ASTVผู้จัดการรายวัน- "ยิ่งลักษณ์ " ท้าให้สอบนโยบายบ้านหลังแรก เอื้อ SC หรือไม่ โวยบริษัทฯ"ทำบ้านส่วนใหญ่สูงกว่า 5 ล้าน แต่พบราคาต่ำหลายโครงการรับอานิสงส์ " ด้าน "กิตติรัตน์”ออกตัวอุ้มรัฐบาล ปัดนโยบายบ้านหลังแรก ไม่เอื้อประโยชน์บริษัทอสังหาฯรายใดรายหนึ่ง ขณะที่"ไพโรจน์ สุขจั่น"ชี้หลักเกณฑ์กระทบตลาดบ้านมือสอง ชี้ทางรอด ต้องเจรจากับเจ้าของทรัพย์ลดราคาสู้มาตรการรัฐ จับตารัฐปรับหลักเกณฑ์รถคันแรก อาจครอบคลุมแท็กซี่ ที่เข้าข่ายได้รับเงินคืนด้วย
เมื่อเวลา 11.45 น.วานนี้ ( 22 ก.ย.)ที่รัฐสภา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวหาว่า โครงการบ้านหลังแรกเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ต้องขอเรียนว่า เหตุที่เราเลือกราคาบ้านตั้งแต่ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท เพราะว่าหากดูจากสถิติผู้ที่ซื้อบ้านส่วนใหญ่แล้วจะซื้อที่ราคา 3-5 ล้าน สำหรับของบริษัทเอสซีฯ ไม่ได้ทำบ้านส่วนใหญ่จะเป็นบ้านที่ราคาสูงกว่า 5 ล้านทั้งนั้น แต่สำหรับคอนโดมีเนียมต่างๆ แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นราคา 3 ล้านทุกคนก็ได้หมดอยู่แล้วขึ้นอยู่กับโครงการ
" ส่วนใหญ่ที่ผ่านมา โดยเฉพาะปีนี้ของเอสซี ช่วงที่ได้รับสิทธิโครงการบ้านหลังแรก จะเป็นโครงการคอนโดฯที่เป็นตึกสูง กว่าจะเสร็จก็ปลายปี แทบจะไม่ได้รับผลที่อยู่ในสิทธิ์ในโครงการบ้านหลังแรกนี้เลย เพราะมีอายุเพียง 1 ปี ตนทำงานก็ต้องการให้พี่น้องประชาชนทั้งหมดในภาพรวม ไม่ได้คำนึงถึงว่าจะเอื้อประโยชน์กับใครใดๆทั้งสิ้น ตนยืนยันได้และพร้อมให้ตรวจสอบ ดูจากโครงการของเอสซีแอสแซท ขายราคา 8 ล้าน ถึง 50-100ล้าน ไม่มีบ้านราคาต่ำกว่า 5 ล้านด้วยซ้ำไป
อนึ่ง จากการเข้าไปตรวจสอบในเว็บไซต์ของบริษัทเอสซีฯ พบว่า หากเป็นโครงการบ้านเดี่ยวแล้ว ราคาจะสูงมาก เช่น โครงการ กรานดา ปิ่นเกล้า เริ่ม 40-120 ล้านบาท แต่ก็มีบางโครงการบ้านเดี่ยวที่อาจจะเข้าข่ายต่ำกว่า 5 ล้านบาท เช่น โครงการไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด วงแหวน-อ่อนนุช เริ่มต้น 4.99-7 ล้านบาท เป็นต้น
แต่หากเป็นโครงการคอนโดมิเนียมและทาวน์โฮมแล้ว จะอยู่ในเกณฑ์ เช่น โครงการเซ็นทริล ซีน รัชวิภา /ถนนรัชดาภิเษก สูง 21 ชั้น 2 อาคาร รวม 696 ยูนิต และพื้นที่ร้านค้าย่อย 8 ยูนิต ราคาขาย 1.69-5.6 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,950 ล้านบาท , โครงการเซ็นทริค รัชดา-สุทธิสาร/ถนนสุทธิสารวินิจแย สูง 26 ชั้น จำนวน 270 ยูนิต ราคา 2.7-5.5 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 890 ล้านบาท , เดอะ เครสท์ พหลโยธิน 11 สูง 30 ชั้น จำนวน 270 ยูนิต ราคา 3.5-10 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 890 ล้านบาท , เดอะ เครสท์ ร่วมฤดี / ถนนเพลินจิต สูง 8 ชั้น จำนวน 37 ยูนิต ราคาขาย 4.5-10 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 280 ล้านบาท
ทั้งโครงสร้างรายได้ของบริษัทเอสซีฯจะมาจากธุรกิจพัฒนาอสังหาฯเพื่อขายกว่า 80% ของรายได้รวม ส่วน 20% จะมาจากธุรกิจพัฒนาอสังหาฯเพื่อให้เช่า (อาคารสำนักงาน) ที่มีการเข้ากองทุนรวมอสังหาฯไปแล้ว
****มาตรการศก.ไร้ทิศทางระยะยาว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการดำเนินมาตรการด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า มาตรการที่ออกมามีปัญหา อาทิ กรณีบ้านหลังแรกแทนที่จะช่วยผู้มีรายได้น้อยกลับไปช่วยผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งตัวธุรกิจไม่มีความจำเป็นที่ต้องเอาเงินภาษีไปกระตุ้น เช่นเดียวกับการเอื้อหลักเกณฑ์ที่ไปช่วยคนมีรายได้ และการขยายหลักเกณฑ์ราคาที่อยู่อาศัยไปที่ 5 ล้านบาท ก็เป็นการเอื้อประโยชน์บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ส่วนจะเป็นที่ไหนก็ต้องไปดูข้อเท็จจริงว่าบริษัทไหนมีการขายคอนโดในราคานี้
สำหรับมาตรการรถคันแรกที่ออกมาก่อนหน้านี้นั้น เป็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยอยู่แล้วเพราะเรากำลังเสียเงิน จำนวน 30,000 ล้านบาท ที่สามารถไปสร้างระบบขนส่งมวลชนให้คนส่วนใหญ่ และการพัฒนาด้านอื่น อาทิ แหล่งน้ำ โรงเรียน แต่กลับไปเอาเงินให้คนกลุ่มหนึ่งซื้อรถในราคาถูกลง
ทั้งนี้ มองว่าทิศทางนโยบายเศรษฐกิจขณะนี้ไม่มีความชัดเจน เป็นเพียงความพยายามว่า สิ่งที่หาเสียงไว้จะหาทางทำได้หรือไม่ แต่ขาดภาพรวมว่าจะนำพาประเทศไปทางไหน ทั้งการจัดการเศรษฐกิจมหภาคเฉพาะหน้าหรือในภาพรวม กระทั่งเรื่องพลังงานที่สวนทางกับการใช้พลังงานทดแทน ส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เน้นการใช้พลังงานน้อย และสูญเสียโอกาสจัดสรรทรัพยากรที่บิดเบือน
***'โต้ง'บอกตอบแทนผู้เสียภาษีสูงสุด!
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า มาตรการบ้านหลังแรก ที่กำหนดให้มีราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใดรายหนึ่ง ตามที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่บ้านระดับราคา 5 ล้านบาท เป็นราคาบ้านสำหรับครอบครัวหรือที่อยู่อาศัยกลางเมืองซึ่งเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ซื้ออย่างแท้จริง ให้ได้บ้านที่มีพื้นที่เยอะขึ้น และจะเป็นประโยชน์ทางสังคม ส่วนบริษัทที่ถูกพาดพิงว่าเป็นผู้ได้ประโยชน์ส่วนใหญ่ขายบ้านในราคาที่สูงกว่า 5 ล้านบาทอยู่แล้ว ไม่น่าจะได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว
สำหรับเงื่อนไขกำหนดให้ผู้ที่เข้าโครงการได้ต้องเป็นผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ก็เพื่อเป็นการตอบแทนให้แก่ผู้ที่เสียภาษีทุกคน และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เสียภาษีสูงสุด ซึ่งคนในกลุ่มดังกล่าวมีอยู่เพียง 4-5 ล้านคนเท่านั้น จึงควรเป็นผู้ที่ได้รับโอกาสนี้ไป ส่วนบุคคลอื่นๆ ก็จะมีมาตรการอื่นๆ ขอรัฐบาลมารองรับอยู่แล้ว เช่น นโยบายจำนำข้าวที่มุ่งเน้นการช่วยเหลือเกษตรกร เป็นต้น
****ตลาดบ้านมือสองพลิกเกมสู้'บ้านหลังแรก'
นายไพโรจน์ สุขจั่น นายกสมาคมการขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์ กล่าวยอมรับมาตรการอสังหาฯที่ออกมา ทำให้ผิดหวัง หลังจากที่ทุกคนรอคอยว่ารัฐบาลจะผลักดัน 0% ระยะเวลา 5 ปี ซึ่งตรงนี้มีผลต่อราคาบ้านลดลงไปประมาณ 20% หากมีมาตรการทางด้านดอกเบี้ยออกมา อย่างไรก็ดี การจำกัดเฉพาะบ้านใหม่นั้น ส่งผลกระทบต่อตลาดบ้านมือ 2 และตลาดรับสร้างบ้าน ซึ่งเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูง สร้างผลประโยชน์ต่อเศรษฐกิจในหลายๆทาง ทั้งเรื่องของการเพิ่มโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยในการมีที่อยู่อาศัย ราคาที่ถูกกว่าบ้านใหม่ 20-30% กระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เนื่องจากบ้านมือสองในระบบมีมากกว่า2 แสนล้านบาท
" บ้านมือสองถูกกระทบแน่นอน ยอดขายอืด ดังนั้น ต้องหาวิธีในการกระตุ้นตลาด อาจต้องเจรจากับเจ้าของเพื่อลดราคาบ้านมือสองลง เพื่อสู้กับบ้านหลังแรก "
***แท็กซี่เตรียมเฮ!รถคันแรก
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า วันนี้ (23 ก.ย.) กรมสรรพสามิตจะเสนอรายละเอียดการขยายความช่วยเหลือทางด้านภาษีในโครงการรถคันแรกโดยไม่กระทบภาระงบประมาณที่ตั้งไว้เดิม 3 หมื่นล้านบาท โดยไปดูว่าถ้าขยายสิทธิ์รถยนต์คันแรกให้ครอบคลุมรถนำเข้า และรถขนาด 1,600 ซีซี จะมีรถยนต์ที่ได้รับสิทธิ์เพิ่มขึ้นอีกกี่รุ่น และมีผลกระทบต่อการคืนเงินเท่าใด ทั้งนี้ หากขยายสิทธิ์ให้ครอบคลุมรถยนต์ 1,600 ซีซี บรรดารถแท็กซี่จะเข้าข่ายได้รับเงินคืนด้วย จะเป็นการช่วยเหลือแท็กซี่ที่ต้องการซื้อรถเป็นของตัวเอง คาดว่าจะมีข้อสรุปและนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ เพื่อให้ทันมหกรรมเปิดตัวโครงการคืนเงินรถยนต์คันแรกที่จะเริ่มวันที่ 4-8 ต.ค.นี้ ที่เมืองทองธานี
***เมินช่วยเหลือบ้านสร้างเอง
สำหรับการขยายสิทธิ์โครงการบ้านหลังแรกนั้นนายบุญทรงกล่าวว่า จะไม่ขยายไปสู่บ้านสร้างเองหรือบ้านมือสองอย่างที่มีกระแสเรียกร้องเข้ามา เพราะตรวจสอบราคาได้ยากและต้องเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน และจไม่เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขราคาบ้านที่ระบุไม่เกิน 5 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบุญทรงได้หารือกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ และนายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร เรียบร้อยแล้ว จะเสนอเข้า ครม.ใน 1-2 สัปดาห์นี้ เช่นกัน
เมื่อเวลา 11.45 น.วานนี้ ( 22 ก.ย.)ที่รัฐสภา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวหาว่า โครงการบ้านหลังแรกเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ต้องขอเรียนว่า เหตุที่เราเลือกราคาบ้านตั้งแต่ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท เพราะว่าหากดูจากสถิติผู้ที่ซื้อบ้านส่วนใหญ่แล้วจะซื้อที่ราคา 3-5 ล้าน สำหรับของบริษัทเอสซีฯ ไม่ได้ทำบ้านส่วนใหญ่จะเป็นบ้านที่ราคาสูงกว่า 5 ล้านทั้งนั้น แต่สำหรับคอนโดมีเนียมต่างๆ แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นราคา 3 ล้านทุกคนก็ได้หมดอยู่แล้วขึ้นอยู่กับโครงการ
" ส่วนใหญ่ที่ผ่านมา โดยเฉพาะปีนี้ของเอสซี ช่วงที่ได้รับสิทธิโครงการบ้านหลังแรก จะเป็นโครงการคอนโดฯที่เป็นตึกสูง กว่าจะเสร็จก็ปลายปี แทบจะไม่ได้รับผลที่อยู่ในสิทธิ์ในโครงการบ้านหลังแรกนี้เลย เพราะมีอายุเพียง 1 ปี ตนทำงานก็ต้องการให้พี่น้องประชาชนทั้งหมดในภาพรวม ไม่ได้คำนึงถึงว่าจะเอื้อประโยชน์กับใครใดๆทั้งสิ้น ตนยืนยันได้และพร้อมให้ตรวจสอบ ดูจากโครงการของเอสซีแอสแซท ขายราคา 8 ล้าน ถึง 50-100ล้าน ไม่มีบ้านราคาต่ำกว่า 5 ล้านด้วยซ้ำไป
อนึ่ง จากการเข้าไปตรวจสอบในเว็บไซต์ของบริษัทเอสซีฯ พบว่า หากเป็นโครงการบ้านเดี่ยวแล้ว ราคาจะสูงมาก เช่น โครงการ กรานดา ปิ่นเกล้า เริ่ม 40-120 ล้านบาท แต่ก็มีบางโครงการบ้านเดี่ยวที่อาจจะเข้าข่ายต่ำกว่า 5 ล้านบาท เช่น โครงการไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด วงแหวน-อ่อนนุช เริ่มต้น 4.99-7 ล้านบาท เป็นต้น
แต่หากเป็นโครงการคอนโดมิเนียมและทาวน์โฮมแล้ว จะอยู่ในเกณฑ์ เช่น โครงการเซ็นทริล ซีน รัชวิภา /ถนนรัชดาภิเษก สูง 21 ชั้น 2 อาคาร รวม 696 ยูนิต และพื้นที่ร้านค้าย่อย 8 ยูนิต ราคาขาย 1.69-5.6 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,950 ล้านบาท , โครงการเซ็นทริค รัชดา-สุทธิสาร/ถนนสุทธิสารวินิจแย สูง 26 ชั้น จำนวน 270 ยูนิต ราคา 2.7-5.5 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 890 ล้านบาท , เดอะ เครสท์ พหลโยธิน 11 สูง 30 ชั้น จำนวน 270 ยูนิต ราคา 3.5-10 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 890 ล้านบาท , เดอะ เครสท์ ร่วมฤดี / ถนนเพลินจิต สูง 8 ชั้น จำนวน 37 ยูนิต ราคาขาย 4.5-10 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 280 ล้านบาท
ทั้งโครงสร้างรายได้ของบริษัทเอสซีฯจะมาจากธุรกิจพัฒนาอสังหาฯเพื่อขายกว่า 80% ของรายได้รวม ส่วน 20% จะมาจากธุรกิจพัฒนาอสังหาฯเพื่อให้เช่า (อาคารสำนักงาน) ที่มีการเข้ากองทุนรวมอสังหาฯไปแล้ว
****มาตรการศก.ไร้ทิศทางระยะยาว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการดำเนินมาตรการด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า มาตรการที่ออกมามีปัญหา อาทิ กรณีบ้านหลังแรกแทนที่จะช่วยผู้มีรายได้น้อยกลับไปช่วยผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งตัวธุรกิจไม่มีความจำเป็นที่ต้องเอาเงินภาษีไปกระตุ้น เช่นเดียวกับการเอื้อหลักเกณฑ์ที่ไปช่วยคนมีรายได้ และการขยายหลักเกณฑ์ราคาที่อยู่อาศัยไปที่ 5 ล้านบาท ก็เป็นการเอื้อประโยชน์บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ส่วนจะเป็นที่ไหนก็ต้องไปดูข้อเท็จจริงว่าบริษัทไหนมีการขายคอนโดในราคานี้
สำหรับมาตรการรถคันแรกที่ออกมาก่อนหน้านี้นั้น เป็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยอยู่แล้วเพราะเรากำลังเสียเงิน จำนวน 30,000 ล้านบาท ที่สามารถไปสร้างระบบขนส่งมวลชนให้คนส่วนใหญ่ และการพัฒนาด้านอื่น อาทิ แหล่งน้ำ โรงเรียน แต่กลับไปเอาเงินให้คนกลุ่มหนึ่งซื้อรถในราคาถูกลง
ทั้งนี้ มองว่าทิศทางนโยบายเศรษฐกิจขณะนี้ไม่มีความชัดเจน เป็นเพียงความพยายามว่า สิ่งที่หาเสียงไว้จะหาทางทำได้หรือไม่ แต่ขาดภาพรวมว่าจะนำพาประเทศไปทางไหน ทั้งการจัดการเศรษฐกิจมหภาคเฉพาะหน้าหรือในภาพรวม กระทั่งเรื่องพลังงานที่สวนทางกับการใช้พลังงานทดแทน ส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เน้นการใช้พลังงานน้อย และสูญเสียโอกาสจัดสรรทรัพยากรที่บิดเบือน
***'โต้ง'บอกตอบแทนผู้เสียภาษีสูงสุด!
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า มาตรการบ้านหลังแรก ที่กำหนดให้มีราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใดรายหนึ่ง ตามที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่บ้านระดับราคา 5 ล้านบาท เป็นราคาบ้านสำหรับครอบครัวหรือที่อยู่อาศัยกลางเมืองซึ่งเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ซื้ออย่างแท้จริง ให้ได้บ้านที่มีพื้นที่เยอะขึ้น และจะเป็นประโยชน์ทางสังคม ส่วนบริษัทที่ถูกพาดพิงว่าเป็นผู้ได้ประโยชน์ส่วนใหญ่ขายบ้านในราคาที่สูงกว่า 5 ล้านบาทอยู่แล้ว ไม่น่าจะได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว
สำหรับเงื่อนไขกำหนดให้ผู้ที่เข้าโครงการได้ต้องเป็นผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ก็เพื่อเป็นการตอบแทนให้แก่ผู้ที่เสียภาษีทุกคน และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เสียภาษีสูงสุด ซึ่งคนในกลุ่มดังกล่าวมีอยู่เพียง 4-5 ล้านคนเท่านั้น จึงควรเป็นผู้ที่ได้รับโอกาสนี้ไป ส่วนบุคคลอื่นๆ ก็จะมีมาตรการอื่นๆ ขอรัฐบาลมารองรับอยู่แล้ว เช่น นโยบายจำนำข้าวที่มุ่งเน้นการช่วยเหลือเกษตรกร เป็นต้น
****ตลาดบ้านมือสองพลิกเกมสู้'บ้านหลังแรก'
นายไพโรจน์ สุขจั่น นายกสมาคมการขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์ กล่าวยอมรับมาตรการอสังหาฯที่ออกมา ทำให้ผิดหวัง หลังจากที่ทุกคนรอคอยว่ารัฐบาลจะผลักดัน 0% ระยะเวลา 5 ปี ซึ่งตรงนี้มีผลต่อราคาบ้านลดลงไปประมาณ 20% หากมีมาตรการทางด้านดอกเบี้ยออกมา อย่างไรก็ดี การจำกัดเฉพาะบ้านใหม่นั้น ส่งผลกระทบต่อตลาดบ้านมือ 2 และตลาดรับสร้างบ้าน ซึ่งเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูง สร้างผลประโยชน์ต่อเศรษฐกิจในหลายๆทาง ทั้งเรื่องของการเพิ่มโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยในการมีที่อยู่อาศัย ราคาที่ถูกกว่าบ้านใหม่ 20-30% กระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เนื่องจากบ้านมือสองในระบบมีมากกว่า2 แสนล้านบาท
" บ้านมือสองถูกกระทบแน่นอน ยอดขายอืด ดังนั้น ต้องหาวิธีในการกระตุ้นตลาด อาจต้องเจรจากับเจ้าของเพื่อลดราคาบ้านมือสองลง เพื่อสู้กับบ้านหลังแรก "
***แท็กซี่เตรียมเฮ!รถคันแรก
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า วันนี้ (23 ก.ย.) กรมสรรพสามิตจะเสนอรายละเอียดการขยายความช่วยเหลือทางด้านภาษีในโครงการรถคันแรกโดยไม่กระทบภาระงบประมาณที่ตั้งไว้เดิม 3 หมื่นล้านบาท โดยไปดูว่าถ้าขยายสิทธิ์รถยนต์คันแรกให้ครอบคลุมรถนำเข้า และรถขนาด 1,600 ซีซี จะมีรถยนต์ที่ได้รับสิทธิ์เพิ่มขึ้นอีกกี่รุ่น และมีผลกระทบต่อการคืนเงินเท่าใด ทั้งนี้ หากขยายสิทธิ์ให้ครอบคลุมรถยนต์ 1,600 ซีซี บรรดารถแท็กซี่จะเข้าข่ายได้รับเงินคืนด้วย จะเป็นการช่วยเหลือแท็กซี่ที่ต้องการซื้อรถเป็นของตัวเอง คาดว่าจะมีข้อสรุปและนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ เพื่อให้ทันมหกรรมเปิดตัวโครงการคืนเงินรถยนต์คันแรกที่จะเริ่มวันที่ 4-8 ต.ค.นี้ ที่เมืองทองธานี
***เมินช่วยเหลือบ้านสร้างเอง
สำหรับการขยายสิทธิ์โครงการบ้านหลังแรกนั้นนายบุญทรงกล่าวว่า จะไม่ขยายไปสู่บ้านสร้างเองหรือบ้านมือสองอย่างที่มีกระแสเรียกร้องเข้ามา เพราะตรวจสอบราคาได้ยากและต้องเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน และจไม่เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขราคาบ้านที่ระบุไม่เกิน 5 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบุญทรงได้หารือกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ และนายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร เรียบร้อยแล้ว จะเสนอเข้า ครม.ใน 1-2 สัปดาห์นี้ เช่นกัน