xs
xsm
sm
md
lg

“อดุลย์”ลั่นคุมไฟใต้อยู่ปัดลองภูมิ“ยิ่งลักษณ์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ -“อดุลย์”ลั่นคุมสถานการณ์ใต้อยู่ เตรียมหารือ “กอ.รมน.-ศอ.บต.”หน่วยงานเกี่ยวข้อง ปรับจุดอ่อนการทำงานเพื่อความปลอดภัยของ ปชช.ปัดไม่เกี่ยวลองภูมิรัฐบาลใหม่ เผยปีนี้โดนคาร์บอมบ์แล้ว 7 ครั้ง “ยงยุทธ”โต้ไม่เกี่ยวนโยบายปราบยาเสพติด เชื่อ ไม่มีใช่เรื่องแบ่งแยกดินแดน ด้านกำลัง จนท.ยะลาสนธิกำลังปิดล้อมตรวจค้นกดดันกลุ่มแนวร่วมพื้นที่เป้าหมาย 5 จุดในเบตง หลังหน่วยข่าวเตือนมีกลุ่มแนวร่วมกว่า 100 กระจายเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ จชต.

เมื่อเวลา12.00 น.วานนี้ (19ก.ย.)ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าหารือกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกฯด้านความมั่นคงกรณีการออกหมายจับ 2 คนร้ายที่วางระเบิดคาร์บอมบ์ 3 จุดกลางเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาสว่า ได้มารายงานเรื่องของดคีจากการสืบสวนนั้นมีความคืบหน้าไปเยอะ โดยจะมีการออกหมายจับผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน ซึ่งขณะนี้พบว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้อง 5 คนและอาจมากกว่านั้น แต่เรามีหลักฐานที่สามารถออกหมายจับได้เพียง 2 คนก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับอะไรมากเป็นพิเศษหรือไม่ พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ก็คงต้องทบทวนการปฏิบัติในเรื่องความปลอดภัยของประชาชน เพราะมีจุดอ่อนบางอย่างที่ต้องพิจารณาและกลับมาทบทวน ซึ่งจะต้องมีการหารือร่วมกับหลายหน่วยงาน เพื่อพิจารณาร่วมกันกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเร็วๆนี้ด้วย เมื่อถามว่า จากนี้ไปนายกฯได้มอบหมายให้ดูแลในคดีนี้โดยเฉพาะหรือไม่ พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า เรื่องคดีทางตำรวจได้ดูแลอยู่แล้ว ซึ่งแนวทางในขณะนี้ยังไม่มีข้อยุติ เนื่องจากเป็นเพียงข้อเสนอและต้องฟังจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน

เมื่อถามถึงเรื่องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวต่างชาติ ซึ่งขณะนี้ทางประเทศมาเลเซียได้ออกประกาศห้ามคนในประเทศเข้ามาในไทย พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวเลี่ยงว่า "วันนี้ ผมมาเรื่องความคืบหน้าทางคดีเพียงอย่างเดียว"

เมื่อถามว่าแนวโน้มสถานการณ์ทางภาคใต้จะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกหรือไม่ พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ตนเห็นว่าเป็นเหมือนคลื่นเป็นเวฟ เพราะผู้ก่อการร้ายพยายามก่อเหตุเป็นช่วงๆ แต่โดยภาพรวมเราสามารถที่จะดูแลได้ เมื่อถามต่อว่า มองดูเวฟของเขาแรงไหมและเป็นการลองภูมิรัฐบาลใหม่หรือไม่ รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า "ก็เป็นแพ็ตเทิร์นของเขาอยู่แล้ว ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่ของรัฐบาลใหม่"

เมื่อถามว่า หากรัฐบาลเน้นหนักเรื่องปราบปรามยาเสพติดจะทำให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบแรงขึ้นอีกหรือไม่ รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา เพราะการปฏิบัติการของเขาก็มีเป็นช่วงๆ อยู่แล้ว มีการระเบิดบ่อยที่ จ.ยะลา ในปี 48 และระเบิดบ่อยใน จ.นราธิวาส โดยทุกคดีที่เกิดขึ้นเราพยายามสืบความจริงในพื้นที่ สำหรับภาพรวมขณะนี้เรายังควบคุมได้ไม่ต้องห่วง เรายังโอเค เมื่อถามถึงเรื่องของคาร์บอมบ์ในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า คาร์บอมบ์เท่าที่ผ่านมาใน 7 ปีมี 26 ครั้ง ส่วนในปีนี้มี 7 ครั้ง

ด้านนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ความรุนแรงของภาคใต้เป็นปัญหาที่หมักหมมมานาน คงไม่ได้เกี่ยวเรื่องอื่นๆ และเป็นเหมือนปัญหาลูกคลื่น เดี๋ยวก็ดีขึ้นสูงขึ้นแล้วเดี๋ยวก็ต่ำลง อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าปัญหาภาคใต้จะบอกว่าเป็นปัญหามาจากส่วนหนึ่งส่วนใด คงไม่ชัดเจนว่าเป็นปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาการเปลี่ยนรัฐบาล ถ้าเรามองแยกส่วนอย่างนั้นเราก็แก้ปัญหาภาคใต้ไม่ได้ ต้องมองภาพรวมทั้งหมด เมื่อเห็นภาพรวมแล้วก็อาจจะฉายแสงไปแก้ปัญหาย่อยๆ ได้ ขอยืนยันว่าปัญหาภาคใต้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติด หรือการเปลี่ยนรัฐบาลแต่อย่างใด

“ส่วนขบวนการแบ่งแยกดินแดนนั้นที่เป็นภาพจริงๆ และเป็นความรู้สึกของประชาชนจริงๆ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นจากการที่ผมได้ทำงานและอยู่ที่นั่นเกือบตลอดชีวิต ความรู้สึกแบ่งแยกดินแดนของคนไทยมุสลิมไม่มีความรู้สึกเช่นนั้นอีกแล้ว อยางไรก็ตาม หากถามว่าจะมีความขัดแค้นใจในบางเรื่องหรือความยากไร้ในวัตถุก็อาจจะยังมีอยู่ แต่ว่าความคับแค้นในดังกล่าวไม่ใช่เรื่องของความต้องการแบ่งแยกดินแดน แต่น่าจะเป็นเรื่องของความยุติธรรม ความเท่าเทียมกันมากกว่า”นายยงยุทธ กล่าวและว่า ไม่มีเพื่อนบ้านเกี่ยวข้องเพราะอย่างมาเลเซียเป็นเพื่อนบ้านที่ดี เป็นประเทศที่เป็นมิตรที่ดีกับไทย ความยุ่งยากและความไม่สงบบริเวณ 3 จังหวัดชายแดนใต้ก็กระทบประเทศเขาเช่นเดียวกัน

วันเดียวกัน เวลา 04.30 น.นายดลเดช พัฒนรัฐ นายอำเภอเบตง จ.ยะลา ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.สมหมาย มะณีจันทร์ สว.สส.สภ.ยะรม ร.ต.วีรจักร เสริมชัย รอง ผบ.ร้อย ม.4 พร้อมด้วยนายบุญชัย เลี้ยงภิรมย์ภักดี ปลัดอำเภอเบตง เปิดยุทธการเชิงรุกในการปิดล้อมตรวจค้นกดดันกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบในพื้นที่เป้าหมาย 5 จุดในพื้นที่ ม.4 ต.ยะรม อ.เบตง โดยได้สนธิกำลังกันระหว่างทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และกองกำลังภาคประชาชน (อรบ) กระจายกำลังกันปิดล้อมตรวจค้นทุกพื้นที่เป้าหมาย

นายอำเภอเบตง กล่าวว่า การปิดล้อมตรวจค้นครั้งนี้เพื่อเป็นการกดดันกลุ่มแนวร่วมที่จะพยายามลักลอบเข้ามาก่อเหตุร้ายในพื้นที่ หลังหน่วยข่าวด้านความมั่นคงได้แจ้งเตือนว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุความรุนแรงระดับหัวหน้าชุดปฏิบัติการที่มีความชำนาญเรื่องการประกอบวัตถุระเบิดชนิดแสวงเครื่องและสมาชิกแนวร่วมที่มีส่วนเกี่ยวพันกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิดหลายพื้นที่เข้ามาหลบซ่อน เพื่อเตรียมการก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

อย่างไรก็ตาม หน่วยข่าวด้านความมั่นคง ได้แจ้งเตือนไปยังหน่วยกำลังในพื้นที่อย่างต่อเนื่องว่า ยังจะมีการลอบวางระเบิดต่อไปอีกในหลายพื้นที่ตลอดทั้งเดือนกันยายน โดยจะมีการก่อเหตุต่อไป และพบว่ากลุ่มแนวร่วมกว่า 100 คนที่ได้รับการฝึกจากประเทศเพื่อนบ้านกระจายเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเตรียมก่อเหตุร้ายพร้อมกันในเดือนกันยายนนี้ โดยเฉพาะระเบิดคาร์บอมบ์ และ จยย.บอมบ์
กำลังโหลดความคิดเห็น