**นาทีนี้คงไม่มีใครเฮฮาเท่ากับนายตำรวจในเครือข่ายของระบอบทักษิณ ที่ยกแถวกันกลับเข้ามามีอำนาจ
ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เพื่อนร่วมรุ่นของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีอาญาที่เคยรับหน้าเสื่อคุมกระเป๋าเงินให้ทักษิณ ผ่านการมอมเมาประชาชนด้วยหวยบนดินในขณะดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานกองสลาก ก็ได้กลับฐานที่มั่นเดิม เตรียมใช้กองสลากเป็นถุงเงินทางการเมืองอีกรอบ
ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เตรียมแต่งตัวรอ เลื่อนชั้นขึ้นเป็นข้าราชการระดับ 11 กินตำแหน่งเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จะเป็นเพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เห็นผลงานหรือเป็นเพราะสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นที่มีกับนักโทษทักษิณ ก็ไม่สำคัญเท่ากับว่า การจัดตัวบุคคลไปวางตามหน่วยงาน มิได้คำนึงถึงความเหมาะสมนอกจากเป้าหมายทางการเมือง
ทั้งๆ ที่ตำแหน่งนี้มีความหมาย และความสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนเพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เรื้อรังจากความผิดพลาดเชิงนโยบายในยุคทักษิณเรืองอำนาจมาจนถึงปัจจุบัน
แทนที่ทักษิณจะแก้ไขความผิดพลาด กลับใช้ตำแหน่งสำคัญนี้ เป็นขั้นบันไดให้ พ.ต.อ.ทวี ไต่เต้าเติบโตในทางราชการ สู่ตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรมในอนาคตเท่านั้น โดยไม่สนใจว่าจะส่งผลต่อการแก้ปัญหาความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างไร
เพราะปัญหาในภาคใต้ ต้องการคนรู้จริงและเข้าใจถึงสภาพปัญหาอย่างถึงแก่น ดังนั้นแค่คิดที่จะเขี่ย ภาณุ อุทัยรัตน์ ที่อยู่ในพื้นที่ เข้าใจสภาพปัญหาออกจากความรับผิดชอบในตำแหน่ง เลขาฯศอ.บต. ไม่เพียงคิดผิด แต่ยังเป็นการบริหารที่ไร้ความรับผิดชอบต่อประชาชนอีกด้วย
เนื่องจาก พ.ต.อ.ทวี นอกจากจะไม่มีมีความรู้ ความเข้าใจปัญหาภาคใต้อย่างแท้จริงแล้ว ยังมีความใกล้ชิดกับพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ทิ้งฝันร้ายจนเป็นบาดแผลร้าวลึกในใจคนในพื้นที่มาจนถึงทุกวันนี้ เพราะเขามีสิทธิ์ที่จะกังวลว่า จะมีการใช้นโยบายผิด นำความรุนแรงมาแก้ไขความรุนแรงอีกหรือไม่
**คาดว่า ไฟใต้จะลุกโชนมากขึ้น ภายใต้การกำกับดูแลของ พ.ต.อ.ทวี ซึ่งถือว่าเป็นสายเหยี่ยว
หวังว่า คำสารภาพของทักษิณที่เคยพูดไว้กับสื่อต่างชาติว่า ดำเนินนโยบายผิดทำให้ภาคใต้ลุกเป็นไฟจะให้บทเรียนว่า ไม่ควรทำผิดซ้ำอีก พ.ต.ท.ทักษิณ เคยทำลายกลไกการแก้ปัญหาด้วยการยุบ ศอ.บต.มาแล้ว อย่าทำลายกลไกนี้เพียงเพื่อตอบสนองความทะยานอยากและเป้าหมายทางการเมือง
**คิดผิดคิดใหม่ได้ อย่าสร้างตราบาปให้กับคนในภาคใต้อีกเลย
เพราะลำพังนโยบายของรัฐบาลในขณะนี้ก็ไม่มีความชัดเจนใดๆ ที่จะแสดงให้ความสำคัญกับการคืนสันติสุขให้กับภาคใต้อยู่แล้ว เมื่อไม่มีนโยบายก็แค่ให้กลไกที่มีอยู่ได้ทำงานเต็มกำลังความสามารถก็พอแล้ว
แต่หลายตำแหน่งเคาะกันไปแล้วไม่เห็นแววที่จะคิดใหม่ทั้งการวางตัว พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันตชัย ไปเป็นอธิบดีกมราชทัณฑ์ เพื่อเปิดทางช่วย พ.ต.ท.ทักษิณรอดคุก ซึ่งประวัติผลงานชิ้นโบว์ดำของ พ.ต.อ.สุชาติ ที่แสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีต่อทักษิณมากกว่าข้าวแดงแกงร้อนจากภาษีของประชาชน ปรากฏในหลายกรณี
ตั้งแต่เป็คนชงเรื่องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ สมัยอยู่ดีเอสไอ และยังปกป้องทักษิณในขณะเป็นผู้ตรวจราชการอยู่ ไอซีที ซึ่งในขณะนั้น ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี เป็น รมว.ไอซีที แต่งตั้งให้เป็นประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญากรณียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่สรุปว่า กระทรวงไม่ต้องดำเนินการใดๆ เพราะไม่ปรากฏว่ามีความเสียหายเกิดขึ้น ทั้งที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาระบุชัดว่า รัฐเสียหายในส่วนใดบ้าง
**แต่ พ.ต.อ.สุชาติ ก็มีมติอุ้มนักโทษทักษิณมาแล้ว เรียกว่ารับใช้ได้ที่ เลยได้ดีกันถ้วนหน้า
ยังไม่นับรวม พ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ มือขวา พ.ต.อ.ทวี ที่ได้ตามฝันในตำแหน่ง ผอ.ปปท. หลังแห้วในยุคอภิสิทธิ์เป็นรัฐบาล นายตำรวจคนนี้ผลงานไม่มีอะไรมาก แค่เป็นลูกพี่วรวุฒิ มุ่งสันติ มือสังหาร สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เท่านั้นเอง !
ไม่เพียงเท่านั้นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยังกล้าได้อีก ถึงขนาดตอบแทน พสิษฐ์ ศักดาณรงค์ มือปล่อยคลิปทำลายศาลรัฐธรรมนูญ เป็นที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข ยิ่งสะท้อนชัดถึงขบวนการทำลายศาล
หัวขบวนไม่ใช่ใครที่ไหน คือ คนอยู่แดนไกลนั่นเอง
แต่ที่ต้องจับตาใกล้ชิดคือคนที่ยังก้นเหนียวได้อยู่ในตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ อย่าง ธาริต เพ็งดิษฐ์ ที่ทำให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กลับลำ 360 องศา เบรคตัวเองหัวทิ่มจากเดิมเตรียมไล่ธาริต มาเป็นชมว่าทำงานดีจนคนเสื้อแดงยังงง ปรับตัวไม่ถูก
เหตุผลที่ให้ธาริตอยู่ในตำแหน่งต่อนั้น มิใช่ว่ารัฐบาลปูแดงจะเกรงกลัวต่อกระแสสังคม หากมีแผนลึกล้ำกว่านั้น
ว่ากันว่าเตรียมใช้ธาริต เป็นอาวุธลับล้างผิดให้เสื้อแดงในคดีล้มเจ้า ย้อนศรให้พรรคประชาธิปัตย์พูดไม่ออกโจมตีไม่ได้ เพราะเคยการันตีว่า ธาริตเป็นข้าราชการมืออาชีพไม่ทำงานตามใบสั่งการเมือง ดังนั้นหากสรุปว่าคดีไม่มีมูล หรือทำสำนวนอ่อนจนอัยการสั่งไม่ฟ้อง ก็ไม่ใช่เพราะ “ใบสั่ง” จากแดงที่ใหญ่คับเมืองในตอนนี้
**แต่เป็นเพราะ ธาริต เป็นข้าราชมืออาชีพ มีหน้าที่ปกป้องเก้าอี้ตัวเองก็เท่านั้น
**นี่แหละสังคมไทยยุคระบอบทักษิณครองเมือง ภาค 2 !
ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เพื่อนร่วมรุ่นของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีอาญาที่เคยรับหน้าเสื่อคุมกระเป๋าเงินให้ทักษิณ ผ่านการมอมเมาประชาชนด้วยหวยบนดินในขณะดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานกองสลาก ก็ได้กลับฐานที่มั่นเดิม เตรียมใช้กองสลากเป็นถุงเงินทางการเมืองอีกรอบ
ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เตรียมแต่งตัวรอ เลื่อนชั้นขึ้นเป็นข้าราชการระดับ 11 กินตำแหน่งเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จะเป็นเพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เห็นผลงานหรือเป็นเพราะสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นที่มีกับนักโทษทักษิณ ก็ไม่สำคัญเท่ากับว่า การจัดตัวบุคคลไปวางตามหน่วยงาน มิได้คำนึงถึงความเหมาะสมนอกจากเป้าหมายทางการเมือง
ทั้งๆ ที่ตำแหน่งนี้มีความหมาย และความสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนเพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เรื้อรังจากความผิดพลาดเชิงนโยบายในยุคทักษิณเรืองอำนาจมาจนถึงปัจจุบัน
แทนที่ทักษิณจะแก้ไขความผิดพลาด กลับใช้ตำแหน่งสำคัญนี้ เป็นขั้นบันไดให้ พ.ต.อ.ทวี ไต่เต้าเติบโตในทางราชการ สู่ตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรมในอนาคตเท่านั้น โดยไม่สนใจว่าจะส่งผลต่อการแก้ปัญหาความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างไร
เพราะปัญหาในภาคใต้ ต้องการคนรู้จริงและเข้าใจถึงสภาพปัญหาอย่างถึงแก่น ดังนั้นแค่คิดที่จะเขี่ย ภาณุ อุทัยรัตน์ ที่อยู่ในพื้นที่ เข้าใจสภาพปัญหาออกจากความรับผิดชอบในตำแหน่ง เลขาฯศอ.บต. ไม่เพียงคิดผิด แต่ยังเป็นการบริหารที่ไร้ความรับผิดชอบต่อประชาชนอีกด้วย
เนื่องจาก พ.ต.อ.ทวี นอกจากจะไม่มีมีความรู้ ความเข้าใจปัญหาภาคใต้อย่างแท้จริงแล้ว ยังมีความใกล้ชิดกับพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ทิ้งฝันร้ายจนเป็นบาดแผลร้าวลึกในใจคนในพื้นที่มาจนถึงทุกวันนี้ เพราะเขามีสิทธิ์ที่จะกังวลว่า จะมีการใช้นโยบายผิด นำความรุนแรงมาแก้ไขความรุนแรงอีกหรือไม่
**คาดว่า ไฟใต้จะลุกโชนมากขึ้น ภายใต้การกำกับดูแลของ พ.ต.อ.ทวี ซึ่งถือว่าเป็นสายเหยี่ยว
หวังว่า คำสารภาพของทักษิณที่เคยพูดไว้กับสื่อต่างชาติว่า ดำเนินนโยบายผิดทำให้ภาคใต้ลุกเป็นไฟจะให้บทเรียนว่า ไม่ควรทำผิดซ้ำอีก พ.ต.ท.ทักษิณ เคยทำลายกลไกการแก้ปัญหาด้วยการยุบ ศอ.บต.มาแล้ว อย่าทำลายกลไกนี้เพียงเพื่อตอบสนองความทะยานอยากและเป้าหมายทางการเมือง
**คิดผิดคิดใหม่ได้ อย่าสร้างตราบาปให้กับคนในภาคใต้อีกเลย
เพราะลำพังนโยบายของรัฐบาลในขณะนี้ก็ไม่มีความชัดเจนใดๆ ที่จะแสดงให้ความสำคัญกับการคืนสันติสุขให้กับภาคใต้อยู่แล้ว เมื่อไม่มีนโยบายก็แค่ให้กลไกที่มีอยู่ได้ทำงานเต็มกำลังความสามารถก็พอแล้ว
แต่หลายตำแหน่งเคาะกันไปแล้วไม่เห็นแววที่จะคิดใหม่ทั้งการวางตัว พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันตชัย ไปเป็นอธิบดีกมราชทัณฑ์ เพื่อเปิดทางช่วย พ.ต.ท.ทักษิณรอดคุก ซึ่งประวัติผลงานชิ้นโบว์ดำของ พ.ต.อ.สุชาติ ที่แสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีต่อทักษิณมากกว่าข้าวแดงแกงร้อนจากภาษีของประชาชน ปรากฏในหลายกรณี
ตั้งแต่เป็คนชงเรื่องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ สมัยอยู่ดีเอสไอ และยังปกป้องทักษิณในขณะเป็นผู้ตรวจราชการอยู่ ไอซีที ซึ่งในขณะนั้น ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี เป็น รมว.ไอซีที แต่งตั้งให้เป็นประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญากรณียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่สรุปว่า กระทรวงไม่ต้องดำเนินการใดๆ เพราะไม่ปรากฏว่ามีความเสียหายเกิดขึ้น ทั้งที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาระบุชัดว่า รัฐเสียหายในส่วนใดบ้าง
**แต่ พ.ต.อ.สุชาติ ก็มีมติอุ้มนักโทษทักษิณมาแล้ว เรียกว่ารับใช้ได้ที่ เลยได้ดีกันถ้วนหน้า
ยังไม่นับรวม พ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ มือขวา พ.ต.อ.ทวี ที่ได้ตามฝันในตำแหน่ง ผอ.ปปท. หลังแห้วในยุคอภิสิทธิ์เป็นรัฐบาล นายตำรวจคนนี้ผลงานไม่มีอะไรมาก แค่เป็นลูกพี่วรวุฒิ มุ่งสันติ มือสังหาร สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เท่านั้นเอง !
ไม่เพียงเท่านั้นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยังกล้าได้อีก ถึงขนาดตอบแทน พสิษฐ์ ศักดาณรงค์ มือปล่อยคลิปทำลายศาลรัฐธรรมนูญ เป็นที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข ยิ่งสะท้อนชัดถึงขบวนการทำลายศาล
หัวขบวนไม่ใช่ใครที่ไหน คือ คนอยู่แดนไกลนั่นเอง
แต่ที่ต้องจับตาใกล้ชิดคือคนที่ยังก้นเหนียวได้อยู่ในตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ อย่าง ธาริต เพ็งดิษฐ์ ที่ทำให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กลับลำ 360 องศา เบรคตัวเองหัวทิ่มจากเดิมเตรียมไล่ธาริต มาเป็นชมว่าทำงานดีจนคนเสื้อแดงยังงง ปรับตัวไม่ถูก
เหตุผลที่ให้ธาริตอยู่ในตำแหน่งต่อนั้น มิใช่ว่ารัฐบาลปูแดงจะเกรงกลัวต่อกระแสสังคม หากมีแผนลึกล้ำกว่านั้น
ว่ากันว่าเตรียมใช้ธาริต เป็นอาวุธลับล้างผิดให้เสื้อแดงในคดีล้มเจ้า ย้อนศรให้พรรคประชาธิปัตย์พูดไม่ออกโจมตีไม่ได้ เพราะเคยการันตีว่า ธาริตเป็นข้าราชการมืออาชีพไม่ทำงานตามใบสั่งการเมือง ดังนั้นหากสรุปว่าคดีไม่มีมูล หรือทำสำนวนอ่อนจนอัยการสั่งไม่ฟ้อง ก็ไม่ใช่เพราะ “ใบสั่ง” จากแดงที่ใหญ่คับเมืองในตอนนี้
**แต่เป็นเพราะ ธาริต เป็นข้าราชมืออาชีพ มีหน้าที่ปกป้องเก้าอี้ตัวเองก็เท่านั้น
**นี่แหละสังคมไทยยุคระบอบทักษิณครองเมือง ภาค 2 !