รักษาการ ผบ.ตร.ลงพื้นที่สุไหงโก-ลกตามความคืบหน้าคดีคาร์บอมบ์ 3 จุดซ้อน เผยเตรียมออกหมายจับ 2 คนร้ายมือระเบิด ระบุเป็นแนวร่วมอาร์เคเค กำชับเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่าย ทำงานให้สอดคล้องกันเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ส่วนเหยื่อคาร์บอมบ์เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย บาดเจ็บสาหัสรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลอีก 13 ราย ด้านกระทรวงต่างประเทศมาเลเซียประกาศเตือนประชาชน ไม่ให้เดินทางเข้าภาคใต้ของไทยโดยไม่จำเป็น หลังมีชาวมาเลเซียเสียชีวิต 4 ราย ในเหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ 3 จุด
เมื่อเวลา 09.00 น.วานนี้ (18 ก.ย.) พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รักษาการ ผบ.ตร.,พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รอง ผบ.ตร.,พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์มายังพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยมี พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผบช.ศชต.และ พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผบก.นราธิวาส ให้การต้อนรับและนำตรวจเยี่ยมสถานที่เกิดเหตุคนร้ายวางระเบิดคาร์บอมบ์และจักรยานยนต์บอมบ์ 3 จุดเมื่อช่วงใกล้ค่ำคืนวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเจริญเขต ซอย 3 เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
โดย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ได้สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมสังเกตอาคารที่ตั้งของโรงแรม 3 แห่ง ซึ่งเป็นตึกสูงและเหมาะที่คนร้ายจะเปิดห้องพักของอาคารดังกล่าวในการจุดชนวนระเบิดตามที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ประเมินสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งมีแนวโน้มเป็นไปได้สูงเหมือนกับที่คนร้ายเคยใช้ห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่งเป็นสถานที่จุดชนวนระเบิดคาร์บอมบ์ที่นำมาจอดไว้หน้า สภ.สุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 21 ส.ค.51 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายรายรวมทั้งนายชาลี บุญสวัสดิ์ ผู้สื่อข่าวด้วย
ต่อมา พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ และคณะ ได้ไปยัง สภ.สุไหงโก-ลก เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจแก่กำลังพล 3 ฝ่าย ทั้งฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่จะเข้าประชุมร่วมกับชุดคลี่คลายคดี โดย พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผบช.ศชต.ได้สรุปเกี่ยวกับสถานการณ์ภาพรวมถึงเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ซึ่งปัจจุบันพบว่าเหตุร้ายที่เกิดขึ้นลดลงตามลำดับ
ส่วน พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผบก.นราธิวาส ได้สรุปเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.นราธิวาส โดยมีสถิติเหตุร้ายเกิดขึ้นลดลง แต่เหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นสถานการณ์ที่รุนแรงกว่าจังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับผลการสืบสวนสอบสวนคดีคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์และจักรยานยนต์บอมบ์ 3 จุดเมื่อวันที่ 16 ก.ย.โดยได้เปิดเทปบันทึกภาพของกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่สามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายเอาไว้ได้ควบคู่กับการรายงานให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ให้รับทราบ
โดยเทปโทรทัศน์ของกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพ 2 ใน 8 คนร้ายที่ร่วมก่อเหตุได้ค่อยข้างเด่นชัด ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นสมาชิกแนวร่วมเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี คือ นายสมาน และนายมะดิง (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และขอความร่วมมือพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์เดินทางเข้าให้ปากคำ แต่ถึงอย่างไรก็ตามได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนอกเครื่องแบบตามประกบบุคคลต้องสงสัยทั้ง 2 คนแล้วในขณะนี้เพื่อป้องกันการหลบหนีหากเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับใน 2-3 วันนี้
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เผยว่า คดีดังกล่าวคืบหน้าไปมาก เตรียมจะออกหมายจับคนร้ายในเบื้องต้น 2 คน ซึ่งเป็นสมาชิกแนวร่วมกองกำลังติดอาวุธ RKK ที่มีความเกี่ยวโยงจากการว่าจ้างของกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ ซึ่งจากเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นต้องมีการปรับระบบการ รปภ.เมืองสุไหงโก-ลกใหม่ให้กำลัง 3 ฝ่ายทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง แบ่งพื้นที่รับผิดชอบให้ชัดเจนและต้องทำงานให้สอดคล้องกัน เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเกิดความรูสึกปลอดภัยในการดำรงชีวิตและขณะเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่สุไหงโก-ลก
ส่วนกรณีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตล่าสุด นายจันทร์ ดาเวง อายุ 53 ปี ที่ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ จ.ยะลา ได้เสียชีวิตลงแล้วในช่วงคืนที่ผ่านมา รวมผู้เสียชีวิตทั้งหมดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็น 5 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งสิ้น 13 ราย ที่ยังต้องนอนรักษาตัว ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ โรงพยาบาลศูนย์ยะลา และโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก
ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าขณะนี้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ลงพื้นที่แล้ว อยู่ในระหว่างรอการรายงาน ซึ่งจะกลับมาประชุมและหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงมหาดไทย ตำรวจ และทหารอีกครั้ง
ส่วนกรณีที่นักวิชาการมองว่า ปัญหาภาคใต้เกิดจากการโยกย้าย เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นั้น ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ได้มีการโยกย้าย เลขาฯ ศอ.บต.ยังเป็นคนเดิม
***มาเลเซียเตือนไม่ให้เข้าภาคใต้
เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอาจตั้งเป้าเล่นงานนักท่องเที่ยว จากการลอบวางระเบิดในเขตเทศบาลเมือง อ.สุไหงโก-ลก โดยระเบิดลูกแรกเป็นระเบิดรถจักรยานยนต์ บริเวณหน้าสมาคมแต้จิ๋ว ลูกที่ 2 เป็นระเบิดรถจักรยานยนต์เช่นกัน บริเวณหน้าโรงแรมปาร์คสัน และลูกที่ 3 เป็นระเบิดรถยนต์ บริเวณสี่แยกโรงแรมเมอร์ลิน เมื่อคืนวันศุกร์ (16) ที่ผ่านมา
วันนี้(18ก.ย.) กระทรวงต่างประเทศมาลเซียออกคำแถลง โดยแนะนำนักท่องเที่ยวให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย จนกว่าสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่จะดีขึ้น
นอกจากนี้ กระทรวงต่างประเทศมาลเซียเปิดเผยเพิ่มเติมว่า มีเด็กชายอายุ 3 ปี เป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตชาวมาเลเซีย 4 ราย จากเหตุการณ์ครั้งนี้ และศพของผู้เคราะห์ร้ายทั้งสี่ได้เดินทางกลับถึงมาเลเซียแล้ว
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างอิงข้อมูลจากศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ ว่า ตลอด 7 ปีของเหตุความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยมีผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ 4,800 ราย โดยตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมา มีการก่อเหตุสังหารผู้บริสุทธิ์แทบทุกวัน
เมื่อเวลา 09.00 น.วานนี้ (18 ก.ย.) พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รักษาการ ผบ.ตร.,พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รอง ผบ.ตร.,พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์มายังพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยมี พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผบช.ศชต.และ พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผบก.นราธิวาส ให้การต้อนรับและนำตรวจเยี่ยมสถานที่เกิดเหตุคนร้ายวางระเบิดคาร์บอมบ์และจักรยานยนต์บอมบ์ 3 จุดเมื่อช่วงใกล้ค่ำคืนวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเจริญเขต ซอย 3 เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
โดย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ได้สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมสังเกตอาคารที่ตั้งของโรงแรม 3 แห่ง ซึ่งเป็นตึกสูงและเหมาะที่คนร้ายจะเปิดห้องพักของอาคารดังกล่าวในการจุดชนวนระเบิดตามที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ประเมินสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งมีแนวโน้มเป็นไปได้สูงเหมือนกับที่คนร้ายเคยใช้ห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่งเป็นสถานที่จุดชนวนระเบิดคาร์บอมบ์ที่นำมาจอดไว้หน้า สภ.สุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 21 ส.ค.51 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายรายรวมทั้งนายชาลี บุญสวัสดิ์ ผู้สื่อข่าวด้วย
ต่อมา พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ และคณะ ได้ไปยัง สภ.สุไหงโก-ลก เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจแก่กำลังพล 3 ฝ่าย ทั้งฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่จะเข้าประชุมร่วมกับชุดคลี่คลายคดี โดย พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผบช.ศชต.ได้สรุปเกี่ยวกับสถานการณ์ภาพรวมถึงเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ซึ่งปัจจุบันพบว่าเหตุร้ายที่เกิดขึ้นลดลงตามลำดับ
ส่วน พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผบก.นราธิวาส ได้สรุปเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.นราธิวาส โดยมีสถิติเหตุร้ายเกิดขึ้นลดลง แต่เหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นสถานการณ์ที่รุนแรงกว่าจังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับผลการสืบสวนสอบสวนคดีคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์และจักรยานยนต์บอมบ์ 3 จุดเมื่อวันที่ 16 ก.ย.โดยได้เปิดเทปบันทึกภาพของกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่สามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายเอาไว้ได้ควบคู่กับการรายงานให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ให้รับทราบ
โดยเทปโทรทัศน์ของกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพ 2 ใน 8 คนร้ายที่ร่วมก่อเหตุได้ค่อยข้างเด่นชัด ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นสมาชิกแนวร่วมเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี คือ นายสมาน และนายมะดิง (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และขอความร่วมมือพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์เดินทางเข้าให้ปากคำ แต่ถึงอย่างไรก็ตามได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนอกเครื่องแบบตามประกบบุคคลต้องสงสัยทั้ง 2 คนแล้วในขณะนี้เพื่อป้องกันการหลบหนีหากเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับใน 2-3 วันนี้
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เผยว่า คดีดังกล่าวคืบหน้าไปมาก เตรียมจะออกหมายจับคนร้ายในเบื้องต้น 2 คน ซึ่งเป็นสมาชิกแนวร่วมกองกำลังติดอาวุธ RKK ที่มีความเกี่ยวโยงจากการว่าจ้างของกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ ซึ่งจากเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นต้องมีการปรับระบบการ รปภ.เมืองสุไหงโก-ลกใหม่ให้กำลัง 3 ฝ่ายทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง แบ่งพื้นที่รับผิดชอบให้ชัดเจนและต้องทำงานให้สอดคล้องกัน เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเกิดความรูสึกปลอดภัยในการดำรงชีวิตและขณะเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่สุไหงโก-ลก
ส่วนกรณีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตล่าสุด นายจันทร์ ดาเวง อายุ 53 ปี ที่ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ จ.ยะลา ได้เสียชีวิตลงแล้วในช่วงคืนที่ผ่านมา รวมผู้เสียชีวิตทั้งหมดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็น 5 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งสิ้น 13 ราย ที่ยังต้องนอนรักษาตัว ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ โรงพยาบาลศูนย์ยะลา และโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก
ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าขณะนี้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ลงพื้นที่แล้ว อยู่ในระหว่างรอการรายงาน ซึ่งจะกลับมาประชุมและหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงมหาดไทย ตำรวจ และทหารอีกครั้ง
ส่วนกรณีที่นักวิชาการมองว่า ปัญหาภาคใต้เกิดจากการโยกย้าย เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นั้น ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ได้มีการโยกย้าย เลขาฯ ศอ.บต.ยังเป็นคนเดิม
***มาเลเซียเตือนไม่ให้เข้าภาคใต้
เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอาจตั้งเป้าเล่นงานนักท่องเที่ยว จากการลอบวางระเบิดในเขตเทศบาลเมือง อ.สุไหงโก-ลก โดยระเบิดลูกแรกเป็นระเบิดรถจักรยานยนต์ บริเวณหน้าสมาคมแต้จิ๋ว ลูกที่ 2 เป็นระเบิดรถจักรยานยนต์เช่นกัน บริเวณหน้าโรงแรมปาร์คสัน และลูกที่ 3 เป็นระเบิดรถยนต์ บริเวณสี่แยกโรงแรมเมอร์ลิน เมื่อคืนวันศุกร์ (16) ที่ผ่านมา
วันนี้(18ก.ย.) กระทรวงต่างประเทศมาลเซียออกคำแถลง โดยแนะนำนักท่องเที่ยวให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย จนกว่าสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่จะดีขึ้น
นอกจากนี้ กระทรวงต่างประเทศมาลเซียเปิดเผยเพิ่มเติมว่า มีเด็กชายอายุ 3 ปี เป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตชาวมาเลเซีย 4 ราย จากเหตุการณ์ครั้งนี้ และศพของผู้เคราะห์ร้ายทั้งสี่ได้เดินทางกลับถึงมาเลเซียแล้ว
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างอิงข้อมูลจากศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ ว่า ตลอด 7 ปีของเหตุความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยมีผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ 4,800 ราย โดยตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมา มีการก่อเหตุสังหารผู้บริสุทธิ์แทบทุกวัน
