รัฐบาลและนักการเมืองชั่วเท่านั้น ที่กลัว“ผีรัฐประหาร” คืนชีพ!
19 กันยายน 2554 เป็นวันครบรอบ 5 ปี ที่รัฐบาล “ทักษิณ ชินวัตร” ถูกคณะนายทหารกลุ่มหนึ่งในนาม คมช.รัฐประหารโค่นล้ม เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549
3 กรกฎาคม 2554 “หน้าเหลี่ยม” ได้ใช้อิทธิพลและเงินมหาศาล เข้าซื้อเสียงการเลือกตั้งจนยึดอำนาจรัฐได้อีกครั้งหนึ่ง ด้วยการอุปโลกน์น้องสาว “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ให้เป็นนายกรัฐมนตรี และตั้งรัฐมนตรีที่สั่งซ้ายหันขวาหันได้เข้าครม. “ปูแดง 1” แบบเต็มพิกัด
ทว่า “ปูแดง” เป็นรัฐบาลได้แค่ 1 เดือนกับไม่กี่วันเท่านั้น กระแสนิยมรัฐบาล “ปูแดง” กลับตกต่ำลงอย่างเหลือเชื่อ จนคนในรัฐบาล “ปูจ๋า” หลายคนเป็นคนจงใจปล่อยข่าวลือว่า
รัฐบาลนอมินีของทักษิณหรือ “ยิ่งลักษณ์” อาจจะโดนรัฐประหารโค่นล้มช่วงปลายปี 2554 นี้!
ยิ่งถึงวันครบรอบ 5 ปีรัฐประหารรัฐบาลทักษิณ คนในรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” กับแกนนำคนเสื้อแดง ได้จัดงานรำลึกเหตุการณ์ 19 กันยายน 2549 เพื่อประณามการรัฐประหารอย่างสาดเสียเทเสียว่า รัฐประหารครั้งนั้น..นำความเสียหายอย่างใหญ่หลวงมาสู่ชาติบ้านเมือง?
โดยลิ่วล้อของทักษิณจงใจปกปิดความจริง หรือความชั่วของรัฐบาล “หน้าเหลี่ยม” ที่เต็มไปด้วยการโกงกินชาติ การเล่นพรรคเล่นพวกในการโยกย้ายข้าราชการ การขยิบตาปล่อยให้ขบวนการ “ล้มเจ้า” เกิด และเติบใหญ่อย่างเป็นขบวนการอยู่ตลอดเวลา ฯลฯ
ความชั่วร้ายทั้งปวงของรัฐบาลทักษิณเหล่านี้ คือ ต้นเหตุหลักที่ทำให้คณะนายทหารจำต้องทำรัฐประหาร19 กันยายน 2549
แน่นอน..การรัฐประหารนั้น มิใช่เรื่องควรกระทำหรือพึงให้การสนับสนุนส่งเสริม เพราะรัฐประหารที่ทำเพียงแค่เปลี่ยนถ่ายอำนาจรัฐ จากการครอบครองของนักการเมืองชั่ว มาอยู่ในกำมือของคณะนายทหารที่เห็นแก่ตัว เพื่อแสวงหาผลประโยชน์อย่างสามานย์นั้น ต้องถือว่า..ประชาชนได้ “หนีเสือ-มาปะ-จระเข้” ครับ
คำถาม..มีอยู่ว่า ผู้นำทหารที่ลากรถถังออกมายึดอำนาจรัฐ กับกลุ่มนักธุรกิจการเมืองที่ใช้เงินซื้อเสียงเข้ายึดอำนาจรัฐนั้น ใคร-ชั่วช้าสามานย์น่าประณามกว่ากัน?
คำตอบจากความจริงของหน้าประวัติศาสตร์ชาติไทย คือ เอาผู้นำเผด็จการทหารทุกคณะมารวมกันแล้ว ยังโกงชาติบ้านเมืองแค่ไม่กี่พันล้านบาทเท่านั้น!
แต่..ก็ทำให้คณะรัฐประหารถูกคนไทยชิงชังสาปแช่งกันทั้งชาติมาจนทุกวันนี้!
ทว่า..กลุ่มนักธุรกิจการเมืองที่ใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง เป็นรัฐบาลเผด็จการรัฐสภาเพียง 5 ปีเท่านั้น แต่แค่นายกฯ คนเดียวกลับโกงชาติมากที่สุด เป็นประวัติการณ์กว่า 3-4 แสนล้านบาท!
จึงไม่แปลกอะไรเลย..ที่รัฐบาลเผด็จการรัฐสภา “หน้าเหลี่ยม” ซึ่งมีอำนาจ “ท่วมดิน-ล้นฟ้า” จะถูกประชาชนคนไทยก่นด่า-สาปแช่ง-ประณามและชุมนุมขับไล่อย่างกว้างขวาง จนในที่สุดก็ถูกคณะนายทหารทำรัฐประหารโค่นล้ม ตัดตอนอำนาจ “ท่วมดิน-ล้นฟ้า” ให้ยุติลงเป็นการชั่วคราว
หากไม่มีเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2554 ทักษิณกับพวกยังคงครองอำนาจรัฐไว้ในกำมือ วันนี้..ทักษิณกับพวกจะทรงอำนาจยิ่งใหญ่ขนาดไหน?
อีกทั้งประชาชนคนไทยและข้าราชการที่รักชาติ รวมทั้งสถาบันชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ จะตกอยู่ในวิกฤตร้ายแรงปานใด?
แต่ทุกครั้งที่ผ่านมา..นอกจากคณะนายทหารที่ทำรัฐประหาร จะไม่มีความรู้ความสามารถพัฒนาชาติในมิติต่างๆ แล้ว พวกเขายังไม่เคยทำการปฏิรูปสื่อมวลชนและการเมืองไทย ไม่มีการขจัดนักการเมืองชั่วที่ใช้ลาภ-ยศ-เงินทอง เที่ยวล่อหรือสร้างเครือข่ายสามานย์ทางการเมือง เพื่อการสืบทอดอำนาจรัฐของนักการเมืองชั่วด้วยวิธีการอันฉ้อฉล
แถมคณะนายทหารที่ทำการรัฐประหารทุกครั้ง ยังมุ่งแต่จะใช้อำนาจรัฐสมคบกับพ่อค้านายทุนผูกขาด ทำมาหาประโยชน์เข้าตนและพวกพ้อง โดยไม่สนใจจะสร้างความเป็นธรรมในคุณภาพชีวิตให้กับผู้ด้อยโอกาสหรือคนจนทั้งในเมืองและชนบท แถมไม่เคยแยแสกับคนชนบทที่ยากจนข้นแค้น ให้มีโอกาสที่เป็นธรรมในการทำมาหากินเท่าที่ควรอีกด้วย
รัฐประหารบางครา-เป็นโอกาสทองที่จะพัฒนาสังคมไทยทุกมิติ แต่ลงท้าย “ไม้ไผ่ลำงาม” มักจะกลายเป็น “บ้องกัญชา” จนคณะนายทหารที่ทำรัฐประหารได้รับเสียงเชียร์ในตอนต้น กลับถูกประณามหยามเหยียดทั้งจากนักการเมืองและประชาชนเสมอมา!
เมื่อนักธุรกิจเจ้าเล่ห์อย่าง “หน้าเหลี่ยม” ที่เคยเสพผลประโยชน์จากคณะรัฐประหาร รสช.ใช้นโยบายประชานิยมทั้งลด-แลก-แจก-แถม หาเสียงเลือกตั้งกับรากหญ้าทั้งในเมืองและชนบท ทำให้ทักษิณและพรรคการเมืองของเขา ชนะการเลือกตั้งครั้งแรกและครั้งนี้อย่างถล่มทลาย!
แต่ระบอบ “ทักษิโณมิกส์” ยุค 2540 จนถึงยุค 2554 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ทักษิณกับพวกก็ยังทำตัวเป็นรัฐบาลเผด็จการรัฐสภา ยังเหิมเกริมในอำนาจ และยังทำเพื่อทักษิณและพวกพ้องเพียงไม่กี่คน อีกทั้งยังบริหารชาติบ้านเมืองอย่างไม่โปร่งใสเช่นเดิม
นั่นเป็น “จุดตาย” ที่กำลังทำลายตัวของทักษิณและพรรคพวกอยู่ตลอดเวลาด้วยอัตราการทำลายที่เร็วและทรงประสิทธิภาพสูงจนคาดไม่ถึง!!!
รัฐบาล “ปูแดง 1” ดูภาพภายนอกเสมือนแข็งแกร่งน่ากลัว เพราะมีจำนวน ส.ส.เกินครึ่งสภาหนุนหลัง และมีกองกำลังคนเสื้อแดงล้อมหน้าล้อมหลังอยู่นอกสภา แต่กลุ่มคนดังกล่าวที่ได้ประโยชน์จากรัฐบาล “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” นั้น ทั้งหมดล้วนเป็นคนส่วนน้อยของชาติไทย
ดังนั้น รัฐบาลใดที่ทำเพื่อคนส่วนน้อย-ละเลยคนส่วนใหญ่ เป็นรัฐบาลที่ยึดแต่ “กฎพวกกู” อยู่เหนือกฎหมายบ้านเมือง มุ่งช่วยแต่นายทุนเจ้าของพรรคที่ทำผิดกฎหมาย..ให้หลุดจากความผิด แสวงหาแต่ประโยชน์อย่างไม่โปร่งใส ทำให้ชาติไทยกลายเป็นลูกไล่ชาติเขมร อีกทั้งไม่เคยแยแสกับการบริหารชาติบ้านเมืองเพื่อส่วนรวม ฯลฯ อยู่ไม่รอด-อยู่ไม่นานหรอกครับ
รัฐบาลดี-ไม่กลัว “ผี-รัฐประหาร” แต่รัฐบาลที่คิดและทำแต่สิ่งไม่ดี..อย่างรัฐบาล “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” จะกลัว “ผี-รัฐประหาร” จนตัวสั่นงันงก..จริงไหม..?
สุดท้าย..ประเมินกันเองนะว่า เผด็จการทหารกับเผด็จการรัฐสภา..ใครสามานย์กว่ากัน?
19 กันยายน 2554 เป็นวันครบรอบ 5 ปี ที่รัฐบาล “ทักษิณ ชินวัตร” ถูกคณะนายทหารกลุ่มหนึ่งในนาม คมช.รัฐประหารโค่นล้ม เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549
3 กรกฎาคม 2554 “หน้าเหลี่ยม” ได้ใช้อิทธิพลและเงินมหาศาล เข้าซื้อเสียงการเลือกตั้งจนยึดอำนาจรัฐได้อีกครั้งหนึ่ง ด้วยการอุปโลกน์น้องสาว “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ให้เป็นนายกรัฐมนตรี และตั้งรัฐมนตรีที่สั่งซ้ายหันขวาหันได้เข้าครม. “ปูแดง 1” แบบเต็มพิกัด
ทว่า “ปูแดง” เป็นรัฐบาลได้แค่ 1 เดือนกับไม่กี่วันเท่านั้น กระแสนิยมรัฐบาล “ปูแดง” กลับตกต่ำลงอย่างเหลือเชื่อ จนคนในรัฐบาล “ปูจ๋า” หลายคนเป็นคนจงใจปล่อยข่าวลือว่า
รัฐบาลนอมินีของทักษิณหรือ “ยิ่งลักษณ์” อาจจะโดนรัฐประหารโค่นล้มช่วงปลายปี 2554 นี้!
ยิ่งถึงวันครบรอบ 5 ปีรัฐประหารรัฐบาลทักษิณ คนในรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” กับแกนนำคนเสื้อแดง ได้จัดงานรำลึกเหตุการณ์ 19 กันยายน 2549 เพื่อประณามการรัฐประหารอย่างสาดเสียเทเสียว่า รัฐประหารครั้งนั้น..นำความเสียหายอย่างใหญ่หลวงมาสู่ชาติบ้านเมือง?
โดยลิ่วล้อของทักษิณจงใจปกปิดความจริง หรือความชั่วของรัฐบาล “หน้าเหลี่ยม” ที่เต็มไปด้วยการโกงกินชาติ การเล่นพรรคเล่นพวกในการโยกย้ายข้าราชการ การขยิบตาปล่อยให้ขบวนการ “ล้มเจ้า” เกิด และเติบใหญ่อย่างเป็นขบวนการอยู่ตลอดเวลา ฯลฯ
ความชั่วร้ายทั้งปวงของรัฐบาลทักษิณเหล่านี้ คือ ต้นเหตุหลักที่ทำให้คณะนายทหารจำต้องทำรัฐประหาร19 กันยายน 2549
แน่นอน..การรัฐประหารนั้น มิใช่เรื่องควรกระทำหรือพึงให้การสนับสนุนส่งเสริม เพราะรัฐประหารที่ทำเพียงแค่เปลี่ยนถ่ายอำนาจรัฐ จากการครอบครองของนักการเมืองชั่ว มาอยู่ในกำมือของคณะนายทหารที่เห็นแก่ตัว เพื่อแสวงหาผลประโยชน์อย่างสามานย์นั้น ต้องถือว่า..ประชาชนได้ “หนีเสือ-มาปะ-จระเข้” ครับ
คำถาม..มีอยู่ว่า ผู้นำทหารที่ลากรถถังออกมายึดอำนาจรัฐ กับกลุ่มนักธุรกิจการเมืองที่ใช้เงินซื้อเสียงเข้ายึดอำนาจรัฐนั้น ใคร-ชั่วช้าสามานย์น่าประณามกว่ากัน?
คำตอบจากความจริงของหน้าประวัติศาสตร์ชาติไทย คือ เอาผู้นำเผด็จการทหารทุกคณะมารวมกันแล้ว ยังโกงชาติบ้านเมืองแค่ไม่กี่พันล้านบาทเท่านั้น!
แต่..ก็ทำให้คณะรัฐประหารถูกคนไทยชิงชังสาปแช่งกันทั้งชาติมาจนทุกวันนี้!
ทว่า..กลุ่มนักธุรกิจการเมืองที่ใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง เป็นรัฐบาลเผด็จการรัฐสภาเพียง 5 ปีเท่านั้น แต่แค่นายกฯ คนเดียวกลับโกงชาติมากที่สุด เป็นประวัติการณ์กว่า 3-4 แสนล้านบาท!
จึงไม่แปลกอะไรเลย..ที่รัฐบาลเผด็จการรัฐสภา “หน้าเหลี่ยม” ซึ่งมีอำนาจ “ท่วมดิน-ล้นฟ้า” จะถูกประชาชนคนไทยก่นด่า-สาปแช่ง-ประณามและชุมนุมขับไล่อย่างกว้างขวาง จนในที่สุดก็ถูกคณะนายทหารทำรัฐประหารโค่นล้ม ตัดตอนอำนาจ “ท่วมดิน-ล้นฟ้า” ให้ยุติลงเป็นการชั่วคราว
หากไม่มีเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2554 ทักษิณกับพวกยังคงครองอำนาจรัฐไว้ในกำมือ วันนี้..ทักษิณกับพวกจะทรงอำนาจยิ่งใหญ่ขนาดไหน?
อีกทั้งประชาชนคนไทยและข้าราชการที่รักชาติ รวมทั้งสถาบันชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ จะตกอยู่ในวิกฤตร้ายแรงปานใด?
แต่ทุกครั้งที่ผ่านมา..นอกจากคณะนายทหารที่ทำรัฐประหาร จะไม่มีความรู้ความสามารถพัฒนาชาติในมิติต่างๆ แล้ว พวกเขายังไม่เคยทำการปฏิรูปสื่อมวลชนและการเมืองไทย ไม่มีการขจัดนักการเมืองชั่วที่ใช้ลาภ-ยศ-เงินทอง เที่ยวล่อหรือสร้างเครือข่ายสามานย์ทางการเมือง เพื่อการสืบทอดอำนาจรัฐของนักการเมืองชั่วด้วยวิธีการอันฉ้อฉล
แถมคณะนายทหารที่ทำการรัฐประหารทุกครั้ง ยังมุ่งแต่จะใช้อำนาจรัฐสมคบกับพ่อค้านายทุนผูกขาด ทำมาหาประโยชน์เข้าตนและพวกพ้อง โดยไม่สนใจจะสร้างความเป็นธรรมในคุณภาพชีวิตให้กับผู้ด้อยโอกาสหรือคนจนทั้งในเมืองและชนบท แถมไม่เคยแยแสกับคนชนบทที่ยากจนข้นแค้น ให้มีโอกาสที่เป็นธรรมในการทำมาหากินเท่าที่ควรอีกด้วย
รัฐประหารบางครา-เป็นโอกาสทองที่จะพัฒนาสังคมไทยทุกมิติ แต่ลงท้าย “ไม้ไผ่ลำงาม” มักจะกลายเป็น “บ้องกัญชา” จนคณะนายทหารที่ทำรัฐประหารได้รับเสียงเชียร์ในตอนต้น กลับถูกประณามหยามเหยียดทั้งจากนักการเมืองและประชาชนเสมอมา!
เมื่อนักธุรกิจเจ้าเล่ห์อย่าง “หน้าเหลี่ยม” ที่เคยเสพผลประโยชน์จากคณะรัฐประหาร รสช.ใช้นโยบายประชานิยมทั้งลด-แลก-แจก-แถม หาเสียงเลือกตั้งกับรากหญ้าทั้งในเมืองและชนบท ทำให้ทักษิณและพรรคการเมืองของเขา ชนะการเลือกตั้งครั้งแรกและครั้งนี้อย่างถล่มทลาย!
แต่ระบอบ “ทักษิโณมิกส์” ยุค 2540 จนถึงยุค 2554 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ทักษิณกับพวกก็ยังทำตัวเป็นรัฐบาลเผด็จการรัฐสภา ยังเหิมเกริมในอำนาจ และยังทำเพื่อทักษิณและพวกพ้องเพียงไม่กี่คน อีกทั้งยังบริหารชาติบ้านเมืองอย่างไม่โปร่งใสเช่นเดิม
นั่นเป็น “จุดตาย” ที่กำลังทำลายตัวของทักษิณและพรรคพวกอยู่ตลอดเวลาด้วยอัตราการทำลายที่เร็วและทรงประสิทธิภาพสูงจนคาดไม่ถึง!!!
รัฐบาล “ปูแดง 1” ดูภาพภายนอกเสมือนแข็งแกร่งน่ากลัว เพราะมีจำนวน ส.ส.เกินครึ่งสภาหนุนหลัง และมีกองกำลังคนเสื้อแดงล้อมหน้าล้อมหลังอยู่นอกสภา แต่กลุ่มคนดังกล่าวที่ได้ประโยชน์จากรัฐบาล “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” นั้น ทั้งหมดล้วนเป็นคนส่วนน้อยของชาติไทย
ดังนั้น รัฐบาลใดที่ทำเพื่อคนส่วนน้อย-ละเลยคนส่วนใหญ่ เป็นรัฐบาลที่ยึดแต่ “กฎพวกกู” อยู่เหนือกฎหมายบ้านเมือง มุ่งช่วยแต่นายทุนเจ้าของพรรคที่ทำผิดกฎหมาย..ให้หลุดจากความผิด แสวงหาแต่ประโยชน์อย่างไม่โปร่งใส ทำให้ชาติไทยกลายเป็นลูกไล่ชาติเขมร อีกทั้งไม่เคยแยแสกับการบริหารชาติบ้านเมืองเพื่อส่วนรวม ฯลฯ อยู่ไม่รอด-อยู่ไม่นานหรอกครับ
รัฐบาลดี-ไม่กลัว “ผี-รัฐประหาร” แต่รัฐบาลที่คิดและทำแต่สิ่งไม่ดี..อย่างรัฐบาล “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” จะกลัว “ผี-รัฐประหาร” จนตัวสั่นงันงก..จริงไหม..?
สุดท้าย..ประเมินกันเองนะว่า เผด็จการทหารกับเผด็จการรัฐสภา..ใครสามานย์กว่ากัน?