ASTVผู้จัดการรายวัน - ยอดพระเมรุประดับ “เบญจปฎลเศวตฉัตร” ขาว 5 ชั้นสมพระเกียรติเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ เริ่มก่อสร้างปลายเดือนธ.ค.นี้ แล้วเสร็จมี.ค.55 ส่วนช่าง แทงหยวก “ในหลวง” โปรดเกล้าฯ ให้ทายาทครูประสม ช่างเมืองเพชร รับสนองงาน สบศ.เผยแบบร่างฉากบังเพลิงเทวดา 16 องค์ส่งเสด็จสู่สรวงสรรค์
วานนี้(19 ก.ย.) ที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย พล.อ.ต.อาวุธ เงินชูกลิ่น อดีตอธิบดีกรมศิลปากร ในฐานะผู้ดำเนินการออกแบบพระเมรุ และควบคุมการก่อสร้าง พระเมรุและอาคารประกอบพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร และนายกมล สุวุฒโท อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ร่วมแถลงข่าวการออกแบบและการก่อสร้างพระเมรุพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ
นางสุกุมล กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลมอบหมายให้วธ. เป็นหน่วยงานรับผิดชอบออกแบบ และก่อสร้างพระเมรุและอาคารประกอบในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงฯ นั้น บัดนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รูปแบบพระเมรุแล้ว และพระราชทานกำหนดการพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพในวันที่ 9 เม.ย.2555 ดังนั้น วธ. จะเริ่มดำเนินการตามภารกิจต่างๆ โดยมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการเขียนแบบพระเมรุ และเริ่มงานก่อสร้าง อาคารประกอบ รวมทั้งองค์ประกอบอื่นๆ ที่ใช้ในงานพระราชพิธี
ด้าน พล.อ.ต.อาวุธ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ร่างพระเมรุแล้ว ซึ่งคล้ายกับ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ แต่เปลี่ยนยอดพระเมรุเป็นยอดมณฑป และมีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย ให้เป็นไปตามพระเกียรติยศ ของ สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ สำหรับขนาดของพระเมรุนั้นได้กำหนดขนาด กว้าง 28 เมตร ยาว 30 เมตร สูง 33 เมตร โดยยกพื้นเป็น 2 ระดับ ชั้นล่างเดินได้รอบ สูง 1.20 เมตร ส่วนชั้นบน ที่ตั้งจิตกาธาน มีความสูง 3 เมตร
“ขนาดพระเมรุจะมีขนาดย่อมกว่าเมื่อครั้งสมเด็จพระจ้าพี่นางเธอฯ พระศพอยู่ในหีบ ดังนั้น พื้นที่ที่จะใช้จึงมากกว่า ซึ่งครั้งนี้พระศพอยู่ในพระโกศ พระจิตกาธานจึงเล็กกว่า ส่วนการตกแต่งต่างๆ มีลักษณะคล้ายกัน สำหรับผ้าทองย่นนั้นจะนำมาจากประเทศจีน โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงรับเป็นธุระจัดหา โดยจะใช้ประมาณ 80 ม้วน ม้วนหนึ่งยาวประมาณ 70 เมตร” พล.อ.ต.อาวุธ อธิบาย
พล.อ.ต. อาวุธ กล่าวด้วยว่า ในปีนี้เป็นปีมหามงคลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงมีรับสั่งว่า ไม่ต้องการให้มีพระเมรุอยู่บริเวณท้องสนามหลวงในช่วงเวลาดังกล่าว จึงคิดว่าจะเข้าไปก่อสร้างและประกอบที่สนามหลวงในภายหลังจากงานเฉลิมพระชนมพรรษาในช่วงปลายเดือนธันวาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้จะมีการขยายแบบที่โรงละครแห่งชาติ แล้วนำไปประกอบภายหลัง คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือนแล้วเสร็จในปลายเดือนมีนาคม 2555
พล.อ.ต.อาวุธ กล่าวว่า ช่างแทงหยวกงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ลูกหลานของนายประสม สุสุทธิ ช่างเมืองเพชรบุรี ซึ่งเป็นผู้แทงหยวกงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เนื่องจากนายประสมได้เสียชีวิตโดยได้ประสานไปยังลูกหลานทุกแจ้งมาว่าคนยินดีช่วยดำเนินการเรื่องการแทงหยวก ส่วนฉัตรที่จะใช้ประดับยอดพระเมรุนั้นเป็น “เบญจปฎลเศวตฉัตร” เป็นฉัตรขาว 5 ชั้น มีระบายขลิบทองแผ่ลวดซ้อน 2 ชั้น ใช้สำหรับพระราชวงศ์ที่ดำรงพระอิสริยยศชั้น "เจ้าฟ้า"
นายกมล กล่าวว่า สบศ. ได้ออกฉากบังเพลิงไว้แล้ว ซึ่งจะใช้หลักการเดียวกับครั้งพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยมีทั้งฉากชั้นนอกและชั้นใน โดยชั้นนอกเป็นฉากบังเพลิง 4 ด้านของทางขึ้นและลง นำเสนอเทวดาท่ายืน 4 องค์ รวม 16 องค์ มีสัญลักษณ์ของสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ ส่วนฉากบังเพลิงชั้นใน จะมีลักษณะของเทวดาส่งเสด็จขึ้นสู่สรวงสวรรค์ และจะมีการออกแบบผนังประกอบพระเมรุด้านในด้วย ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ นายสาคร โสภา นายสนั่น รัตนะ ซึ่งเป็นอาจารย์ของวิทยาลัยช่างศิลป์สบศ. เป็นผู้ดำเนินการ
วานนี้(19 ก.ย.) ที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย พล.อ.ต.อาวุธ เงินชูกลิ่น อดีตอธิบดีกรมศิลปากร ในฐานะผู้ดำเนินการออกแบบพระเมรุ และควบคุมการก่อสร้าง พระเมรุและอาคารประกอบพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร และนายกมล สุวุฒโท อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ร่วมแถลงข่าวการออกแบบและการก่อสร้างพระเมรุพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ
นางสุกุมล กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลมอบหมายให้วธ. เป็นหน่วยงานรับผิดชอบออกแบบ และก่อสร้างพระเมรุและอาคารประกอบในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงฯ นั้น บัดนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รูปแบบพระเมรุแล้ว และพระราชทานกำหนดการพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพในวันที่ 9 เม.ย.2555 ดังนั้น วธ. จะเริ่มดำเนินการตามภารกิจต่างๆ โดยมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการเขียนแบบพระเมรุ และเริ่มงานก่อสร้าง อาคารประกอบ รวมทั้งองค์ประกอบอื่นๆ ที่ใช้ในงานพระราชพิธี
ด้าน พล.อ.ต.อาวุธ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ร่างพระเมรุแล้ว ซึ่งคล้ายกับ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ แต่เปลี่ยนยอดพระเมรุเป็นยอดมณฑป และมีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย ให้เป็นไปตามพระเกียรติยศ ของ สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ สำหรับขนาดของพระเมรุนั้นได้กำหนดขนาด กว้าง 28 เมตร ยาว 30 เมตร สูง 33 เมตร โดยยกพื้นเป็น 2 ระดับ ชั้นล่างเดินได้รอบ สูง 1.20 เมตร ส่วนชั้นบน ที่ตั้งจิตกาธาน มีความสูง 3 เมตร
“ขนาดพระเมรุจะมีขนาดย่อมกว่าเมื่อครั้งสมเด็จพระจ้าพี่นางเธอฯ พระศพอยู่ในหีบ ดังนั้น พื้นที่ที่จะใช้จึงมากกว่า ซึ่งครั้งนี้พระศพอยู่ในพระโกศ พระจิตกาธานจึงเล็กกว่า ส่วนการตกแต่งต่างๆ มีลักษณะคล้ายกัน สำหรับผ้าทองย่นนั้นจะนำมาจากประเทศจีน โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงรับเป็นธุระจัดหา โดยจะใช้ประมาณ 80 ม้วน ม้วนหนึ่งยาวประมาณ 70 เมตร” พล.อ.ต.อาวุธ อธิบาย
พล.อ.ต. อาวุธ กล่าวด้วยว่า ในปีนี้เป็นปีมหามงคลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงมีรับสั่งว่า ไม่ต้องการให้มีพระเมรุอยู่บริเวณท้องสนามหลวงในช่วงเวลาดังกล่าว จึงคิดว่าจะเข้าไปก่อสร้างและประกอบที่สนามหลวงในภายหลังจากงานเฉลิมพระชนมพรรษาในช่วงปลายเดือนธันวาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้จะมีการขยายแบบที่โรงละครแห่งชาติ แล้วนำไปประกอบภายหลัง คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือนแล้วเสร็จในปลายเดือนมีนาคม 2555
พล.อ.ต.อาวุธ กล่าวว่า ช่างแทงหยวกงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ลูกหลานของนายประสม สุสุทธิ ช่างเมืองเพชรบุรี ซึ่งเป็นผู้แทงหยวกงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เนื่องจากนายประสมได้เสียชีวิตโดยได้ประสานไปยังลูกหลานทุกแจ้งมาว่าคนยินดีช่วยดำเนินการเรื่องการแทงหยวก ส่วนฉัตรที่จะใช้ประดับยอดพระเมรุนั้นเป็น “เบญจปฎลเศวตฉัตร” เป็นฉัตรขาว 5 ชั้น มีระบายขลิบทองแผ่ลวดซ้อน 2 ชั้น ใช้สำหรับพระราชวงศ์ที่ดำรงพระอิสริยยศชั้น "เจ้าฟ้า"
นายกมล กล่าวว่า สบศ. ได้ออกฉากบังเพลิงไว้แล้ว ซึ่งจะใช้หลักการเดียวกับครั้งพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ โดยมีทั้งฉากชั้นนอกและชั้นใน โดยชั้นนอกเป็นฉากบังเพลิง 4 ด้านของทางขึ้นและลง นำเสนอเทวดาท่ายืน 4 องค์ รวม 16 องค์ มีสัญลักษณ์ของสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ ส่วนฉากบังเพลิงชั้นใน จะมีลักษณะของเทวดาส่งเสด็จขึ้นสู่สรวงสวรรค์ และจะมีการออกแบบผนังประกอบพระเมรุด้านในด้วย ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ นายสาคร โสภา นายสนั่น รัตนะ ซึ่งเป็นอาจารย์ของวิทยาลัยช่างศิลป์สบศ. เป็นผู้ดำเนินการ