ครม.ยิ่งลักษณ์ขีดเส้นสำนักงบฯ ลุยร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 55 ให้เสร็จใน ม.ค. เร่ง รมต.ทำแผนบริหารราชการฯ ให้เสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ เผยเทงบ 8 พันล้าน ซับน้ำตาน้ำท่วมเหนือ-อีสาน เหน็บไม่ต้องรอน้ำลดเหมือนรบ.มาร์ค
วันนี้ 25 ส.ค. นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า ครม.เห็นชอบเรื่องการให้ความช่วยเหลือของผู้ที่รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยให้การช่วยเหลือร้อยละ 55 ของต้นทุนที่แท้จริง รวมทั้งจะใช้เทคโนโลยีเข้าประกอบและเร่งรัดให้นำเงินช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อให้ถึงมือเกษตรกรโดยไม่ต้องรอให้น้ำลด 2-3 เดือนเหมือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ได้มีการมอบหมายงานให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นำเอาภาพถ่ายทางอากาศมาใช้ประกอบในการพิจารณา ซึ่งงบประมาณที่ใช้คาดว่าไม่ต่ำกว่า 8 พันล้านบาท โดยนายกรัฐมนตรีจะออกไปติดตามสถานการณ์ทั้งภาคอีสานและภาคเหนือทันทีหลังจากนี้
นายอำพนกล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีได้เห็นความสำคัญในการบริหารราชการแผ่นดิน เนื่องจากรัฐบาลเพิ่งเข้าทำงานในวันที่ 25 ส.ค.แล้ว จึงสั่งการโดยเร่งรัดให้ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเสนอปฏิทินการจัดทำงบประมาณ ซึ่งล่าสุดผู้อำนวยการสำนักงบประมาณได้เสนอปฏิทินที่ให้สามารถเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณเพื่อกราบบังคมทูล พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2555 ซึ่งนับจากนี้เหลือเวลาอีก 5 เดือน โดย 3 เดือนจะเป็นระบบรัฐสภา ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กำกับให้รัฐมนตรีพิจารณาทบทวนการเร่งของบประมาณให้สอดคล้องกับแผนบริหารราชการแผ่นดิน ภายในวันที่ 6 ก.ย.
นายอำพนกล่าวว่า พรุ่งนี้ 26 ส.ค. เวลา 09.00 น. นายกรัฐมนตรีจะทำการมอบนโยบายต่อหัวหน้าส่วนงานราชการระดับปลัดกระทรวง กรม อธิบดี และรองปลัดกระทรวง เพื่อเร่งรัดทำแผนราชการแผ่นดินให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 6 ก.ย. และได้กำชับรัฐมนตรีทุกคนให้กลับไประดมการจัดทำแผนบริการราชการแผ่นดิน รวมทั้งดูแลในเรื่องการจัดงบประมาณสำหรับปี 2555 ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ และนำเสนอต่อฝ่ายเลขาฯของคณะกรรมการทางยุทธศาสตร์ชุดนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี ภายในวันที่ 31 ส.ค. จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีจะพิจารณาบูรณาโครงการต่างๆ รวมทั้งงบประมาณให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 2 ก.ย. จากนั้นทางสภาพัฒนฯจะรวบรวมจัดพิมพ์เสนอต่อครม.ในวันที่ 6 ก.ย. นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณไปดำเนินการทำรายละเอียดหลักเกณฑ์ต่างๆในกรณีที่ไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณให้ทันในระยะเวลา 5 เดือนที่จะเสนอเรื่องแนวทางและวิธีการต่างๆที่จะใช้งบประมาณไปพรางก่อนในกรณีที่ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ยังไม่ได้เสนอต่อรัฐสภา ซึ่งมีกฎเกณฑ์ที่จะเบิกได้ประมาณร้อยละ 50