วานนี้ (19 ก.ย) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธว่ายังไม่ได้นำรายชื่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ขึ้นทูลเกล้าฯ เพราะ ยังไม่เห็น และยังไม่ได้ดู
รายงานข่าวแจ้งว่า วานนี้ถือเป็นวันครบเวลากฏหมายพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ที่ให้ ว่าที่กสทช.11คนส่งหลักฐานลาออกจากต้นสังกัดเดิม ไปสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา แม้กฎหมายจะไม่กำหนดเวลาให้วุฒิสภาส่งนายกรัฐมนตรี และไม่กำหนดเวลานายกฯส่งทูลเกล้าฯ
นายบัณฑูร สุภัควณิช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้รับรายชื่อ ทั้งนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และตนเองก็ยังไม่รับจากวุฒิสภา เพราะเขาอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบประวัติอยู่ ส่วนที่วันนี้เป็นสุดท้ายที่จะต้องส่งรายชื่อ ซึ่งทั้งหมดนี้คือในส่วนที่นายอำพนจะต้องรายงาน แต่ขั้นตอนอยู่ที่นายกรัฐมนตรีจะต้องดำเนินขั้นตอนตามกฎหมาย ไม่มีการเตะถ่วง และไม่ต้องส่งกฤษฎีกาแล้ว
ทั้งนี้ก็ไม่ต้องสอบถามไปยังวุฒิสภาเพราะเป็นหน้าที่ของวุฒิสภา เพราะถ้าเราไปถามก็เกิดเป็นสองประเด็นอีก คนที่เขาเกี่ยวข้องก็จะบอกว่า“อะไรว่ะ รัฐบาลมันรู้หรือว่ะ เรานั่งเฉย แต่ว่าเราพร้อม ตนบอกอย่างเดียวว่า เราพร้อม ที่จะดำเนินการตามขั้นตอน รัฐบาลไม่มีกระบวนการยับยั้งอะไร”และหากเลยกำหนดไปในวันนี้จะมีผลอะไรหรือไม่ นายบัณฑูร กล่าวว่า เป็นไปตามกฎหมาย ก็แล้วแต่วุฒิสภา
ส่วนนายกรัฐมนตรีสามารถเสนอรายชื่อเองได้หรือไม่ หากเลยกำหนดส่งรายชื่อตามกำหนดระยะเวลา นายบัณฑูร กล่าวว่า กระบวนการตามกฎหมายน่าจะเป็นอย่างนั้น เราก็ไม่เกี่ยวข้อง ตามหลักเป็นเรื่องของเขา ถ้าเขาทำไม่ทัน เราก็ต้องมาดูว่าจะทำอย่างไรดี เพราะว่าเรื่องนี้เราต้องทำให้เร็วที่สุด ส่วนจะมีผลอย่างไรในทางกฎหมายหากมีความล่าช้าในการยื่นส่งรายชื่อมายังรัฐบาล นายบัณฑูร กล่าวว่า ไม่น่าจะมีผลอะไรเพราะเป็นกระบวนการของทางวุฒิสภา แล้วส่งมาให้รัฐบาล แล้วจึงนำทูลเกล้าถวายฯ
“แต่หากไม่มา เราก็ต้องมานั่งดูว่าจะเสนออะไรใคร ซึ่งก็ต้องมานั่งดูก่อน ซึ่งถ้าให้เราทำ เราก็ต้องมีคณะกรรมการคอยดู ว่าใครมีความรู้ ความสามารถ เอาเข้ามาเป็น ซึ่งเราสามารถทำได้เลย โดยไม่มีเงื่อนเวลา ซึ่งทำให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้มันช้า เท่าที่ผมทราบมา กฎหมายระบุว่า ถ้าทางวุฒิสภาเสนอมาไม่ทัน ทางรัฐบาลก็สามารถเสนอชื่อเอง “ นายบัณฑูร กล่าวและตอบว่า หากรัฐบาลเป็นผู้เสนอชื่อเองรายชื่อเก่าก็ถือว่าเป็นโมฆะ หรือไม่ว่า น่าจะเป็นโมฆะ เพราะแม้เขาจะทำถูกต้อง แต่มันไม่ทันกำหนดเวลา ซึ่งเราก็ต้องคัดคนที่ดีที่สุดเข้ามาทำงานไม่ให้มีข้อครหา ตามที่เขาฟ้องกัน ส่วนที่ดีเอสไอเขาฟ้องมา ตนบอกว่า ไม่มีผล ซึ่งถ้าเขาเสนอมาไม่ทันก็ช่วยไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้นายกฯ ได้มอบหมายแล้วว่าถ้าทางวุฒิสภาส่งมาก็ให้นำทูลเกล้าฯ ทันที นายบัณฑูร กล่าวว่า ต้องทูลเกล้าฯ ทันที เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเลขาฯ ครม
นางนรรัตน์ พิมพ์เสน เลขาธิการวุฒิสภา กล่าวว่า สำนักเลขาธิการวุฒิสภาได้ส่งรายชื่อกสทช.ทั้ง11คนไปที่สำนักเลขาธิการคณะ รัฐมนตรีแล้ว ซึ่งกสทช.ทั้ง11คนได้ลาออกจากงานเดิมเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 18 ก.ย.จึงถือว่าคุณสมบัติครบถ้วน ดังนั้น หลังจากนี้จะเป็นหน้าที่รัฐบาลในการเสนอชื่อทูลเกล้าฯ อย่างไรก็ตาม ความจริงแล้วเรื่องประเด็นเวลาไม่ใช่ปัญหาเพราะวุฒิสภาได้ดำเนินการสรรหาก สทช.เสร็จสิ้นภายใน 60วันจึงไม่จำเป็นว่าจะต้องให้ส่งรายชื่อทั้งหมดมาที่สำนักเลขาธิการครม.ภาย ในวันที่19ก.ย.นอกจากทางวุฒิสภาไม่สามารถสรรหากสทช.ได้ตามกรอบเวลา 60วันจึงเป็นหน้าที่ของนายกฯที่จะใช้อำนาจในการเสนอชื่อตามที่นายกฯเห็นชอบ
รายงานข่าวแจ้งว่า วานนี้ถือเป็นวันครบเวลากฏหมายพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ที่ให้ ว่าที่กสทช.11คนส่งหลักฐานลาออกจากต้นสังกัดเดิม ไปสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา แม้กฎหมายจะไม่กำหนดเวลาให้วุฒิสภาส่งนายกรัฐมนตรี และไม่กำหนดเวลานายกฯส่งทูลเกล้าฯ
นายบัณฑูร สุภัควณิช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้รับรายชื่อ ทั้งนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และตนเองก็ยังไม่รับจากวุฒิสภา เพราะเขาอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบประวัติอยู่ ส่วนที่วันนี้เป็นสุดท้ายที่จะต้องส่งรายชื่อ ซึ่งทั้งหมดนี้คือในส่วนที่นายอำพนจะต้องรายงาน แต่ขั้นตอนอยู่ที่นายกรัฐมนตรีจะต้องดำเนินขั้นตอนตามกฎหมาย ไม่มีการเตะถ่วง และไม่ต้องส่งกฤษฎีกาแล้ว
ทั้งนี้ก็ไม่ต้องสอบถามไปยังวุฒิสภาเพราะเป็นหน้าที่ของวุฒิสภา เพราะถ้าเราไปถามก็เกิดเป็นสองประเด็นอีก คนที่เขาเกี่ยวข้องก็จะบอกว่า“อะไรว่ะ รัฐบาลมันรู้หรือว่ะ เรานั่งเฉย แต่ว่าเราพร้อม ตนบอกอย่างเดียวว่า เราพร้อม ที่จะดำเนินการตามขั้นตอน รัฐบาลไม่มีกระบวนการยับยั้งอะไร”และหากเลยกำหนดไปในวันนี้จะมีผลอะไรหรือไม่ นายบัณฑูร กล่าวว่า เป็นไปตามกฎหมาย ก็แล้วแต่วุฒิสภา
ส่วนนายกรัฐมนตรีสามารถเสนอรายชื่อเองได้หรือไม่ หากเลยกำหนดส่งรายชื่อตามกำหนดระยะเวลา นายบัณฑูร กล่าวว่า กระบวนการตามกฎหมายน่าจะเป็นอย่างนั้น เราก็ไม่เกี่ยวข้อง ตามหลักเป็นเรื่องของเขา ถ้าเขาทำไม่ทัน เราก็ต้องมาดูว่าจะทำอย่างไรดี เพราะว่าเรื่องนี้เราต้องทำให้เร็วที่สุด ส่วนจะมีผลอย่างไรในทางกฎหมายหากมีความล่าช้าในการยื่นส่งรายชื่อมายังรัฐบาล นายบัณฑูร กล่าวว่า ไม่น่าจะมีผลอะไรเพราะเป็นกระบวนการของทางวุฒิสภา แล้วส่งมาให้รัฐบาล แล้วจึงนำทูลเกล้าถวายฯ
“แต่หากไม่มา เราก็ต้องมานั่งดูว่าจะเสนออะไรใคร ซึ่งก็ต้องมานั่งดูก่อน ซึ่งถ้าให้เราทำ เราก็ต้องมีคณะกรรมการคอยดู ว่าใครมีความรู้ ความสามารถ เอาเข้ามาเป็น ซึ่งเราสามารถทำได้เลย โดยไม่มีเงื่อนเวลา ซึ่งทำให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้มันช้า เท่าที่ผมทราบมา กฎหมายระบุว่า ถ้าทางวุฒิสภาเสนอมาไม่ทัน ทางรัฐบาลก็สามารถเสนอชื่อเอง “ นายบัณฑูร กล่าวและตอบว่า หากรัฐบาลเป็นผู้เสนอชื่อเองรายชื่อเก่าก็ถือว่าเป็นโมฆะ หรือไม่ว่า น่าจะเป็นโมฆะ เพราะแม้เขาจะทำถูกต้อง แต่มันไม่ทันกำหนดเวลา ซึ่งเราก็ต้องคัดคนที่ดีที่สุดเข้ามาทำงานไม่ให้มีข้อครหา ตามที่เขาฟ้องกัน ส่วนที่ดีเอสไอเขาฟ้องมา ตนบอกว่า ไม่มีผล ซึ่งถ้าเขาเสนอมาไม่ทันก็ช่วยไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้นายกฯ ได้มอบหมายแล้วว่าถ้าทางวุฒิสภาส่งมาก็ให้นำทูลเกล้าฯ ทันที นายบัณฑูร กล่าวว่า ต้องทูลเกล้าฯ ทันที เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเลขาฯ ครม
นางนรรัตน์ พิมพ์เสน เลขาธิการวุฒิสภา กล่าวว่า สำนักเลขาธิการวุฒิสภาได้ส่งรายชื่อกสทช.ทั้ง11คนไปที่สำนักเลขาธิการคณะ รัฐมนตรีแล้ว ซึ่งกสทช.ทั้ง11คนได้ลาออกจากงานเดิมเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 18 ก.ย.จึงถือว่าคุณสมบัติครบถ้วน ดังนั้น หลังจากนี้จะเป็นหน้าที่รัฐบาลในการเสนอชื่อทูลเกล้าฯ อย่างไรก็ตาม ความจริงแล้วเรื่องประเด็นเวลาไม่ใช่ปัญหาเพราะวุฒิสภาได้ดำเนินการสรรหาก สทช.เสร็จสิ้นภายใน 60วันจึงไม่จำเป็นว่าจะต้องให้ส่งรายชื่อทั้งหมดมาที่สำนักเลขาธิการครม.ภาย ในวันที่19ก.ย.นอกจากทางวุฒิสภาไม่สามารถสรรหากสทช.ได้ตามกรอบเวลา 60วันจึงเป็นหน้าที่ของนายกฯที่จะใช้อำนาจในการเสนอชื่อตามที่นายกฯเห็นชอบ
