงจรปิดดังกล่าวเป็นโครงการของ ศอ.บต.มาติดตั้งไว้ 50 ตัว เพื่อต้องการจับภาพเหตุการณ์ต่างๆ และเป็นหลักฐานเพื่อจับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้คนร้ายได้ลอบเผาทำลายกล้องวงจรปิดมาแล้วในหลายอำเภอรวมกว่า 150 ตัว
**มท1รับไฟใต้เหตุคับแค้น-ยากจน
ด้านนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการวิจารณ์ว่ารัฐบาล ”ยิ่งลักษณ์1”ไม่ได้ให้ความสนใจกับการแก้ปัญหาภาคใต้ว่า เรื่องนี้ตนยอมรับ เพราะขณะนี้มัวแต่แก้ปัญหาน้ำท่วม และตนก็เป็นคนรับผิดชอบเรื่องดังกล่าว แต่ทั้งนี้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี ก็รับผิดชอบปัญหาในส่วนภารกิจภาคใต้ส่วนหนึ่งด้วย ส่วนตนรับผิดชอบในส่วนของพื้นที่ อย่างไรก็ตามปัญหาภาคใต้เกิดจากปัญหาหลายเรื่องโดยเฉพาะปัญหาเรื่องของความคับแค้นในจิตใจและความยากไร้ทางวัตถุ
เมื่อถามว่าแต่ดูเหมือนว่าผู้ก่อเหตุจะได้รับอาวุธที่มาจากการสนับสนุนจากต่างประเทศ นายยงยุทธ กล่าวว่า หากได้รับการสนับสนุนจากต่างประเทศก็คงไม่มาก เพราะสังเกตได้จากอาวุธที่ใช้หากได้รับการสนับสนุนจากต่างประเทศก็คงใช้อาวุธหนัก
เมื่อเวลา 12.00 น.วานนี้ (28 ก.ย.) ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 และปืนอาร์ก้ายิงถล่มเจ้าหน้าที่ทหารที่รักษาความปลอดภัยบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านลาเมาะนอก ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส มีทหารเสียชีวิต 4 นาย สาหัส 1 นาย เด็กนักเรียนโดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน
สำหรับทหารที่เสียชีวิตทั้ง 4 นายสังกัด ร้อย ร.15322 ฉก.นราธิวาส 30 คือ 1.ส.อ.นิติ อารี อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นหัวหน้าชุด รปภ.โรงเรียนบ้านลาเมาะ 2.ส.อ.ศุภชัย แก้วหนูนวล อายุ 40 ปี 3.พลทหารนุจรินทร์ สุรการ และ 4.พลทหารนภสินธุ์ ชูศรี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ 1.พลทหารไกรวิทย์ สุขอ่อน และ 2.ด.ช.อัลอามีน ปอกีลา อายุ 7 ปี ซึ่งเป็นนักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนบ้านลาเมาะ ที่ขณะเกิดเหตุยืนอยู่บนชั้น 2 ของอาคารเรียนชั้นประถมศึกษาของโรงเรียนบ้านลาเมาะ โดยทั้ง 2 ราย ถูกกระสุนปืนที่ลำตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส
สอบสวนพลทหารวิทยา ณะรัตน์โช ซึ่งเป็นชุดรักษษความปลอดภัยโรงเรียนบ้านลาเมาะ ที่ปลอดภัยเพียงนายเดียว ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าตนพร้อมหัวหน้าชุด รวมทั้งพรรคพวกอีกรวม 6 นายได้ขี่รถจักรยานยนต์ 3 คันออกจากฐานปฏิบัติการบ้านบลูกา ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ ซึ่งห่างจากโรงเรียนบ้านลาเมาะประมาณ 4 กม.เพื่อทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยโรงเรียนบ้านลาเมาะ ตามปกติ และเมื่อครูและนักเรียนประมาณ 400 คน กำลังทำการเรียนการสอนอยู่ภายในโรงเรียน หัวหน้าชุดได้นำกำลังเดินข้ามถนนมาพักอยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามโรงเรียน ซึ่งเป็นป่าสวนผลไม้เพื่อทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ภายนอกโรงเรียน
จังหวะนั้นได้มีกลุ่มคนร้ายประมาณ 18 คนแต่งกายชุดดำเลียนแบบเจ้าหน้าที่ทหารพราน เดินเรียงแถวลงมาจากเขาหลังโรงเรียน โดยแยกกำลังเป็น 2 กลุ่ม ปฏิบัติการซ้ายขวา วิ่งกรูเข้ามาบริเวณที่ทหารทั้ง 6 นายกำลังนั่งพักอยู่ ก่อนใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มเข้าใส่เจ้าหน้าที่ทหารแบบไม่ยั้งมือทำให้เจ้าหน้าที่ต้องหาที่กำบัง ก่อนใช้ปืนสงครามเอ็ม 16 A 4 ยิงตอบโต้กลุ่มคนร้ายเป็นระลอกๆ นานประมาณ 5 นาทีทำให้ทหารเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ 4 นาย และบาดเจ็บดังกล่าว
จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้วิ่งมาหยิบปืนเอ็ม 16 A 4 ประจำกายของเจ้าหน้าที่ทหารไปด้วย 5 กระบอก รวมทั้งเสื้อเกราะอีก 5 ตัว หลบหนีขึ้นเขาหลังโรงเรียนบ้านลาเมาะไปได้ พร้อมกับได้มีการตัดต้นไม้ขวางถนนและโปรยตะปูเรือใบสกัดกั้นการเข้าช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ชุดสนับสนุน
สำหรับโรงเรียนบ้านลาเมาะ เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาได้เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายยิงรองผู้อำนวยการโรงเรียน เสียชีวิตขณะเดินทางจะไปขึ้นรถไฟกลับบ้านพักมาแล้ว
**เหี้ยมยิงหนุ่มพิการยอดกตัญญูดับ
ที่ จ.ปัตตานีวันเดียวกัน เมื่อเวลา 08.30 น.พ.ต.อ.ชนวีร์ ชมาฤกษ์ ผกก.สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันบนถนนสายบ้านปากาจินอ-ปะกาฮารัง ม.6 ต.ดอนรัก จึงนำกำลังไปตรวจสอบไปถึงพบผู้เสียชีวิตนอนตายจมกองเลือด ทราบชื่อคือ นายคำพงษ์ งอกงาม อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/11 ม.2 ต.ดอนรัก สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาด เข้าศีรษะและใบหน้า 2 นัด ข้างศพมีกล่องข้าวตกอยู่ พร้อมรถจักรยานของผู้ตาย
สอบสอบทราบว่า หลังจากผู้ตายได้รับจ้างช่วยพ่อค้าแม่ค้าจัดร้านในตลาดเสร็จ จึงได้รีบปั่นจักรยานเพื่อนำข้าวกลับไปให้บิดาวัย 70 ปี ซึ่งเป็นอัมพาตและกำลังรออยู่ที่บ้าน เหมือนที่ผู้ตายปฏิบัติเป็นประจำทุกวัน ปรากฏว่าระหว่างเดินทางกลับบ้าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ มีคนร้าย 2 คนขับรถจักรยานยนต์ตามหลัง แล้วใช้อาวุธปืนจ่อยิง 2 นัดจนเสียชีวิตทันที
หลังเกิดเหตุ ชาวบ้านมุงดูศพด้วยความเศร้าเสียใจ เนื่องจากผู้ตายถือเป็นลูกกตัญญู อีกทั้งยังพิการตาซ้ายบอดและยังเป็นโรคลมบ้าหมูด้วย ทั้งนี้ ผู้ตายอยู่กับพ่อเพียง 2 คน และมีฐานะยากจน จนชาวบ้านเห็นแล้วรู้สึกสงสาร และต่างสาปแช่งคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยก่อนหน้านี้ผู้ตายเพิ่งจะได้รับมอบบ้านกาชาดจาก นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ให้มีที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือแนวร่วมสร้างสถานการณ์
**ลอบเผาCCTVปัตตานีกว่า 30 จุด
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรปัตตานี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพิสูจน์หลักฐาน จ.ปัตตานี เข้าตรวจสอบบนถนนสาย 42 ปัตตานี-นราธิวาส และถนนในหมู่บ้านในพื้นที่ ม.2 และม.9 ต.ตะลุโบะ อ.เมืองปัตตานี หลังเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางเพลิงกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งบนเสาไฟฟ้าริมทางเสียหายกว่า 30 จุด ในที่เกิดเหตุยังพบยางรถจักรยานยนต์ที่ไม่ติดไฟ เศษผ้า และขวดน้ำอัดลมที่คนร้ายใส่น้ำมันมาใช้ก่อเหตุทิ้งไว้ด้วย ซึ่งกล้องทั้งหมดเป็นกล้องที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ใช้งบประมาณจัดซื้อมาติดตั้ง
ผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่าช่วงเวลา 04.00 น.ได้มีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 20 คนใช้รถจักรยานยนต์กระจายกันเข้าไปทำลายกล้องวงจรปิด โดยการนำยางรถจักรยานยนต์ชุบน้ำมันเบนซินพาดกับตัวกล้องก่อนจะจุดไฟเผาทำลายแล้วหลบหนีไป แต่บางจุดคนร้ายทำลายไม่ได้เนื่องจากมีชาวบ้านเห็นจึงหลบหนีไป
สำหรับกล้องวงจรปิดดังกล่าวเป็นโครงการของ ศอ.บต.มาติดตั้งไว้ 50 ตัว เพื่อต้องการจับภาพเหตุการณ์ต่างๆ และเป็นหลักฐานเพื่อจับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้คนร้ายได้ลอบเผาทำลายกล้องวงจรปิดมาแล้วในหลายอำเภอรวมกว่า 150 ตัว
**มท1รับไฟใต้เหตุคับแค้น-ยากจน
ด้านนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการวิจารณ์ว่ารัฐบาล ”ยิ่งลักษณ์1”ไม่ได้ให้ความสนใจกับการแก้ปัญหาภาคใต้ว่า เรื่องนี้ตนยอมรับ เพราะขณะนี้มัวแต่แก้ปัญหาน้ำท่วม และตนก็เป็นคนรับผิดชอบเรื่องดังกล่าว แต่ทั้งนี้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี ก็รับผิดชอบปัญหาในส่วนภารกิจภาคใต้ส่วนหนึ่งด้วย ส่วนตนรับผิดชอบในส่วนของพื้นที่ อย่างไรก็ตามปัญหาภาคใต้เกิดจากปัญหาหลายเรื่องโดยเฉพาะปัญหาเรื่องของความคับแค้นในจิตใจและความยากไร้ทางวัตถุ
เมื่อถามว่าแต่ดูเหมือนว่าผู้ก่อเหตุจะได้รับอาวุธที่มาจากการสนับสนุนจากต่างประเทศ นายยงยุทธ กล่าวว่า หากได้รับการสนับสนุนจากต่างประเทศก็คงไม่มาก เพราะสังเกตได้จากอาวุธที่ใช้หากได้รับการสนับสนุนจากต่างประเทศก็คงใช้อาวุธหนัก
