นายวรพจน์ อุชุไพบูลย์วงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2553 เมื่อวันที่ 2 กันยายน 53 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ขายหุ้นในบริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด (BIC) ให้แก่บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่ไม่มีความเกี่ยวโยงกับบริษัทฯ คิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียน และมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารเป็นผู้ดำเนินการหาพันธมิตรผู้ร่วมทุนอื่น ๆ รวมถึงเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาอนุมัติในรายละเอียด ราคาขาย และเงื่อนไขต่างๆ เพื่อเสนอขายหุ้น และ/หรือเงินลงทุนให้แก่บุคคล และ/หรือนิติบุคคลอื่นต่อไป โดยบริษัทฯ จะถือหุ้นในบริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด ไว้ไม่ต่ำกว่า 36 % ของทุนจดทะเบียน (ณ ปัจจุบัน บริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด มีทุนจดทะเบียน 1,370 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 137,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท) นั้น
ล่าสุดที่ประชุมบอร์ดเมื่อ ครั้งที่ 17/2554 เมื่อวันที่ 19 กันยายน 54 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ขายหุ้นบางส่วนในบริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด ให้แก่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่ไม่มีความเกี่ยวโยงกับบริษัทฯ จำนวน 10,960,000 หุ้น หรือคิดเป็น 8 % ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด โดยแบ่งเป็น หุ้น 1,200,000 หุ้น (เป็นหุ้นที่มีการชำระค่าหุ้นแล้ว 100 %) ขายในราคาตามมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท เป็นเงิน 12 ล้านบาท และหุ้น 9,760,000 หุ้น (เป็นหุ้นที่มีการชำระค่าหุ้นแล้วบางส่วน) เป็นเงิน 39,560,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 51,560,000 บาท โดยบริษัทฯ จะดำเนินการทยอยโอนหุ้น และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจะทยอยชำระเงินค่าหุ้นให้เสร็จสิ้นภายในเดือนเมษายน 55
ดังนั้น จะส่งผลให้ภายหลังจากการขายหุ้นดังกล่าวแล้ว ทำให้สัดส่วนการถือหุ้น ใน บริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด เป็นดัง
นี้คือ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) 46 % บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) 25 % บริษัท ที่ดินบางปะอิน จำกัด 19 % การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 8% และ นางนภาพร ภู่วุฒิกุล 2%
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการร่วมลงทุนในการดำเนินธุรกิจโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ประมาณการเงินลงทุนทั้งโครงการคิดเป็นประมาณ 5,400 ล้านบาทการขายหุ้นบางส่วนในบริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด ให้กับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในครั้งนี้เป็นรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ซึ่งมีขนาดรายการเป็นเงิน 51,560,000 บาท คิดเป็นขนาดรายการเท่ากับ 0.58 % ตามวิธีการคำนวณขนาดรายการโดยใช้หลักเกณฑ์มูลค่าของสินทรัพย์ที่ได้มาหรือจำหน่ายไป เปรียบเทียบกับมูลค่าของสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน ตามประกาศตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ.2547 และเมื่อนับรวมรายการจำหน่ายไปที่เกิดขึ้นในระหว่าง 6 เดือนก่อนวันที่มีการตกลงเข้าทำรายการ ซึ่งมีขนาดรายการเท่ากับ 47.05 % โดยบริษัทได้ทำสารสนเทศแจ้งเวียนผู้ถือหุ้นเพื่อรับทราบแล้วเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 54 รวมถึงการขายหุ้นบางส่วนในบริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด ให้แก่บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีขนาดรายการเท่ากับ 0.18 % รวมเป็นขนาดรายการเท่ากับ 47.23% ซึ่งบริษัทฯ ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ทราบแล้วเมื่อวันที่ 14 กันยายน 54 ดังนั้น ขนาดรายการรวมทั้งหมดจึงเท่ากับ 47.81 %
ล่าสุดที่ประชุมบอร์ดเมื่อ ครั้งที่ 17/2554 เมื่อวันที่ 19 กันยายน 54 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ขายหุ้นบางส่วนในบริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด ให้แก่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่ไม่มีความเกี่ยวโยงกับบริษัทฯ จำนวน 10,960,000 หุ้น หรือคิดเป็น 8 % ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด โดยแบ่งเป็น หุ้น 1,200,000 หุ้น (เป็นหุ้นที่มีการชำระค่าหุ้นแล้ว 100 %) ขายในราคาตามมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท เป็นเงิน 12 ล้านบาท และหุ้น 9,760,000 หุ้น (เป็นหุ้นที่มีการชำระค่าหุ้นแล้วบางส่วน) เป็นเงิน 39,560,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 51,560,000 บาท โดยบริษัทฯ จะดำเนินการทยอยโอนหุ้น และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจะทยอยชำระเงินค่าหุ้นให้เสร็จสิ้นภายในเดือนเมษายน 55
ดังนั้น จะส่งผลให้ภายหลังจากการขายหุ้นดังกล่าวแล้ว ทำให้สัดส่วนการถือหุ้น ใน บริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด เป็นดัง
นี้คือ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) 46 % บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) 25 % บริษัท ที่ดินบางปะอิน จำกัด 19 % การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 8% และ นางนภาพร ภู่วุฒิกุล 2%
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการร่วมลงทุนในการดำเนินธุรกิจโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ประมาณการเงินลงทุนทั้งโครงการคิดเป็นประมาณ 5,400 ล้านบาทการขายหุ้นบางส่วนในบริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด ให้กับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในครั้งนี้เป็นรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ซึ่งมีขนาดรายการเป็นเงิน 51,560,000 บาท คิดเป็นขนาดรายการเท่ากับ 0.58 % ตามวิธีการคำนวณขนาดรายการโดยใช้หลักเกณฑ์มูลค่าของสินทรัพย์ที่ได้มาหรือจำหน่ายไป เปรียบเทียบกับมูลค่าของสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน ตามประกาศตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ.2547 และเมื่อนับรวมรายการจำหน่ายไปที่เกิดขึ้นในระหว่าง 6 เดือนก่อนวันที่มีการตกลงเข้าทำรายการ ซึ่งมีขนาดรายการเท่ากับ 47.05 % โดยบริษัทได้ทำสารสนเทศแจ้งเวียนผู้ถือหุ้นเพื่อรับทราบแล้วเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 54 รวมถึงการขายหุ้นบางส่วนในบริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด ให้แก่บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีขนาดรายการเท่ากับ 0.18 % รวมเป็นขนาดรายการเท่ากับ 47.23% ซึ่งบริษัทฯ ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ทราบแล้วเมื่อวันที่ 14 กันยายน 54 ดังนั้น ขนาดรายการรวมทั้งหมดจึงเท่ากับ 47.81 %