xs
xsm
sm
md
lg

ผลงาน“รบ.ปู” 1 เดือน สอบตก! ค่าเฉลี่ยต่ำกว่ามาตรฐานโลก “ปึ้ง”ขอโอกาส 4 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (28 ก.ย.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและติดตามนโยบายของภาครัฐ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เผยผลการสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ จำนวน 1,361 คน เกี่ยวกับความคิดเห็นในการทำงานของรัฐาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งประเมินถึงผลงานด้านต่างๆ ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน 14 เรื่อง ปรากฎว่า ผลงานเด่นที่ประชาชนพอใจในการทำงานคือ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน จากกรณีพยายามขอปล่อยตัวคนไทยในกัมพูชา การแก้ไขปัญหายาเสพติด และการแก้ปัญหาน้ำท่วม ซึ่งได้ค่าเฉลี่ยสูงกว่าร้อยละ 6
ขณะที่ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาการคอร์รัปชั่น และการสร้างความปรองดองในสังคม กลับเป็นเรื่องที่กลุ่มตัวอย่างเห็นว่า ยังไม่มีผลงานเด่นชัด และได้ค่าเฉลี่ยร้อยละ 5 เท่านั้น ซึ่งผลการสำรวจคะแนนนิยมของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในรอบ 1 เดือน ที่ผ่านมา จึงได้ค่าเฉลี่ยร้อยละ 60 ถือว่าเป็นค่าเฉลี่ยน้อยกว่ารัฐบาลทั่วโลก ที่จะได้อยู่ประมาณร้อยละ 70
ส่วนรัฐมนตรีที่ได้รับคะแนนนิยมมากที่สุด คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี อยู่ที่ร้อยละ 22 นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร้อยละ 16 และนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร้อยละ 7 ขณะที่นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ร้อยละ 0.1 ถือว่าน้อยที่สุด

**อ้ายปึ้ง วอนขอโอกาสทำงาน 4 ปี
ที่มหานครนิวยอร์ค นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์หลังเสร็จสิ้นภารกิจในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 66 และการประชุมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ว่า ในการเดินทางมาครั้งนี้ทุกประเทศที่ได้พบเจอต่างก็แสดงความยินดีที่วันนี้ประเทศไทยกลับมาสู่ระบอบประชาธิปไตย มีการเลือกตั้งจากประชาชน เพราะส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติ ซึ่งสังคมโลกทุกวันนี้เขารับไม่ได้กับสิ่งเหล่านี้
“วันนี้ใครที่คิดจะทำอะไรไม่ดีกับประเทศ หรือก่อความวุ่นวาย กราบขอร้องขอให้หยุดสักพัก อย่าใจร้อน ให้รัฐบาลนี้มีโอกาสทำงานสัก 4 ปี สร้างความเชื่อมั่นต่อสายตาสังคมโลก แล้วความเจริญจะกลับสู่ประเทศไทย เชื่อว่าประเทศชาติจะก้าวต่อไปได้” นายสุรพงษ์กล่าว
นายสุรพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า จากที่ได้พบประเทศต่างๆในกรอบทวิภาคี เห็นว่าต้องรื้อฟื้นความสัมพันธ์กันใหม่ทั้งหมด เขาอยากให้ไทยไปเยือนและก็อยากมาเห็นประเทศไทย ทุกคนที่ได้พูดคุยที่เคยไปเยือนไทยก็จะชอบประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธรรมชาติ ผู้คน และอาหารคิดว่าจะนำสิ่งเหล่านี้ไปคุยในที่ประชุมครม. ซึ่งเราต้องหาแนวทางใช้ประโยชน์จากความเป็นไทยให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุนเข้าประเทศ

**แถลงต่อ UN นโยบายใช้ปชช.เป็นศูนย์กลาง
วันเดียวกัน นายสุรพงษ์ ขึ้นกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ณ สำนักงานใหญ่ยูเอ็น ณ นครนิวยอร์ก โดยมีเนื้อหาสำคัญๆ ว่า นโยบายรัฐบาลใหม่ เน้นการบริหารงาน โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางและจะนำมาซึ่งโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน รวมถึงจะสนับสนุนความปรองดองและความเป็นเอกภาพภายในประเทศ ทั้งนี้ จะเห็นว่าการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ซึ่งไทยได้ยึดแนวทาง"ประชาชนเป็นศูนย์กลาง" และ"ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง"ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นสำคัญ
นายสุรพงษ์กล่าวว่า สำหรับการดำเนินนโยบายต่างประเทศ ไทยจะเน้นการส่งเสริมความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะให้ความสำคัญกับการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ และเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

**มท.1ไม่หวั่นข้อกล่าวหานโยบายสับสน
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ระบุว่านโยบายของรัฐบาลเป็นเรื่องตลกร้าย เพราะมีบางโครงการที่ยังไม่ชัดเจนแต่กลับมาแถลงต่อรัฐสภาและทำให้ประชาชนสับสน ว่า เป็นสิทธิของฝ่ายค้านที่จะวิจารณ์ได้ ซึ่งรัฐบาลคงต้องรับฟัง และเป็นเรื่องปกติของฝ่ายค้าน ถ้าฝ่ายค้านชม หรือบอกว่าสุดยอดถึงจะแปลก แต่รัฐบาลต้องทำงานด้วยความเชื่อมั่นศรัทธาในตัวเองและเชื่อมั่นศรัทธาในนโยบายที่มีอยู่ ซึ่งเมื่อเป็นอย่างนี้เราก็สบายใจถ้าเราทำนโยบายให้สำเร็จ
เมื่อถามว่าปกติการวิจารณ์อะไรจะต้องอยู่บนหลักการและเหตุผล นายยงยุทธ กล่าวว่า คงแล้วแต่เหตุผลความเป็นจริงของแต่ละวันก็ไม่ว่ากัน

**ปชป.ตั้ง "กรณ์"ปธ.ประเมินนโยบายรัฐ
ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ปชป. แถลงภายหลังการประชุม ครม.เงาว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป. ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามและประเมินนโยบายรัฐบาล เพื่อติดตามนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาประเทศ และแก้ไขปัญหาประชาชนในทุกด้าน มีนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค เป็นประธาน พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ติดตามนโยบายรัฐบาล (Policy Watch) โดยมีตนเป็น ผอ.ศูนย์ จะเริ่มโดยการมีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้นำทางความคิดในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาค

**แนะใช้เงิน"รถคันแรก"สร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี โฆษกคณะรัฐมนตรีเงา เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวานที่ผ่านมา ที่อนุมัติกู้เงินสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่ แบริ่ง-สมุทรปราการ จำนวน 37,219 ล้านบาท อาจก่อให้เกิดหนี้และเป็นภาระของประเทศชาติ
ด้าน ดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกคณะรัฐมนตรีเงา ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การกู้ยืมเงินของรัฐบาล ถือเป็นการสร้างหนี้โดยสิ้นเปลือง ซึ่งการสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร ใช้งบรวมประมาณ 30,000 ล้านบาท ซึ่งน่าจะนำเงินจากนโยบายที่ไม่จำเป็น เช่น นโยบายรถคันแรก มาสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว จะได้ไม่ต้องกู้ยืมเงินเพิ่ม

**"อภิสิทธิ์"แซว"ยิ่งลักษณ์"อย่าพูดผิดบ่อย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผิดในเรื่องครม.มีการนำการจัดซื้อเรือดำน้ำเข้าพิจารณาว่า “อย่าให้เกิดบ่อย และอยากให้ระมัดระวัง”
กำลังโหลดความคิดเห็น