“ถวิล” เปิดใจถูกเด้งจากตำแหน่งเพื่อแก้ไขปัญหาทางการเมือง หวังเปิดทางให้คนอื่นมารับตำแหน่ง โดยที่ไม่ได้บกพร่องต่อหน้าที่ ระบุ เป็นการลุแก่อำนาจ มีอคติ เตรียมร้องขอความเป็นธรรมกับ ก.พ.ค.ชี้ พวกที่รังแก่ต้องเจอกฎแห่งกรรม ด้าน “เป็ดเหลิม” ยังผยอง ท้า “ถวิล” ฟ้อง พลิ้วได้อีก อ้างเหตุที่ย้ายเพราะชาวบ้านไม่พอใจการทำงาน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายถวิล เปลี่ยนศรี ให้สัมภาษณ์
นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แถลงเปิดใจหลังมติคณะรัฐมนตรี ให้ไปดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำระดับ 11 โดยยอมรับว่ารู้สึกเสียใจและเสียดายกับเรื่องที่เกิดขึ้น และเสียดายที่ได้วางแผนการทำงานของ สมช.จะเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองแต่กลับไม่ได้ใช้
“รู้สึกเสียใจ ที่ตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ควรทำหน้าที่ประสานนโยบายด้านคามมั่นคงเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ แต่กลับถูกใช้รองรับการแก้ไขปัญหาทางการเมือง เพียงเพื่อต้องการให้ พล.ต.อ.วิเชียร์ พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.มาดำรงตำแหน่งเท่านั้น ไม่ใช่เป็นเพราะว่าผมเองบกพร่องต่อการทำหน้าที่ แต่เป็นเพราะฝ่ายการเมืองบางคนลุแก่อำนาจมีอคติ เนื่องจากเห็นว่าตนเองเคยทำงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ และ ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) จึงไม่ไว้วางใจ รวมทั้งที่ผ่านมาก็ถูกเยาะเย้ยถากถางมาโดยตลอด และนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชาโดยตรงก็ไม่ได้ออกมาปกป้อง”
นายถวิล ยืนยันว่า ความเป็นจริงไม่เคยทำงานร่วมกับพรรคการเมืองใด แต่เป็นการทำงานให้กับนายกรัฐมนตรี และเพื่อประเทศชาติ เท่านั้น
นายถวิล กล่าวว่า สาเหตุที่ไม่ทำหนังสือขอโยกย้ายตนเองเป็นเพราะเป็นข้าราชการมีระเบียบปฏิบัติและมีที่มาที่ไปและไม่ได้อิงฝ่ายการเมือง ดังนั้น ตนเองจึงจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.)โดยเร็วที่สุดว่าการโยกย้ายแต่งตั้งดังกล่าวเป็นไปโดยมิชอบ โดยเป็นการเอาผิดต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรม
“เรื่องนี้เป็นกฎแห่งกรรม ท่านที่รังแกผมต้องต่อสู้กับกฎแห่งกรรม ผมไม่ต้องการเป็นไอดอลของข้าราชการในการต่อสู้ แต่ถ้าเป็นอานิสงก็ดี ขอความกรุณาฝ่ายเมืองให้เกียรติข้าราชการ ผมไหว้พระทุกวัน กฎแห่งกรรมจะจบด้วยความจริงแท้แน่นอน ขอโทษสื่อที่ไม่รับโทรศัพท์ รู้เป็นมารยาทไม่ดีแต่ต้องใจแข็ง” นายถวิล กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายบงานว่า นายถวิล ใช้เวลาในการแถลง 45 นาที โดยบอกว่า ยืมห้อง สมช.แถลงข่าว จากนี้จะไปรายงานตัวและมอบนโยบาย
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้พยายามผลักดันให้นายถวิล พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการ สมช.กล่าวว่า นายถวิล มีสิทธิฟ้องศาลปกครองที่เห็นว่าการโยกย้ายไม่เป็นธรรม แต่รัฐบาลอธิบายได้ ถ้าเขาคิดว่าไม่มีงานทำ ก็เข้าใจผิด เพราะรัฐบาลคงมอบหมายภารกิจให้ไปทำ ส่วนงานที่ตนรับผิดชอบนั้น ถ้าเห็นว่า นายถวิล มีความเหมาะสม ก็จะมอบหมายให้ และคิดว่านายกรัฐมนตรีก็คงคิดเช่นกันว่างานใดเหมาะสม ก็จะมอบหมายให้นายถวิล ไม่ใช่ย้ายไปนั่งเฉยๆ แต่เป็นที่ปรึกษาจะต้องให้คำปรึกษาแก่นายกรัฐมนตรี หรือรองนายกฯที่มีภารกิจในการทำงาน
ส่วนที่ นายถวิล ระบุว่า ประเด็นที่จะฟ้องจะหยิบยกกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุผลที่ย้าย เพราะเคยนั่งเป็นเลขาฯ ศอฉ.และเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์มาก่อนนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนพูดไปตามตรง ถ้าศาลเรียกตนไปให้การก็จะให้การ และที่ผ่านมาก็พูดเสมอว่าถ้าตนเป็นนายถวิลก็ขอย้ายตัวเองไปแล้ว
“ผมพูดในฐานะนักการเมือง ต้องเข้าใจว่า เวลาที่ผมไปหาเสียงประชาชนส่วนใหญ่เขาค่อนข้างไม่พอใจคุณถวิล แล้วถ้าผมไปพอใจในตอนหาเสียงแล้วใครจะเลือกพรรคเพื่อไทย แต่ไม่ได้หมายความว่าผมไปอาฆาตมาดร้าย แต่เป็นมุมมองของผม ส่วนคุณถวิลเห็นว่าผมพูดไม่เหมาะ ก็ฟ้องร้องผมได้”
